ผักกาดหอม
พรรคส้มนี่สุดๆ เหมือนกันนะครับ
ก็ไม่รู้ “มีเราไม่มีเทา” อีท่าไหน เรื่องเล็กๆ อย่างกรณีสส.ของพรรคตั้งเด็ก ม.๔ เป็นผู้ช่วย สส. รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน เขาขอเวลาตรวจสอบ ๓ วัน!
ถ้าจะตรวจสอบกันจริงๆ ๓๐ นาทีก็รู้เรื่องแล้วครับ
แต่นี่ขอเวลาตั้ง ๓ วัน
จะไม่มากไปหน่อยหรือครับ
สส.คนที่ว่าคือ “ปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์” สส.กทม. พรรคประชาชน แต่งตั้ง “คณิศร” เป็นผู้ช่วย สส. เมื่อปี ๒๕๖๕ ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.๔
โดยเฉลี่ยแล้ว เด็ก ม.๔ อายุเท่าไหร่
๑๕-๑๖
อายุแค่นี้มีคุณสมบัติเป็นผู้ช่วยได้หรือเปล่า?
เอกสารของรัฐสภาอธิบายถึงตำแหน่ง “ผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” หรือ “ผู้ช่วย สส.” ไว้ชัดเจนครับ
หมายถึง บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเพื่อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
มีหน้าที่ความรับผิดชอบตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำหนด
ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการแต่งตั้งบุคคลเพื่อปฏิบัติหน้าที่อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ และประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งบุคคลเพื่อปฏิบัติงานให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้บุคคลที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ไม่มีลักษณะต้องห้าม และมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติทั่วไปและลักษณะต้องห้าม
๑.มีสัญชาติไทย
๒.มีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์
๓.เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วย
๔.ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
๕.ไม่เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการการเมือง ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง พนักงานหน่วยงานของรัฐ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
๖.ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
๗.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
๘.ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบข้าราชการรัฐสภา หรือกฎหมายอื่น
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
๑.สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือ
๒.สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป และเคยปฏิบัติหรือประสานงานทางด้านการเมือง
มาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี หรือ
๓.ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และเคยปฏิบัติหรือประสานงานทางด้านการเมือง
มาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือ
๔.ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และเคยปฏิบัติหรือประสานงานทางด้านการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี หรือ
๕.สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ) และเคยปฏิบัติหรือประสานงานทางด้านการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า ๗ ปี
ถ้า นายคณิศร อายุ ๑๘ ปี ตอนเรียน ม.๔ ก็ถือว่าเข้าเกณฑ์
แสดงว่าเรียนช้ากว่าเกณฑ์ประมาณ ๓ ปี
วิธีการคัดเลือกและการแต่งตั้งนั้น สส.จะเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติทั่วไป ไม่มีลักษณะต้องห้าม และมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยดำเนินงานของตน
โดย สส.ต้องให้คำรับรองว่าผู้นั้นมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานที่อยู่ในหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในประกาศดังกล่าว และดำเนินการตามแบบที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกำหนด และให้ผู้ถูกเสนอชื่อยื่นใบรายงานตัวตามแบบที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกำหนดพร้อมหลักฐาน
จากนั้นสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะตรวจสอบคุณสมบัติจากหลักฐานต่างๆ ของผู้ถูกเสนอชื่อทุกราย และเมื่อเห็นว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้แล้ว เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงมีคำสั่งแต่งตั้งผู้นั้น
เป็นผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๑ คน มีผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้จำนวน ๕ คน
แต่ละคนได้รับค่าตอบแทน ๑๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน
นอกจากนั้นผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับแต่งตั้งเพื่อปฏิบัติงานให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งคนใดแล้ว จะดำรงตำแหน่งนั้นได้เพียงตำแหน่งเดียว จะต้องไม่เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. ผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิก สส. หรือผู้ช่วยดำเนินงานของ สส. หรือผู้ปฏิบัติงานให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนอื่นอีก
พูดง่ายๆ คือต้องกินเงินเดือนตำแหน่งเดียวเท่านั้น
ผู้ช่วยดำเนินงานของ สส.มีวาระดำรงตำแหน่งถึงวันสิ้นปีงบประมาณของปีที่แต่งตั้ง และพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระเมื่อ ตาย ลาออก ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
หรือขาดคุณสมบัติตามที่กำหนด
แค่นี้ครับพรรคส้มใช้เวลา ๓ วัน
ไปขอดูบัตรประชาชนของ นายคณิศร มันก็จบแล้ว ไม่เห็นต้องมีพิธีรีตองอะไรให้ยืดยาว
ประเด็นมันลุกลาม เพราะพรรคส้มประกาศว่า “มีเราไม่มีเทา”
การตั้งผู้ช่วย สส.ที่ขัดคุณสมบัติ สามารถอ้างได้ว่า เป็นเรื่องเฉพาะตัวของ สส.แต่ละคน
แต่…พรรคส้มคงลืมไปว่านี่คือการคอร์รัปชันอย่างหนึ่ง
ไม่มีเทาในส้ม มันต้องชัดเจนในท่าที
เมื่อทำตัวเป็นผู้ทรงศีล ผิดนิดเดียวก็ต้องฟันให้ขาด
ครับ…พรรคส้มก็เหมือนพรรคอื่นๆ นั่นแหละครับ
เวลาโจมตีคู่แข่ง น้ำไหลไฟดับ รู้ทุกเรื่อง เก่งทุกตอน
เมื่อไหร่ที่เพลี่ยงพล้ำ ความเก่งหายเกลี้ยง เช่นกรณีสส.บ้ากาม เงียบเป็นเป่าสากกันทั้งพรรค
พรรคส้มพยายามจะใช้กรณีสแกมเมอร์เป็นประเด็นหลักในการโจมตีรัฐบาลซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จึงปลุกขบวนการสีเทามาจุดกระแส
แต่ก็กลายเป็นว่าในส้มเองก็มีเทา
เทาแบบโกงเงินรัฐ.

