สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จะมีการผ่อนปรนเกณฑ์ในการขอวีซ่าหางาน (D-10) และวีซ่าทำงาน (E-7) สำหรับเยาวชนที่มีความสามารถ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างไทย–เกาหลี และเพิ่มโอกาสให้เยาวชนไทยได้ทำงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ด้านภาษาเกาหลีเป็นอย่างดี จะได้รับการผ่อนปรนทั้งด้านการตรวจสอบหลักฐานค่าใช้จ่ายในการพำนัก การประเมินคะแนน และยังสามารถพำนักอยู่ได้ยาวนานขึ้นจากเดิม 1 ปี เป็นสูงสุด 3 ปี
สำหรับผู้สมัครที่มีอายุไม่เกิน 29 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภาษาเกาหลีหรือเกาหลีศึกษา และสอบผ่าน TOPIK ระดับ 6 เมื่อสมัครขอวีซ่าหางาน D-10-1 ในประเทศเกาหลี จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องยื่นเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายในการพำนัก และไม่ต้องมีคะแนนประเมินขั้นต่ำ 60 คะแนน โดยระยะเวลาการพำนักจะขยายจากเดิม 1 ปี เป็น 3 ปี
มาตรการผ่อนปรนนี้เกิดขึ้นจากการที่กระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐเกาหลีอนุมัติข้อเสนอของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาไทยที่เรียนสาขาวิชาภาษาเกาหลีหรือเกาหลีศึกษาในประเทศไทยได้รับโอกาสมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยในประเทศไทยประมาณ 28 แห่งที่เปิดสอนสาขาภาษาเกาหลีและเกาหลีศึกษา ทั้งในหลักสูตรเอก โท และวิชาเลือกทั่วไป
นอกจากนี้ เกณฑ์ของวีซ่าทำงานประเภท E-7 ก็ได้รับการผ่อนปรนเช่นกัน จากเดิมต้องมีคุณสมบัติเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน วุฒิการศึกษา และสาขาอาชีพที่ตรงตามเกณฑ์ แต่ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาเกาหลีจะได้รับการยกเว้นการตรวจสอบในส่วนของสาขาวิชาและประสบการณ์การทำงาน
อีกทั้ง สำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 29 ปี ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่อยู่ใน QS ไม่เกินอันดับที่ 1,000 ในเกณฑ์ 3 ปีที่ผ่านมา และสอบผ่าน TOPIK ระดับ 2 จะได้รับคะแนนพิเศษในการพิจารณาวีซ่าและสามารถพำนักในเกาหลีใต้ได้สูงสุด 3 ปี
※ มหาวิทยาลัยที่อยู่ในรายชื่อ (ตามเกณฑ์ปี 2026):
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ชลบุรี)
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย นายปาร์ค ยงมิน กล่าวว่า มาตรการนี้เกิดขึ้นจากความพยายามของสถานทูตในการขอให้รัฐบาลเกาหลีผ่อนปรนเกณฑ์ เพื่อให้นักศึกษาไทยที่เรียนภาษาเกาหลีมีโอกาสในการทำงานมากขึ้น พร้อมทั้งคาดหวังว่าการจ้างงานและการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างสองประเทศจะช่วยส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย
(เว็บไซต์) https://overseas.mofa.go.kr/th-th/index.do
https://overseas.mofa.go.kr/th-ko/brd/m_28336/view.do?seq=34&page=1
(เฟซบุ๊ก) https://www.facebook.com/share/v/1BNc1uSEdi/
