ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ หากตามีอาการมัวในมองเห็นสิ่งต่าง ๆ หรือมองเห็นเป็นภาพเบลอ แม้มีอาการเพียงเล็กน้อย อาจเกิดจากมีความผิดปกติของส่วนต่าง ๆ ในลูกตา เช่น กระจกตา จอประสาทตา หรือเส้นประสาทตา ซึ่งอาจส่งผลทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
บทความให้ความรู้โดย พญ.ปนียา ตปนียางกูร (ว.33408) จักษุวิทยาต้อหิน แผนกตา โรงพยาบาลนวเวช ได้ตอบคำถามข้อสงสัยเกี่ยวการทำหัตถการบริเวณรอบดวงตา หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา แนะนำควรพบแพทย์เพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง หากไม่รีบรักษาโดยเร็วก็มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียการมองเห็นได้
Q: สามารถหัตถการบริเวณรอบดวงตาได้หรือไม่
A: การฉีดสารน้ำสารหนืดใด ๆ ตรงบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะรอบดวงตาเป็นสิ่งที่ควรระวัง เพราะใบหน้ามีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อถึงกันและส่งต่อไปถึงเส้นเลือดของจอตา ซึ่งมีทั้งเส้นเลือดดำและเส้นเลือดแดง และสิ่งที่เป็นอันตรายต่อดวงตามาก ๆ คือมีการฉีดสารใด ๆ เข้าไปในเส้นเลือดแดง อาจจะทำให้มีการไหลของสารนั้น ๆ ไปอุดตันตรงเส้นเลือดแดงของจอตาได้ ซึ่งส่งผลทำให้การมองเห็นผิดปกติ และอาจตาบอดในที่สุด
ถึงแม้ว่าการฉีดนั้นจะเป็นการใช้เข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) ก็ตาม เคสที่มีการอุดตันของเส้นเลือดแดงที่จอตามีเกิดขึ้นได้เสมอ ๆ โดยเฉพาะการฉีดบริเวณ T zone ของใบหน้า ถึงแม้ว่าปริมาณเคสอาจจะไม่ได้เยอะ แต่ว่าผลลัพธ์มันอันตราย เพราะว่ามันทำให้ตาบอดได้
โดยหลังจากฉีดแนะนำให้สังเกตการมองเห็นของตาในแต่ละข้างโดยปิดตาทีละข้างดู ถ้าเกิดพบว่ามีปัญหาเรื่องการมองเห็น ตามัวลง ควรรีบแจ้งแพทย์ที่ทำการฉีดให้ในทันที และควรต้องปรึกษาจักษุแพทย์ร่วมด้วย เพราะว่าเมื่อเราตรวจตาแล้วพบว่ามีการอุดตันหลอดเลือดแดงที่จอตา (Retinal Arterial Occlusion) ถ้าเรารู้เร็วรักษาเร็ว โอกาสที่มันจะกลับมามองเห็นก็อาจจะมีถึงแม้ว่าจะน้อยมากก็ตาม
ทั้งนี้ ตามหลักการทางการแพทย์นั้นการฉีดสารใด ๆ บริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่ควรระวัง หลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเกิดสมมติว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้สิ่งสำคัญสุด คือการสังเกตเรื่องของการมองเห็นของตนเองหลังทำหัตถการ เพื่อตรวจความผิดปกติของตา กรณีหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดและขอรับคำปรึกษาได้ที่ แผนกตา โรงพยาบาลนวเวช โทร. 1507 Line: @navavej
