เปลว สีเงิน
สนุก “ลืมโลก” กันมา ๓ วัน กับ “สงกรานต์” ฉ่ำสุข
ครั้นถึงเวลากลับสู่ “ชีวิตจริง”…..
จากวันนี้เป็นต้นไป แต่ละคนจะรู้สึก เฉา เศร้า เซ็ง อาลัยอาวรณ์กับกลิ่นอายสงกรานต์ไปอีกนานวัน
มันก็อย่างนี้แหละครับ อะไรที่เราสุข จะรู้สึกว่ามันจากไปเร็ว
แต่อะไรที่ทำให้เราทุกข์ แม้วันเดียว-ชั่วโมงเดียว รู้สึกว่า มันไปช้าเหมือนนานปี!
“ชีวิตต้องสู้” ครับ อย่าตก “หล่มอารมณ์” จนชีวิตล่มในทางร่วม
ข้างหน้า ยังมีอะไรรอให้เราเผชิญกับมันอยู่อีกมาก ทั้งดีและร้าย ใช้พลังศรัทธาในตัวกระตุ้นใจให้คึกเข้าไว้
เกิดเป็นไทยยุค “กาสิโนสร้างชาติ” ต้องเข้มแข็ง
สังคมต่อจากวันนี้ไป ไม่มีที่ให้ยืนสำหรับคนท้อแท้และคนที่เอาแต่ “คุกเข่า-แบมือ” รอรัฐบาลหรือใครช่วยเหลือ
เพราะโลกวันนี้ ทั้งเศรษฐกิจ-สังคม-ทัศนคติ-มุมคิดพลโลก “เปลี่ยนมิติ” พร้อมวิถีโลกที่เปลี่ยนไป ซึ่ง “ไม่เหมือนเดิม” อีกต่อไปแล้ว!
มันเป็นการเผชิญกันของโลก ๒ วิถี ระหว่าง “มนุษย์วัตถุ” กับ “มนุษย์มโนธรรม” และการเผชิญกันนั้น หนีไม่พ้นคำว่า “หักล้าง” ซึ่งกันและกัน
อย่าถามวิธีไหนจะชนะ ท่านต้องถามและตอบตัวเอง เพราะทุกท่าน ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ล้วนอยู่ใน “สงครามแห่งศตวรรษใหม่” ทุกคน
แต่ขอบอกไว้คำ “สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ” การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง คือ “ธรรมย่อมชนะอธรรม” นั่นแหละ
สังคมชาติหนึ่งๆ ประกอบด้วย ๒ ส่วน คือส่วน “การบ้าน” และส่วน “การเมือง” มันแยกกันไม่ออก เพราะเป็นเนื้อเดียวกัน
บางคนบอก “ไม่เล่นการเมือง..ไม่สนใจการเมือง” แต่การเมืองมันก็เล่นทุกคนอยู่ตลอดเวลา เพราะวิถีชีวิตทุกผู้คน หมุนวนอยู่ใต้กงจักร” “การเมืองปั่น” ทั้งสิ้น!
นี่…เมื่อวาน (๑๕ เม.ย.๖๘) “ประธานาธิบดี ธาร์แมน แชนมูการัตนัม” ของสิงคโปร์
ประกาศ “ยุบสภา” ตามคำแนะนำ “นายลอว์เรนซ์ หว่อง” นายกรัฐมนตรี ให้เลือกตั้งกันใหม่ วันเสาร์ที่ ๓พฤษภา.
สิงคโปร์ ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ก็ประชาธิปไตยแบบสิงคโปร์ การเลือกตั้ง ก็เลือกตั้งรูปแบบสิงคโปร์ของเขาเอง
ที่นั่งในสภามี ๙๓ ที่นั่ง ตั้งแต่ปี พศ.๒๕๐๒ ถึงปัจจุบัน
การลงคะแนนเสียง ให้เลือก “แบบกลุ่ม” สไตล์สิงคโปร์ เลือกกี่ครั้ง-กี่หน “พรรคตระกูลลี” ของ “นายลี กวน ยู” ก็ชนะยกพรรค
ร่วม ๗๐ ปี ที่คนตระกูลลี “สืบต่ออำนาจ”
ถึงขั้นต้องขอแรงสส.จำนวนหนึ่งทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา (แก้ขวย)
เพิ่ง “นายลอว์เลนซ์ หว่อง” นายกฯ คนปัจจุบันนี้เท่านั้น ที่เป็นคน “นอกตระกูลลี” สืบต่อจาก “นายลีเซียนลุง” ลูกชาย “นาย ลี กวน ยู” อดีตนายกฯ ผู้ก่อตั้ง “ประเทศสิงคโปร์”
ตอนเลือกตั้งปี ๒๕๖๓ นี่แหละ “พรรคแรงงานสิงคโปร์เซอรไพรส์” ได้รับเลือกตั้งจาก ๔ คน ขึ้นไปถึง ๑๐ คน
มากที่สุดในประวัติศาสตร์ “ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” สิงคโปร์!?
การ “จัดระเบียบโลกใหม่” ของ “ประธานาธิบดีทรัมป์” สหรัฐฯ ด้วยสงครามการค้าครั้งนี้แหละ ทำสิงคโปร์เสี่ยงต่อคำว่า “รุ่งเรือง-ล่มสลาย”
เพราะสิงคโปร์เป็น “ศูนย์กลางขนถ่ายสินค้า” ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รายได้หลักจึงมาจากการ “กินหัวคิว” การค้าระหว่างประเทศ
เมื่อทรัมป์ เล่นบทโหดด้าน “ภาษีศุลกากร” ต่อประเทศต่างๆ การค้าโลกชะงัก สิงคโปร์เจอความเสี่ยงต่อภาวะ “เศรษฐกิจโลกชะลอตัว” ทันที
GDP หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ปี ๒๕๖๘ ตั้งเป้าไว้ที่ ๑-๓% ลดฮวบลงเหลือ ๐-๒%!
เมื่อ “การค้า-การโลก” ไม่เหมือนเดิม นายกฯ ลอว์เลนซ์ หว่อง รับรู้ถึงสัญญาน “ความมั่นคงสิงคโปร์” ก็จะไม่เหมือนเดิมด้วย
การยุบสภา “ปูเสื่อการเมืองใหม่” รับมือ-รับปัญหา “สงครามการค้าโลก” จึงเป็นทางหนึ่งทางยุทธวิธีที่ “นายกฯสิงคโปร์” เลือกใช้ในสถานการณ์ “โลกมิติใหม่”
เห็นมั้ย “สงกรานต์” ยังไม่ทันสะเด็ดเม็ดน้ำสาด มันก็มาแล้ว
สิงคโปร์ “ยุบสภา”
แล้วไทยเราล่ะ หลังสงกรานต์จนถึงพฤษภา. “ยุบสภา-นายกฯ ลาออก” หรือ “ถูกจี้ให้ออก” เปลี่ยนตัวนายกฯ ใหม่ จะเกิดขึ้นมั้ย?
บางคนบอก “ไม่เกิด”
บางคนบอก “มีสิทธิ์”
บางคนบอก “น่าจะกระชับอำนาจด้วยการ” ปรับครม.”
ส่วนผมบอก แผ่นดินไหว “ไม่มีสัญญาน” ให้รู้ล่วงหน้า มาถึงตัวแล้วนั่นแหละจึงรู้ว่า “แผ่นดินไหว”!
ถ้าให้บอกล่วงหน้า ผมจับสัญญานจากฝูง “ไดโนเสาร์ฝังชิป” เพื่อไทย ที่เรียงแถวออกมาท่องวาทกรรมตามโปรแกรม “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่กาสิโน” ได้ว่า
“เป็น-ตาย” ก็ไม่ยุบ-ไม่ลาออก เพราะหัวหน้าคอก “กูจะเอา”!
แต่อย่างว่า “ไทย-แผ่นดินธรรม” ขลังนัก
ที่จะปล่อยให้ “คนใฝ่ต่ำ” เอาแผ่นดินไป “ปู้ยี่-ปู้ยำ” ทำเป็นบ่อนกาสิโน มันต้อง “มีอันเป็นไป” ตามรอบบัญชีกรรม “เช็กบิล” ก่อนจะได้ทำ
ยิ่งพฤษภา “เสาร์สวนราหู”
ตามสถิติ ไม่กระเด็นตกเก้าอี้ ก็ต้องยุบสภา ถ้าถือดีในอำนาจ “ดันทุรัง” ไปถึงกรกฎา-สิงหา.
สถานการณ์เลวร้ายที่ต้องได้รับ หนักกว่า “ยุบสภา-ลาออก”
ยิ่งถ้าไปถึง “ตุลา-ธันวา.” จากที่ว่าหนักหนา จะถึงขั้น “สาหัส” ไม่ปางตาย “ครอบครัวใหญ่” ก็ต้องระเห็จไปเป็น “สัมภเวสี”!?
“ประตูนรก ๓ บาน” ทั้งพ่อ-ทั้งลูก “มีสิทธิ์เลือก”
ว่าจะเลือกไปทางบานแรก
หรือจะเลือกไปทางบานที่ ๒ ที่ ๓
ถ้าไม่เลือกเลย “ชะตาบาปจากที่กระทำ” จะเลือกให้เอง!
ทุกวันนี้ พูดกันตรงๆ พรรคเพื่อไทยก็ “เสี่ยง-ยุบพรรค”
ประเด็น “ยอมให้คนนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค” ครอบงำ ชี้นำ สั่งการพรรค “ซึ่งมันโจ่งแจ้ง ยากที่กกต.จะอ้างว่า “ไม่เห็น-ไม่ชัด”
“รัฐบาลพรรคร่วม” ก็เสี่ยง ที่ยอมให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคควบคุม ครอบงำ ชี้นำ
ประชุม BIMSTEC เมื่อต้นเมษา.ที่โรงแรมแชงกรีลา รัฐบาลให้ทักษิณซึ่ง “เป็นคนนอก” แถมเป็นอดีตนักโทษโกงบ้าน-กินเมืองและเป็นจำเลยในคดี ๑๑๒
เข้าไปนั่งหารือกับนายกฯ อินเดียและประธานคณะที่ปรึกษารัฐบาลบังกลาเทศ
โดยมีธงชาติไทยประดับด้านหลัง ประหนึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลไทย เจรจาความบ้าน-ความเมืองแทนนายกฯ
และ ๑๗ เมษา.ที่จะถึง “นายอันวาร์” นายกฯ มาเลเซีย จะมาไทยเพื่อปรึกษาหารือกับนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐฯ
ทักษิณอ้างตำแหน่งที่ปรึกษาประธานอาเซียน มีโปรแกรมเจรจากับนายอันวาร์ด้วย!
เหล่านี้ ฟ้องตัวเองชัดว่า ทุกวันนี้ รัฐบาล “บริหาร-สั่งการ” โดยนายกฯ แพทองธารหรือ “บริหาร-สั่งการ” โดยนายทักษิณ พ่อนายกฯ!?
กกต. “ไม่เห็น” แต่ประชาชนและชาวโลก “เขาเห็น” และเข้าใจชัดว่า “ทักษิณ” ครอบงำ-ชี้นำ-สั่งการ “รัฐบาลพรรคร่วมเบ็ดเสร็จ”
“สนิมเกิดจากเนื้อในตน” เป็นโคลงโลกนิติ
“อุ๊งอิ๊งต้องไปเหตุจากเนื้อในตน” นี่ไม่ใช่โคลง
แต่ “เป็นจริงที่ต้องเป็น”!
เปลว สีเงิน
๑๖ เมษายน ๒๕๖๘
