ทางสองแพร่งประชาธิปัตย์ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ระหว่างรอรัฐบาลอนุทินตั้งไข่เสร็จ กว่าจะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ กว่าจะแถลงนโยบายก็คงสัปดาห์หน้าไปแล้ว ช่วงนี้มาดูพรรคประชาธิปัตย์กันดีกว่า

หลังการลาออกแบบสายฟ้าแลบของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคขาดหัว

ต้องเลือกใหม่ภายใน ๖๐ วัน

ชื่อของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” มาแรง

ข่าวแว่วว่าบรรดาผู้อาวุโสในพรรค ไม่ว่าจะเป็น “ชวน หลีกภัย” “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ต่างก็อยากให้ “อภิสิทธิ์” กลับมาดูแลพรรคอีกครั้ง

เท่าที่สดับตรับฟังมาร่วมสัปดาห์ เสียงเชียร์ “พี่มาร์ค” จากทั้งคนในและอดีตคนในเยอะจริงๆ ครับ

ก็อย่างว่าครับหลังยุค “อภิสิทธิ์” ประชาธิปัตย์ดำดิ่งมาตลอด

จากพรรคหลักร้อยเหลือหลักสิบ

จากหลักสิบกลางๆ เหลือหลักสิบต้นๆ

ถ้าไม่ทำอะไรเลย จะเป็นพรรคต่ำสิบในการเลือกตั้งครั้งถัดไปอย่างแน่นอน

การเข้าร่วมรัฐบาลระบอบทักษิณ ทำให้เอฟซีหายไปเยอะครับ คล้ายๆ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เอฟซีรักลุงตู่ไว้ใจน้าตุ๋ย แทบจะไม่เหลือแล้ว

๒ พรรคนี้จะร่วมชะตากรรมเดียวกัน เป็นพรรคต่ำสิบ

แต่เมื่อ “เฉลิมชัย” ลาออกทำให้เอฟซีประชาธิปัตย์เริ่มมีความหวัง

ในโซเชียลให้ความเห็นกันคึกคัก

“นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ออกตัวก่อนใคร

“…สนับสนุน คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ผมยินดีหาก คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะกลับมาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง และยินดีเข้าไปช่วยเหลือในการฟื้นฟูพรรค

โดยผมจะยังไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อเข้าไปเลือกหัวหน้าพรรค เพื่อแสดงว่า ไม่ต้องการตำแหน่งแห่งหนใดๆ ในพรรค และคิดล่วงหน้าไปว่า ในการฟื้นฟูพรรคควรทำเป็น ๒ ชุด คือ

๑.ชุดคนหนุ่ม-สาว สำหรับลงเลือกตั้ง

๒.ชุดผู้อาวุโสที่เคยสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่มาในอดีต สำหรับเป็นที่ปรึกษา

สำหรับคนหนุ่มที่จะลงเลือกตั้ง ต้องเป็นคนหนุ่ม-สาว ที่มีทัศนะเป็นบวกต่อบ้านเมือง ไม่ทำลายรากฐานหรือแก่นของชาติ แต่ปรับปรุงให้ทันสมัยต่อโลกสมัยใหม่ เป็นคนหนุ่ม-สาวที่เป็นโซ่ข้อกลาง ให้คนทุกรุ่นอยู่กันได้อย่างสันติ ไม่ทำลายคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง เพื่อสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่ที่ผมไม่รู้จักขึ้นมา

สำหรับประชาชน ก็เช่นกัน หากเห็นว่า สามก๊ก ใหญ่ คือ เพื่อไทย, ประชาชน, ภูมิใจไทย คือความหวังของชาติ ก็ไม่จำต้องสร้างประชาธิปัตย์ (ยุคใหม่) ขึ้นมาอีก หากเห็นว่า ยังวางใจไม่ได้ ก็ต้องร่วมกันฟื้นประชาธิปัตย์ (ยุคใหม่) ขึ้นมา

เงื่อนไขผมอาจจะเยอะ แต่คิดเอาเองว่า นี่คือ ‘ความรอดอย่างเดียวของชาติ’

การเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ เหมือน ‘เปิดถ้วยให้แทง’ แล้ว หากสมาชิกพรรคยังแทงไม่ถูกอีก ก็รอวันพรรคล่มสลายอย่างนิรันดร์…”

ครับ…ถ้าจะสร้างประชาธิปัตย์ก็ไม่พ้นแนวนี้

ไปดูอีกคน “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์” อธิบายรายละเอียดการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไว้อย่างละเอียดยิบ แต่ก็เวียนหัวพอควร คงเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของนายทุนคนใดคนหนึ่ง

“..อีกไม่นานพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่แทนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่เพิ่งลาออกไป คำถามคือ… ใครจะเป็นผู้คุมเกมตัวจริง?

๑.เกมตัวเลข… ใครคุมคะแนนเสียง?

ตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ‘โหวตเตอร์’ ถูกแบ่งออกเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ ดังนี้

(๑) สส.ปัจจุบันมีคะแนน ๔๐% ของคะแนนเสียงของที่ประชุมใหญ่

กลุ่ม สส.คือฐานกำลังที่แข็งที่สุด ใครกุมเสียง สส.ได้ก็มีโอกาสได้รับชัยชนะ ปัจจุบัน สส.ของพรรค ปชป.มีจำนวน ๒๕ คน มีคะแนน ๔๐% นั่นหมายความว่า สส. ๑ คน จะมีคะแนนถึง ๑.๖% (๔๐%/๒๕)

(๒) กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มีคะแนน ๒๐% ของคะแนนเสียงของที่ประชุมใหญ่

เดิม กก.บห.มีทั้งหมด ๔๐ คน ลาออกไป ๘ คน เหลือ ๓๒ คน ในจำนวนนี้มีคนที่เป็น สส.ปัจจุบัน ๘ คน เหลือ กก.บห.ที่ไม่เป็น สส. ๒๔ คน มีคะแนน ๒๐% นั่นหมายความว่า กก.บห. ๑ คน จะมีคะแนน ๐.๘๓% (๒๐%/๒๔)

(๓) โหวตเตอร์อื่น เช่น อดีตหัวหน้าพรรค อดีตเลขาธิการพรรค อดีต สส. รัฐมนตรีของพรรคในปัจจุบัน อดีตรัฐมนตรีของพรรค หัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เป็นต้น มีคะแนน ๔๐% ของคะแนนเสียงของที่ประชุมใหญ่

ตามข้อบังคับพรรค โหวตเตอร์ทั้งหมดจะต้องมีอย่างน้อย ๒๕๐ คน ดังนั้น จำนวนโหวตเตอร์อื่นจะต้องมีไม่น้อยกว่า ๒๐๑ คน (๒๕๐-๒๕-๒๔) มีคะแนน ๔๐% นั่นหมายความว่าโหวตเตอร์อื่น ๑ คน จะมีคะแนนเพียง ๐.๒๐% (๔๐%/๒๐๑) เท่านั้น ถ้าในวันเลือกตั้ง มีโหวตเตอร์เข้าร่วมมากกว่า ๒๕๐ คน จะยิ่งทำให้โหวตเตอร์อื่นมีคะแนนต่อคนลดน้อยลงอีก

สรุปง่ายๆ เสียง สส. และ กก.บห.แทบจะชี้ขาดทุกอย่าง เพราะมีคะแนนต่อคนสูง และส่วนใหญ่ยังอยู่ใน ‘ขั้วอำนาจปัจจุบัน’… นั่นคือคำตอบว่า ‘ขั้วอำนาจปัจจุบัน’ เป็นผู้คุมคะแนนเสียง!

๒.สมการชนะเลือกตั้ง

ลองคิดเล่นๆ… ถ้าได้คะแนนเสียงจาก สส. ๒๑ คน คิดเป็น ๓๓.๖% บวกกับ กก.บห. ๒๐ คน คิดเป็น ๑๖.๖๐% รวมแล้วได้ ๕๐.๒๐%… ชนะเลือกตั้งทันที! นี่คือเหตุผลว่าทำไม “ขั้วอำนาจปัจจุบัน” จึงได้เปรียบ

๓.ทำไม ‘คนนอกขั้วอำนาจปัจจุบัน’ จึงสู้ยาก?

เหตุผลคือ กลุ่ม สส.รวมกับกลุ่ม กก.บห. มีคะแนนรวมถึง ๖๐% ถ้าขั้วอำนาจปัจจุบันรวมกันได้ครบ ‘คนนอกขั้วอำนาจปัจจุบัน’ แทบจะหมดสิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม!

แต่ยังมี ‘สูตรคณิตศาสตร์การเมือง’ ที่จะทำให้ ‘คนนอกขั้วอำนาจปัจจุบัน’ พอจะมีลุ้นคือ…

(๑) ต้องเจาะเข้าถึง สส.บางส่วน แค่ ๔ คน ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ยังไม่พอ

(๒) ต้องมีเครือข่าย กก.บห.ที่ยอมแหกค่าย

(๓) ต้องกวาดคะแนนจากโหวตเตอร์อื่นอย่างน้อย ๓๐-๓๕% จากทั้งหมด ๔๐% ซึ่งไม่ง่าย

๔.สรุป

ถ้า ‘ขั้วอำนาจปัจจุบัน’ เห็นว่าพรรคฯ อยู่ในสถานการณ์ที่คะแนนความนิยม ‘จมดิ่ง’ ยากที่จะเข็นต่อไป และมีความรักพรรคฯ อย่างจริงใจ หันมาเปิดไฟเขียวให้หนุน ‘คนนอกขั้วอำนาจปัจจุบัน’

พรรคฯ จะได้ผู้นำคนใหม่ที่มาจากนอกขั้วอำนาจปัจจุบัน มาช่วยกันฟื้นฟูพรรคฯ ให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น… แต่ถ้าขั้วอำนาจปัจจุบันจับมือกันแน่น ผลลัพธ์แทบจะถูกเขียนไว้ล่วงหน้าแล้ว

สุดท้ายอยู่ที่ ‘โหวตเตอร์ทุกคน’ จะเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อใคร? เพื่อส่วนรวม? หรือเพื่ออำนาจของบางกลุ่ม?…”

สรุปว่าถ้า “เดชอิศม์ ขาวทอง” เลขาธิการพรรค ยังไม่คายอำนาจให้ใคร และยังคุม สส.พรรค สมาชิกพรรค ได้เหมือนเดิม ก็มองไม่เห็นทางว่า “อภิสิทธิ์” จะกลับเข้าไปได้อย่างไร

รวมทั้งไม่รู้จะกลับไปทำไม

เพราะเป็นปลาคนละน้ำ

รัฐบาลอนุทินมีภารกิจ ๔ เดือนยุบสภาเลือกตั้งใหม่

ประชาธิปัตย์ก็มีภารกิจยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

หาหัวหน้าพรรคคนใหม่ ถ่ายเลือดใหม่ เตรียมรับเลือกตั้งช่วง มีนาคม-เมษายน ปีหน้า

ย้ำอีกทีถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็ขอแสดงความเสียใจล่วงหน้า

ประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคต่ำสิบ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
นายกฯ กำชับ ควบคุมราคาสินค้าช่วงตรุษจีน ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา เอาเปรียบประชาชน
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.64- น.ส.ไตรศุลีไตรสรณกุลรองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีน2564 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ก.พ.นี้
Read More
0 replies on “ทางสองแพร่งประชาธิปัตย์ #ผักกาดหอม”