25 มิถุนายน 2568 เวลา 09. 30 น. ณ ห้อง Lotus Suite 11 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนางโอเดรย์ อาซูเลย์ (H.E. Ms. Audrey Azoulay) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุม The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI (GFEAI 2025)
โดยนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงผลการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ในโอกาสเยือนประเทศไทย และแสดงความยินดีที่ประชุม The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญระดับโลก ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แนวปฏิบัติที่ดี และประสบการณ์ระหว่างนานาประเทศในการส่งเสริมการพัฒนาและการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรม โดยการมาเยือนไทยครั้งนี้ ชื่มชมนโยบายของรัฐบาลไทยในการผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมผ่านดิจิทัล และ AI รวมถึงมีการส่งเสริมความตระหนักรู้ให้กับเยาวชน ผ่านการศึกษา เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีจริยธรรม ซึ่งเมื่อวานผู้อำนวยการยูเนสโกได้มีโอกาสไปเยี่ยมโรงเรียนและสถานศึกษาของไทย และรู้สึกชื่นชมต่อพัฒนาการดังกล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนโยบายด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ การส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ เร่งการขยายตัวของภาคดิจิทัล สนับสนุนการนำ AI มาใช้ และเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรสำหรับอนาคต เพื่อเปลี่ยนผ่านดิจิทัลผ่านการศึกษา (Digital Transformation in Education) ซึ่งประเทศไทยมีความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Google และ Microsoft โดยนายกรัฐมนตรีมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและ AI ในสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยของไทย รวมถึงรัฐบาลมีการให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เพื่อไปศึกษาต่อด้านเทคโนโลยีและ AI ตลอดจนโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา (One District One Scholarship: ODOS) ที่ส่งเสริมเยาวชนไทยเข้าร่วมค่ายฤดูร้อนในต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้และนำมาพัฒนาประเทศต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการเตรียมคนสำหรับโลกอนาคตที่เป็นโลกของเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงการส่งเสริมการศึกษาของสตรีในสาขาวิทยาการข้อมูล (Data Science) และ AI ให้มากขึ้น โดยผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ระบุว่า ปัจจุบันผู้หญิงมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 12 ในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) จึงจำเป็นต้องเปิดโอกาสผู้หญิงเข้าสู่สายอาชีพด้าน AI และ STEM มากขึ้น
โดยนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับการส่งเสริมจริยธรรมของ AI ตามแนวทางของยูเนสโก ซึ่งเป็นกรอบสำคัญในการนำ AI ไปใช้อย่างถูกต้อง พร้อมแจ้งว่าไทยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ของภูมิภาค (AIGPC) ขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย AI ซึ่งผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก แสดงการสนับสนุนการจัดตั้ง AIGPC อย่างเต็มที่
โอกาสนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโกชื่มชมการผลักดันนโยบาย Soft Power ของไทย ผ่านวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Heritage) เช่น งานฝีมือ ศิลปะ และอาหาร โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการยกระดับ Soft Power ที่ครอบคลุมไปสู่ด้านการศึกษา กีฬา ภาพยนตร์และการผลิตสื่อสร้างสรรค์ เพื่อใช้มรดกทางวัฒนธรรมและทักษะช่างฝีมือเป็นจุดแข็ง ขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจ ซึ่งทางยูเนสโกสนใจร่วมมือกับรัฐบาลไทย ผ่านสำนักงานของยูเนสโกในกรุงเทพฯ พร้อมเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนสำนักงานใหญ่ยูเนสโก ณ กรุงปารีส อีกด้วย