นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าประมาท ยังคงเข้มให้ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขต่อไป เน้นลดความแออัดในพื้นที่สาธารณะ จำกัดการเดินทาง ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น และหลีกเลี่ยงการรวมตัวเป็นกลุ่ม เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อชะลอการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายไปได้ง่ายและรวดเร็วจากการที่ประชาชนเดินทางไปที่ต่างๆ เช่น เหตุการณ์ที่สถานบันเทิง และสนามมวย
นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวต่อว่า ข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับตนเองจะติดเชื้อจากผู้ไม่แสดงอาการหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่า หากไม่มีไข้ ไม่มีอาการใด ๆ โอกาสที่เชื้อโรคจะแพร่มาทางน้ำลายมีน้อย เพราะในประเทศไทยแทบทุกคนสวมหน้าอนามัยหรือหน้ากากผ้าแล้ว แต่หากเคยไปในที่แออัด หรือสัมผัสกับผู้ป่วย ควรสังเกตอาการของตนเองในระยะเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ ข้อมูลทางระบาดวิทยา ในผู้ติดเชื้อ 100 คน จะมี 30 คนที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ อีก 50 คน จะมีอาการน้อย ซึ่งทั้งหมด 80 คนที่ติดเชื้อนี้สามารถหายได้เอง และโอกาสการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นมีค่อนข้างน้อย นอกจากจะติดต่อกันในระยะใกล้ชิด เช่น การตะโกน การพูดคุย การไอจาม ทำให้เชื้อที่อยู่ในน้ำลายกระเด็นใส่ผู้อื่น
“มาตรการที่เราดำเนินการอยู่ในตอนนี้ เป็นเพียงการชะลอการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่ เพื่อให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าประมาท ขอความร่วมมือประชาชนออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นและหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกันการอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน มาตรการจำกัดการเดินทาง ยังคงเป็นมาตรการที่สำคัญมากจะทำให้กระทรวงสาธารณสุขสามารถจัดการกับปัญหาได้ดี หากพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจะจัดมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่เหมาะสมต่อไป” นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าว