อันตรายจากยาชุดลดน้ำหนัก

ยาลดน้ำหนักที่ใช้ในการทางแพทย์นั้น มักจะใช้ในผู้ป่วยโรคอ้วนหรือผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกิน ที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กิโลกรัม/ตารางเมตรขึ้นไป หรือเกิน 27 กิโลกรัม/ตารางเมตร แต่มีโรคความดันสูง โรคเบาหวาน หรือหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย

โดยผู้ป่วยต้องผ่านการรักษาด้วยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและการปรับพฤติกรรมแล้ว แต่ยังไม่สามารถลดน้ำหนักจนถึงเป้าหมายได้ จึงจะสามารถใช้ยาเหล่านี้ได้

ไม่ใช่ว่าอยากจะลดน้ำหนักแล้วสามารถใช้ยาได้เลย การใช้ยาต้องอยู่ในการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้เป็นตัวเสริมจากการออกกำลังกายการคุมอาหารเท่านั้นแต่ปัจจุบันพบว่ายาชุดลดน้ำหนักที่ขายตามสื่ออินเทอร์เน็ตต่าง ๆ หรือตามคลินิกที่ไม่ได้รับการรับรอง มีส่วนผสมของยาหลาย ๆ ตัว และอาจจะมีการใช้ยาที่เป็นอันตรายหรือลักลอบใส่สารอันตรายลงไป ซึ่งมีผลเสียต่อร่างกายของเราได้ เช่น

1. ทำให้เกิดอาการหงุดหงิด

2. ทำให้เกิดอาการเวียนหัวอย่างรุนแรง

3. สมาธิการเรียนและการทำงานลดลง

4. หัวใจบีบตัว มีอาการใจสั่น

5. นอนไม่หลับ

ดังนั้นหากต้องการลดน้ำหนัก แนะนำวิธีการควบคุมน้ำหนักง่าย ๆ ดังนี้

1. คำนวณหาค่าดัชนีมวลกาย หรือ BMI (Body Mass Index) คือ ตัวชี้วัดมาตรฐานแสดงสภาวะความสมดุลของร่างกาย คำนวณโดยใช้สูตร

ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร) x ส่วนสูง (เมตร)

● โดยค่า BMI อยู่ระหว่าง 18.5-22.9 Kg/m2 จะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ

2. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินอาหารให้หลากหลาย

3. เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค เช่น หลีกเลี่ยงอาหารหวาน หลีกเลี่ยงการรับประทานของทอด ของมัน

4. ออกกำลังกาย อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ30 นาทีขึ้นไป

Written By
More from pp
ม.กรุงเทพ ร่วมกับ JobsDB จับมือบริษัทชั้นนำทั่วประเทศกว่า 100 บริษัท จัดงาน BU Job Fair 2022
ผศ.สรรเสริญ มิลินทสูต รองอธิการบดีอาวุโสด้านวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นประธานจัดงาน “BU Job Fair 2022 Empowering Businesses by...
Read More
0 replies on “อันตรายจากยาชุดลดน้ำหนัก”