เปลว สีเงิน
ทักษิณนี่…ช่างน่าอิจฉา
มีแต่คนห่วงและถามกันว่า “อยู่ในคุกคุก กินได้-นอนหลับดีมั้ย?”
ถามอย่างนี้นี่นะ
ถ้าผมเป็นทักษิณ จะตอบว่า…ก็มึงลองเข้ามาติดคุกอย่างกูบ้างมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่ากินได้-นอนหลับดีมั้ย?
แต่กับทักษิณ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมสนใจคำพูดคนอยู่ ๒ คน คือ “แพทองธาร” กับ “นายภูมิธรรม-นายกฯ รักษาการ”
อดีตนายกฯ แพทองธาร เธอช่างสมกับที่เป็น “อภิชาตบุตร”
“พ่อติดคุก” ลูกบอก “ภูมิใจ”!?
“…ดิฉันเองและครอบครัว มีความรู้สึกเป็นห่วงคุณพ่อ แต่ก็รู้สึกภูมิใจ ที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายในประเทศ
จนมาวันนี้ ก็เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่ง ที่มีนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องจำคุก…..”
น่าสนใจนะ…..
ว่ามีอะไรบ้าง ที่คุณพ่อได้สร้างเป็นประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไว้มากมายนั่นน่ะ?
ผมคงอยู่ไม่ถึงได้ทันอ่านประวัติศาสตร์นั้นจากหนังสือแจกในงานศพหรอก
อยากให้อุ๊งอิ๊งรวบรวมประวัติศาสตร์ที่พ่อสร้างให้กับประเทศแล้วเขียนเป็นหนังสือออกขายซักเล่ม ตอนนี้เลย
ชาวบ้าน-ชาวเมือง รวมทั้งผม จะได้ซื้อมาศึกษา ว่าที่พ่ออุ๊งอิ๊งทำกับบ้านเมืองมา ๒๐ กว่าปี นั้น
จะเป็นประวัติศาสตร์จัดอยู่ในหมวดหมู่ประเภท “แบบอย่างดี” หรือ “แบบอย่างเลว”?
สำหรับนายภูมิธรรม….
ที่ท่านยกย่องทักษิณเป็น “วีรบุรุษประชาธิปไตย” นั้น ผมค่อยสบายใจ ที่ท่านบอกว่า “พูดในนามส่วนตัว”
ถ้าพูดในตำแหน่ง “นายกฯ รักษาการ” ละก็ คำว่า “เสียคน” ยังน้อยไปสำหรับผู้นำบริหารประเทศ
“ผมเตรียมจะไปเข้าเยี่ยมนายทักษิณ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งผมเองจะเข้าเยี่ยมแน่นอน
เพราะส่วนตัว เชื่อมั่นว่า “นายทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่ต้นทางจนถึงปัจจุบัน”
เพียงแต่ถูกกระทำโดยอำนาจรัฐบาลนอกระบบ ซึ่งหลายสิ่งหลายอย่าง กำลังรอการพิสูจน์
และนายทักษิณ ก็เป็นนักสู้คนหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ (๙ ก.ย.) ผมได้เห็นภาพนายทักษิณ สวมชุดสีฟ้าและถูกตัดผม ก็รู้สึกสะเทือนใจ
แต่นายทักษิณ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว เพราะหากจะหลบหนีก็สามารถทำได้ และการอยู่นอกประเทศ ก็ไม่ได้ลำบาก
การตัดสินใจกลับมารับโทษ ก็ถือว่า มีความรับผิดชอบต่อตนเองและประชาชนที่เคารพนับถือ
และในสายตาผมเอง “นายทักษิณเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยคนหนึ่ง”!!!!!
ลูกน้องเชิดชูบูชาเจ้านายเป็น “วีรบุรุษประชาธิปไตย” ผมไม่ว่า แต่ที่นายภูมิธรรม ในฐานะ “นายกฯ รักษาการ” บอกว่า
เชื่อมั่น “นายทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่ต้นทางจนถึงปัจจุบัน
เพียงแต่ถูกกระทำโดยอำนาจรัฐบาลนอกระบบ” นั้น
ท่านภูมิธรรมคงหมายถึง ๓ คดีคอร์รัปชั่น โกงบ้าน-กินเมือง ที่ทักษิณถูกศาลตัดสินลงโทษ
แต่หนีออกนอกประเทศ เพิ่งกลับมาปี ๖๖ ตอนเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลใช่มั้ย?
๑.คดีทักษิณสั่งการให้ “EXIM BANK” อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ ๔,๐๐๐ ล้านบาท แก่รัฐบาลเมียนมา โดยอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน
เพื่อนำเงินกู้นั้นไปซื้อสินค้าและบริการของ “บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)” อันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น
ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก ๓ ปี ไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ ๒๓ เม.ย.๖๒
๒.คดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท “ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” แทน โดยบริษัท “ชินคอร์ปฯ” เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ
และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก ๕ ปี ไม่รอลงอาญา
๓.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย ๓ ตัว ๒ ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือที่รู้จัก ในคดี “หวยบนดิน”
ศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุกทักษิณ ๒ ปี ไม่รอลงอาญา เมื่อ ๖ มิ.ย.๖๒
๓ คดีนี้ ทักษิณกลับมาแล้วยอมรับโทษคุก ๘ ปี ที่ท่านภูมิธรรมบอกว่า….
เชื่อมั่น “นายทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่ต้นทางจนถึงปัจจุบัน เพียงแต่ถูกกระทำโดยอำนาจรัฐบาลนอกระบบ ซึ่งหลายสิ่งหลายอย่างกำลังรอการพิสูจน์”?
ถ้าไม่ได้ทำผิด แต่ศาลลงโทษคุก ๘ ปี แล้วท่านภูมิธรรมพูดแบบนี้ จะให้ชาวบ้านเข้าใจอย่างไร?
ถ้าอดีตนายกฯ อุ๊งอิ๊งนำไปรวบรวมอยู่ใน “ประวัตศาสตร์เพื่อชาติบ้านเมืองของพ่อ” คนอ่านที่รู้เรื่องจริง เขาจะโวยเอาว่า…
นี่มัน “ประวัติศาสตร์คนโกงชาติ ฉบับฟอกขาว” นี่หว่า!?
มันก็จะเสื่อมเสียเกียรติ เสื่อมเสียศักดิ์ศรี วงศ์ตระกูลคนมีกิน-มีใช้ จากเงินไม่บรสุทธิ์ อายเขาเปล่าๆ
๓ คดี คอร์รัปชันนี้ ท่านภูมิธรรมลืมไปกระมัง ว่าวีรบุรุษประชาธิปไตยของท่าน ยอมรับสารภาพเองในความผิดที่ทำ
และสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา!
แต่ท่านภูมิธรรมกลับบอก “เป็นการถูกกระทำโดยอำนาจรัฐบาลนอกระบบ”?
ท่านหวังจะให้ประชาชนเชื่อ “ความจริงที่ถูกบิดเบือน” จากคนที่เป็น “นายกฯ รักษาการ” ที่ชาติเมิน อย่างนั้นหรือ?
ท่านภูมิธรรมอ่านนี่…
ต่อไปจะได้ไม่ไปเที่ยวพูดว่า “นายทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่ต้นทางจนถึงปัจจุบัน” ให้คนเขาหยามหยัน
………………………………………..
พระราชหัตถเลขา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๓๑ ส.ค.๖๖ มีความว่า
ตามที่ นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษว่า
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา จำนวน 3 คดี คือ
คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 4/2551 ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี
คดีหมายเลขแดง ที่ อม.10/2552 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งคดีที่ 1 กับคดีที่ 2 นับโทษซ้อนกัน รวมกำหนดโทษจำคุก 3 ปี
คดีหมายเลขแดง ที่ อม.5/2551 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมกำหนดโทษจำคุก 5 ปี
รวม นช.ทักษิณ มีกำหนดโทษจำคุก 8 ปี โดยรับโทษมาแล้ว 10 วัน เหลือโทษจำคุก 7 ปี 11 เดือน 20 วัน อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ความว่า เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าว ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม
ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา ขณะนี้อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคมและประชาชนสืบไป
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
……………………………………………….
ชัดมั้ย…ท่านภูมิธรรม
“ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา”
และในหนังสือที่ทักษิณทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้น
ยังบังอาจกราบทูลด้วยความเท็จว่า…..
-“รับโทษมาแล้ว ๑๐ วัน เหลือโทษจำคุก ๗ ปี ๑๑ เดือน ๒๐ วัน” ทั้งที่ยังไม่ติดคุกเลยซักวัน
-มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ประเด็นนี้ ศาลฎีกาฯ หลังจากไต่สวนพยาน ทั้งแพทย์โรงพยาบาล แพทยสภา ทั้งเจ้าหน้าที่เรือนจำ มีคำสั่งเมื่อ ๙ กันยา.ว่า
“การบังคับโทษจําคุกทักษิณ “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และตามพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้น บ่งชี้ให้เห็นว่า
ทักษิณทราบข้อเท็จจริงหรือรับรู้เหตุการณ์ได้ว่า “ตนไม่ได้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน” มีเพียงโรคเรื้อรังประจำตัวที่รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่จําเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตํารวจ
นอกจากนั้น ยังได้ความว่า “ทักษิณเข้ามามีส่วนตัดสินใจในกระบวนการรักษาของแพทย์”
โดยปฏิเสธการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจและโรคกระดูกคอกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท
แต่ให้แพทย์รักษาโดยการกินยาตามอาการและเลือกรับการผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขวา ซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนและเป็นผลทําให้การรักษาตัวใน รพ.ตำรวจต้องขยายระยะเวลาออกไป
ทักษิณจึงได้รับประโยชน์จากการพักอยู่ที่ รพ.ตำรวจโดยไม่ต้องกลับไปถูกคุมขังที่เรือนจําฯ จนได้รับการปล่อยตัว
ไม่อาจอ้างว่า “เป็นการดําเนินการของแพทย์และเจ้าหน้าที่” มิได้เกิดจาก “การกระทํา” ของทักษิณ
เพื่อถือเอาประโยชน์จากระยะเวลาที่พักอยู่ที่โรงพยาบาลตํารวจมาหักวันคุมขังโทษตามคําพิพากษา
การบังคับโทษทักษิณเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่ได้วินิจฉัยมาข้างต้น กระบวนการบังคับโทษรวมทั้งการพักการลงโทษทักษิณจึงไม่มีผลตามกฎหมาย
และไม่อาจนําเอาระยะเวลาที่พักอยู่ที่โรงพยาบาลตํารวจมาหักเป็นวันคุมขังได้ ทักษิณจึงต้องรับโทษจําคุกอีก ๑ ปี ตามพระบรมราชโองการ”
…………………………………….
“ชั่วยันเงา” ท่านภูมิธรรมคิดอย่างนั้นมั้ย?
เปลว สีเงิน
๑๑ กันยายน ๒๕๖๘
