เปลว สีเงิน
เราจะรอให้ทหารไทยต้องขาขาดอีกกี่ขา?
เราจะต้องประชุม JBC GBC และ RBC เพื่อเซ็นสัญญาลมๆ แล้งๆ กับเขมรอีกสักกี่แสนครั้ง
ไอ้สัตว์ลิ้นสองแฉกตัวนี้ จึงจะซื่อสัตย์ตามสัญญา?
เมื่อวาน ตอนเช้า (๒๗ ส.ค.) พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ ๒ และพลโท โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ ๔ ของเขมร
ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC)ที่ศรีสะเกษ มีการตกลงร่วมกัน ๑๑ ข้อ รวมทั้งเรื่อง “เก็บกู้ทุ่นระเบิด”
ไม่ทันข้ามวัน ตกบ่าย ราวๆ ๑๕.๔๕ น.
“พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง” สังกัด กองพันทหารราบที่ ๑ กรมทหารราบที่ ๒๓
ขณะลาดระเวนในพื้นที่บริเวณเนิน ๓๕๐ ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นดินแดนในเขตไทย
เหยียบกับระเบิดที่ทหารเขมรลอบมาฝังไว้จน “ขาขวาท่อนล่าง” ขาด!
นี่คือตัวอย่างยืนยัน ว่าเขมรมัน “สัตว์ลิ้นสองแฉก” เชื่อไม่ได้จริงๆ
เราทวงสัญญาจากเขมรได้
ทวงความชอบธรรมจากประชาคมโลกได้
แต่เราไม่สามารถ “ทวงขา” ทหารไทยที่ต้องขาดจากกับระเบิดคนแล้ว-คนเล่าให้งอกคืนมาได้
แล้วรัฐบาลจะ “จัดการ” ยังไง กับเหตุซ้ำซากนี้?
กับระเบิด “เป็นอาวุธ” อย่างหนึ่ง เมื่อตกลงกันแล้วว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ใช้อาวุธ แต่เขมรกลับใช้
พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ ๒ ประกาศแล้ว ถ้าเขมรละเมิดข้อตกลง รุกล้ำอธิปไตยเข้ามา “ยิง” ทันที
นี่ก็ชัดแล้ว
เขมรทั้งใช้อาวุธลอบสังหารทหารไทย การลอบเข้ามาฝังกับระเบิดเขตไทย นั่นเท่ากับ “รุกล้ำอธิปไตยไทย” โดยไม่มีข้อโต้แย้ง!
ไทยเราเป็น “นักรบสุภาพบุรุษ” กับเขมรมามากเกินพอ
ฉะนั้น การตีเหี้ยเอาตับมาปิ้งให้หมากิน มันต้องเริ่มแล้ว ไม่อย่างนั้น มันจะได้ใจ และหยามเย้ยว่า
ทหารไทย “เก่งแต่ขู่” แต่แหยที่จะเอาจริงกับมัน!?
การจัดการกับเขมรด้านเวทีโลก ก็ดำเนินไป กระทรวงการต่างประเทศ “ทำดี” อยู่แล้ว
การชี้แจงให้ประชาคมโลกเข้าใจความเป็นจริงของกระทรวงต่างประเทศ ตอนนี้ทำให้เขมร “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”
เหมือนถูก “จับแก้ผ้า” ยืนกลางแดด!
ขณะที่ความเชื่อถือจากสังคมโลกท่วมท้นประเทศไทย เขมร “สองพ่อลูกตระกูลฮุน” อยู่ในสภาพ “ตัวสกังก์”
เหม็นโฉ่ อย่าว่าแต่จะมีใครมาแตะเลย แค่เฉียดเข้าใกล้ก็ยังไม่มี!
นั่นเป็นหน้าที่ของ “รัฐบาลทหารนำ” ในเวทีประชาคมโลก
แต่การ “ตีเหี้ย” เป็นการสั่งสอนที่ลอบกัด
เป็นหน้าที่ทหารในเวทีชายแดน ทั้งด้านทัพภาคที่ ๒ และทัพภาคที่ ๑ ที่บ้านหนองจาน ที่เขมรใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์ หวังให้ทหารไทย “เปิดก่อน”
เรื่องอย่างนี้ ทหารไม่ต้อง เดี๋ยวพี่ๆ น้องๆ เลือดไทย เขามาจัดการเอง ตามประสาศึก “ชาวบ้านกับชาวบ้าน”!
เมื่อเขมรมันทำระยำกับไทยทุกอย่างครั้งแล้ว-ครั้งเล่า ประชาชนต่างสนับสนุนให้ทำ “กำแพงกั้นแดน” มันไปซะเลย
ถึงขั้นประกาศ “พร้อมใจ” กัน ลงขัน!
แต่ทำอย่างนั้นมันต้องเห็นชอบทั้งสองฝ่าย ทหารจึงทำได้แค่ทำรั้วลวดหนามชั่วคราวตามแนวเขต
ถามว่า ไทยเราจะยอมให้เขมรถือแผนที่ ๑:๒๐๐๐๐๐ อ้างสิทธิ์ตรงนั้น-ตรงนี้เป็นแผ่นดินของมันอยู่ฝ่ายเดียวอย่างนั้นหรือ?
ทั้งที่เราก็มีแผนที่ ๑:๕๐๐๐๐ ตามมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับทั่วไปในประชาคมโลก มีเขมรประเทศเดียวเท่านั้น ที่ไม่ยอมรับ
แล้วไทยเราต้องไปแคร์อะไรกับไอ้สัตว์ลิ้นสองแฉก ก็ทำกำแพงกั้นแผ่นดินของเราตามแนวแผนที่ ๑:๕๐๐๐๐ ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ กันสัตว์โสโครกลากหางเข้ามาเพ่นพ่านไปซะเลย!
เออออ….
ที่พูดกันชักตั้งเค้าเป็นจริงแล้วแฮะ!
เมื่อวาน (๒๗ ส.ค.) “พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านบอกว่า
“การสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาให้มีความเข้มแข็งเพื่อป้องกันการรุกราน
“กองทัพบก” กำลังพิจารณา และนำไปปฏิบัติ ทั้งในส่วนของกองทัพภาคที่ ๑ และกองทัพภาคที่ ๒
เมื่อวาน ได้ให้ “เสนาธิการ” ลงไปในพื้นที่ ที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว และสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนว่า
พื้นที่ตรงนั้นคือ “ดินแดงของไทย”
จะต้องมีการ “สร้างกำแพง” ที่แข็งแรง เพื่อปกป้องประชาชนและปกป้องการรุกรานจากฝ่ายตรงข้าม”
นับเป็นข่าวใหม่ที่น่าตื่นเต้น-ยินดี ท่านไม่เพียงพูดเฉยๆ ท่านยังยืนยันด้วยว่า
“ผมเองจะสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพบกอย่างแน่นอน”!
เอาละวะ ได้รู้ดำ-รู้แดงกันไปซะที เพราะฮุนเซน-เขมรคดในข้อ-งอในกระดูก มันเคยประกาศว่า
ไทยทำกำแพงกั้นเมื่อไหร่ “รบกัน” เมื่อนั้น!
ตวัดลิ้นแผลบๆ แล้วอย่าลืมที่พูดนะ ไม่มารบ ย.ม.ไทยจะทำกำแพงกั้นแล้วหละ
บ่อนปอยเปต ต่อไปจะมีแต่เปรต ทั้งบ่อนตามด่านผ่านแดน ไม่ว่าด้านจันทบุรี ด้านอุบลฯ บ่อเงิน-บ่อทองตระกูลฮุน จะแห้งเป็นกระถางล้างตีนแล้งน้ำ!
นักการเมืองน่ะ พูดเพื่อต่อรอง
แต่ทหาร พูดแล้วทำ คำไหน-คำนั้น
พลเอกทรงวิทย์ ไม่เคยเอ่ยปากจริงจังในเรื่องสำคัญขนาดนี้เมื่อท่านยืนยัน ให้กองทัพบก “ล้อมรั้ว-ทำกำแพงกั้นแดน”
ทีนี้…มึงเสร็จแน่ ไอ้ขะแมร์ตูดด่าง!
ที่เย้วๆ แถวหนองจาน “แผ่นดินบ้านกู” แต่พวกมึงตู่จะเอานั่นเหมือนกัน เย้วๆ ซะให้หนำใจ ก่อนที่จะต้องร้องแยๆ แล้วไหว้หมาให้พากลับเขมร
พูดถึงพลเอกทรงวิทย์ ระหว่าง ๒๕-๒๙ สิงหา.
ท่านทำหน้าที่จัดประชุม “ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก” ร่วมกับ USINDOPACOM ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน
โดย “พลเรือเอก Samuel J. Paparo” ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก เป็นเจ้าภาพร่วม
ในงานนี้ มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำเหล่าทัพ รวม ๓๐ ประเทศ เข้าร่วมประชุม
หัวข้อสำคัญของการหารือคือ การเน้นย้ำเรื่องความเข้มแข็งในภูมิภาค ต่อสู้กับภัยคุกคามด้านต่างๆ
ขับเคลื่อนกลไกของอาเซียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในห้วงเวลาที่ประเทศมหาอำนาจกำลังแข่งขันกัน
ที่น่าสังเกต ประเทศกลุ่มอาซียนได้รับเชิญร่วมประชุมพบปะหารือกันหมด
“ประเทศเดียว” ที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุม
คือ “เขมร”!?
คิดดูละกัน ในขณะที่ไทยได้รับเกียรติและความเชื่อถือจากนานาชาติในสังคมโลก
แต่เขมรอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก ไม่มีใครให้ราคาเลย!
ต้องบอกว่า ปีนี้ …..
สถานการณ์หลายๆด้าน ภายใต้ “ทหารนำรัฐบาล” สร้างชื่อเสียงและเครดิตให้ประเทศไทย “เด่นและดีมาก” ในสายตาประชาคมโลก
ความเสถียรของ “เงินบาท” ภายใต้บริหารของแบงก์ชาติ ทำให้ “เงินบาท” มีค่ามาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดเงินตราของโลก
ไม่เพียงเท่านั้น
ในภาวะโลกเปลี่ยนสู่ศตวรรษใหม่ การเคลื่อนย้ายการลงทุนของธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เล็งเป้าหมาย “ปักหมุด” มาที่ไทย
เพราะมีโครงการอีอีซี มีการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมเป็นโครงข่ายสดวกสบายต่อการขนส่งและเดินทาง มีโทรคมนาคมทันสมัย ทั้งไฟฟ้า ประปา ก็พร้อม
ที่สำคัญ จุดที่ตั้งประเทศไทย บอกได้เลยว่าเป็น “ศูนย์กลางโลก” ในภูมิภาค ทุกอย่างสะดวก สบาย พรั่งพร้อม
โดยเฉพาะคนไทยที่มีเสน่ห์ชาวโลกหลงไหล “ของแท้” มีที่นี่-ที่ไทย ที่เดียว!
โลกที่อลวนวันนี้ หัวใจที่ชาวโลกค้นหาคือ “ความมั่นคง”
เมื่อกองทัพ “เป็นแกนประเทศ”
การเมืองคือ “เปลือกประชาธิปไตย” ใช้หุ้มเสาเมรุเผาศพ
โฟกัส “ศูนย์กลางใหม่” ของสังคมโลกที่กำลังผลัดใบ จึงพุ่งมาจับที่ไทย ซึ่ง “แกนภายใน” คือกองทัพแข็งแกร่ง รับประกันในความมั่นคง
วันนี้ก็ ๒๘ สิงหา.แล้วมิใช่เรอะ?
พรุ่งนี้ ศุกร์ ๒๙ ประเทศไทยจะลอกคราบสู่เส้นทางใหม่จนหายใจ-หายคอกันแทบไม่ทัน
เอ้า….เพลง “พญาโศก” เตรียมบรรเลง!
เปลว สีเงิน
๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๘
