รัฐดัน “กุ้งไทย” ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ หลังเผชิญโรคระบาดกุ้งยาวนาน

หลังจากที่อุตสาหกรรมกุ้งไทยต้องเผชิญปัญหาโรคระบาดมาตลอด 10 กว่าปี นับตั้งแต่ปี 2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรค EMS (Early Mortality Syndrome) หรือโรคตายด่วน ผลผลิตกุ้งที่เคยสูงสุดถึง 600,000 ตันในปี 2552  ลดลงต่อเนื่องจนเหลือเพียงประมาณครึ่งหนึ่งในปัจจุบัน แม้เกษตรกรจะพยายามทุ่มเทวิธีการเพื่อแก้ปัญหาแต่ก็ยังไม่สามารถก้าวผ่านปัญหาโรคระบาดได้ ความเสียหายจากปัญหาโรคกุ้งของประเทศไทยตลอด 10 ปีมีมูลค่าสูงถึง 550,000 ล้านบาท

ในปี 2567 ผลผลิตกุ้งของไทยลดลงจากปีก่อน 4% เหลือประมาณ 270,000 ตัน จากปี 2566 ที่มีผลผลิต 280,000 ตัน โดยมีปัจจัยจากโรคระบาดเป็นหลัก โดยพบว่าหลายพื้นที่เลี้ยงกุ้งของไทยมีปริมาณผลผลิตกุ้งลดลง

นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย ระบุว่าเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดกุ้ง ยังไม่ได้รับการแก้ไข ส่งผลให้ปี 2567 ไทยส่งออกกุ้งได้ประมาณ 120,000-130,000 ตัน มูลค่ารวมราว 40,000 ล้านบาท ขณะที่คาดการณ์ตัวเลขส่งออกปี 2568 จะใกล้เคียงปี 2567 เนื่องจากไทยยังต้องเจอปัญหาโรคระบาด กระทบผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมไปถึงคู่แข่งเช่น เอกวาดอร์ที่มีผลผลิตต่อปีสูง แต่อย่างไรก็ดี สมาคมวางเป้าหมายระยะยาว 3  ปีให้ประเทศไทยจะต้องมีผลผลิตกุ้งออกสู่ตลาดให้ได้ 400,000 ตัน เพื่อให้การส่งออกกุ้งไทยกลับมาโตอีกครั้ง

เป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อรัฐบาลประกาศแผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ พ.ศ.2568-2572 มีทั้งหมด 11 มาตรการ ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมกุ้งไทยอย่างยิ่ง ดังนี้

1. การพัฒนาพ่อแม่พันธุ์ให้เหมาะสมกับการเลี้ยงกุ้งทะเล เพื่อให้ได้ลูกกุ้งทะเลคุณภาพ 2.การจัดการฟาร์มเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืน 3. การส่งเสริมการใช้อาหารที่เหมาะสมกับรูปแบบการเลี้ยง 4.การจัดการโรคและการป้องกันโรคในกุ้ง 5.การพัฒนาระบบเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล  6. การเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิส ติกส์สินค้ากุ้งทะเลหลังการจับ  7. การสร้างแบรนด์และเพิ่มช่องทางการตลาด  8.การบริหารจัดการข้อมูลกุ้ง  9. การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม  10.การยกระดับความรู้บุคลากร ทั้งเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ และ 11.การสร้างเครือข่าย ความเข้มแข็ง

หัวข้อของการแก้ปัญหาโรคกุ้งถูกบรรจุเป็นหนึ่งในมาตรการใหญ่ ซึ่งสำคัญมาก เพราะหากไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้จะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยไปไม่ถึงฝั่งฝัน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รอรัฐแก้ไขปัญหาโรค  เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจำเป็นต้องพัฒนาและหาแนวทางเพื่อให้เลี้ยงกุ้งได้รอด เพราะการเกิดขึ้นของโรคระบาดใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ล้วนส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงกุ้งทั้งสิ้น การเลี้ยงกุ้งด้วยวิธีเดิม ๆ ไม่มีการเตรียมการที่ดี จะไม่ตอบโจทย์ และมีความเสี่ยงรอบด้านที่กุ้งจะเสียหาย ซึ่งนำไปสู่การปล่อยทิ้ง ให้บ่อกุ้งกลายเป็นบ่อร้างจำนวนมากในหลายพื้นที่

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งใน จ.จันทบุรี เป็นตัวอย่างหนึ่งของผู้เลี้ยงกุ้งที่ประสบความสำเร็จ เขาให้ข้อมูลความรู้ว่า ปัจจัยที่ต้องให้น้ำหนักมากที่สุดคือ “ระบบน้ำ” ที่ต้องมีการบำบัดและหมุนเวียนใช้ภายในฟาร์ม ซึ่งในรายละเอียดก็มีทั้งการมีบ่อพักน้ำ การกรองน้ำ การปรับปรุงน้ำให้มีค่าแร่ธาตุที่เหมาะสม ฯลฯ ต่อไปคือ “ระบบบ่อเลี้ยง” ที่ต้องมีการจัดการของเสียระหว่างการเลี้ยงทุกวัน และควรจะเป็นบ่อ PE 100% เพื่อไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาดิน  เมื่อคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงดี ผลผลิตจะทยอยดีขึ้นเป็นลำดับ  สุดท้ายก็เป็นเรื่องของ “คน” ที่ต้องรับผิดชอบการเลี้ยงให้ดี

การละเลยที่จะพัฒนาปรับปรุง หรือ เคยเลี้ยงอย่างไรก็ยังเลี้ยงอย่างนั้น เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การเลี้ยงกุ้งล้มเหลว หลายรายเลิกเลี้ยงปล่อยให้บ่อกุ้งกลายเป็นบ่อร้าง สร้างปัญหาอื่น ๆ ตามมา แต่ท่ามกลางโรคระบาดมากมาย เกษตรกรข้างต้นสามารถประสบความสำเร็จได้ตลอด  9 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะการเปิดใจยอมรับและพัฒนาปรับปรุง ไม่ปล่อยให้ปัจจัยภายนอกเข้ามารบกวนการเลี้ยงกุ้ง จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้เป้าประสงค์ของประเทศในการส่งเสริมให้กุ้งไทยเติบโตขึ้นมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติอีกครั้งนั้น พอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้./

อรพิม เปี่ยมชลธาร

Written By
More from pp
“นายกฯ” ปลื้ม “อาคารศาลาไทย” คว้ารางวัลขวัญใจมหาชน Honorable mention ประเภท EDITOR’S CHOICE AWARD จากนิตยสาร Exhibitor Magazine
17 มีนาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยข่าวดีว่า อาคารศาลาไทย (Thailand pavilion) ซึ่งจัดแสดงในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020...
Read More
0 replies on “รัฐดัน “กุ้งไทย” ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ หลังเผชิญโรคระบาดกุ้งยาวนาน”