จุดเปลี่ยน-พลิกขั้ว #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ว่ากันตามที่เห็น…

การเมืองวันนี้หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ เพราะเงื่อนปมที่ผูกกันมา ทั้งเงื่อนเก่า เงื่อนใหม่ ใกล้สำแดงผล

บวกกับสารพัดดีลที่ดูแล้วพอจะมีเค้าความจริง ทำให้ต้องจับจ้องการเมืองแบบกะพริบตามิได้ เพราะอาจเกิดเหตุชนิดความเร็วแสง

จู่ๆ ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงชนิดไม่คาดฝัน

อย่าเดาว่าเป็นรัฐประหารเด็ดขาด เพราะยังไม่อยู่ในสมการที่จะกล่าวถึง ฉะนั้นแฟนคลับกองทัพอย่าเพิ่งปรบมือ

เรื่องดีลลับฮ่องกง ดีลลังกาวี ยันดีลลับบรูไน ฟังหูไว้หู อย่าเพิ่งเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็อย่ามองข้ามเด็ดขาด

เพราะดีลจริงอาจไม่มี แต่เป็นการเจตนาปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่า

ก็ทำนองเจอข่าวปล่อย ใช้เกลือจิ้มเกลือ ปล่อยข่าวหลอกไปอีกที การเมืองไทยมาถึงขั้นนี้จริงๆ ไม่เชื่อลองไปถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ดู

ตัวละครมีไม่เยอะหรอกครับ แต่ “ทักษิณ” ยืนพื้นเป็นตัวเอก ตามด้วย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อนุทิน ชาญวีรกูล

พรรคการเมือง ก็มี ๓ พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย

นอกนั้นเป็นตัวแสดงโดยไม่ตั้งใจ อาทิ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลสถิตยุติธรรม

โดยเฉพาะศาล อยู่ดีๆ ก็ถูกจับเข้าไปอยู่ในสมการการเมือง เพราะผลการวินิจฉัย หรือคำพิพากษา มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้

เริ่มที่ตัว “ทักษิณ” รับบทจ้างร้อยเล่นล้าน วันนี้ขยายขอบเขตการเมืองตัวเองไปสู่ประชาคมอาเซียนได้สำเร็จ

ความสำเร็จนี้เป็นก้าวที่น่าสนใจ เพื่อก้าวต่อไปที่ใหญ่กว่าของ “ทักษิณ”

แม้ “ทักษิณ” ยังต้องลุ้นคดี ม.๑๑๒ แต่ยังมีเวลามากพอที่จะบริหารจัดการความเสี่ยง เพราะศาลนัดสืบพยานโจทก์-จำเลย เดือนกรกฎาคม

อีกร่วมครึ่งปี!

ฉะนั้นการที่ “ทักษิณ” ขอศาลเดินทางไปต่างประเทศ อย่าเพิ่งสรุปว่า จะหนีรอบสอง

ยังมีเวลาครับ

การที่ “ทักษิณ” เล่นบทเจ้าของรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีการวางแผนมานาน ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจว่าทำไม “ทักษิณ” ไม่ไปเลี้ยงหลาน

หรือแม้กระทั่งการไม่ยอมติดคุกแม้วันเดียว ก็คือการปูทางสู่การเข้าครอบงำรัฐบาลเพื่อไทยอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

และเปิดเผย

จะสังเกตเห็นกันนะครับว่า “ทักษิณ” มิได้แอบบงการและครอบงำ แต่เปิดเผยมาตั้งแต่การเคาะชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า แต่ออกข่าวลับลวงพรางว่าเสนอชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” ซึ่งในทางการเมือง โอกาสแทบเป็นศูนย์

จากนั้นแถลงนโยบายรัฐบาลแทนลูกสาว ก่อนที่ “แพทองธาร” จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมสภาเสียอีก

“ทักษิณ” ยังเล่นบทเบอร์หนึ่งของพรรคเพื่อไทย และผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลอย่างเปิดเผยในการเลือกตั้งนายก อบจ.หลายจังหวัด

เพราะหาก “ทักษิณ” ไม่เล่นเอง เอาแต่เลี้ยงหลานที่บ้าน “แพทองธาร” จะตกที่นั่งลำบาก เพราะไร้บารมี

จนสังคมไทยรับรู้ร่วมกันอย่างไร้ข้อกังขาแล้วว่า “ทักษิณ” คือนายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่ชักใยนายกฯ หุ่นเชิดอยู่ข้างหลัง

ฉะนั้นหนีไม่พ้นครับ “ทักษิณ” ต้องบริหารเกมการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และวางหมากเกมกับพรรคฝ่ายค้าน

“ทักษิณ” มีมือไม้มากพอที่จะทำงานแทน และคนทำงานแทนก็พร้อมรับใช้ถวายหัว

บทตบจูบระหว่าง “ทักษิณ” กับ “อนุทิน” ดำเนินมาระยะหนึ่งแล้ว และจะดำเนินต่อไป

เช่นเดียวกับบทผู้ใหญ่หลอกเด็ก ระหว่าง “ทักษิณ” กับ “ธนาธร” ยังคงดำเนินอยู่ แต่เด็กจะให้หลอกหรือเปล่าก็อีกเรื่อง

เมื่อพรรคฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกรัฐบาล ก็เริ่มมีข่าวปรับคณะรัฐมนตรีออกมา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นข่าวปล่อย ข่าวลวง แต่ก็เป็นข่าวที่คนปล่อยหวังผลทางการเมือง

มิได้ปล่อยสนุกปากแบบไร้จุดหมาย

หนักสุดขณะนี้คือ อาจถึงขั้นพลิกขั้ว!

เป็นไปได้หรือ ไหนพรรคส้มบอกว่า ไม่มีทางร่วมรัฐบาลกับรัฐบาลเพื่อไทยเด็ดขาด

ในทางการเมือง เราเห็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาเยอะแล้ว กับแค่พรรคส้มร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ไม่เห็นจะแปลก

มันจะแปลกตรงที่ ด้อมส้ม คิดว่าเป็นไปไม่ได้นี่แหละ

หาก “ทักษิณ” กับ “อนุทิน” เดินไปถึงจุดแตกหัก โอกาสพลิกขั้วอีกรอบมีแน่นอน

วันนี้นักการเมืองพรรคส้ม ๔๔ คนคอพาดเขียง

๒๕ คนในนั้นยังมีสถานะ สส.อยู่

ปัจจุบันพรรคส้มมี สส.รวมทั้งสิ้น ๑๔๓ คน หาก ๒๕ สส.ตายยกเข่งจากคดีแก้ ม.๑๑๒ ทำให้พรรคส้มเหลือ สส. ๑๑๘ คน กลายเป็นพรรคอันดับ ๒ ไปในทันที

ส่วนพรรคเพื่อไทยมี สส. ๑๔๒ คน มากเป็นอันดับ ๑

ตัวเลขเปลี่ยน ความรู้สึกเปลี่ยน แถมพรรคส้มเปิดศึกแบบเลือดเข้าตากับ ป.ป.ช.ทุกรูปแบบ

ถึงขั้นออกล่าประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ “สุชาติ ตระกูลเกษมสุข” ในขณะที่ ป.ป.ช.เรียก ๔๔ นักการเมืองพรรคส้มรับทราบข้อกล่าวหาคดีแก้ ม.๑๑๒

เวลาเดียวกันนี้ “ทักษิณ” ใช้เครือข่ายการเมืองตัวเองเล่นงาน “อนุทิน” กรณีสนามกอล์ฟบนที่ดิน ส.ป.ก.

ไม่ใช่เรื่องหิวแสง “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” จับงานนี้ในฐานะที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์

พูดง่ายๆ คือเป็นคนของ “ธรรมนัส พรหมเผ่า”

ในทางการเมือง “ธรรมนัส” ไม่จำเป็นต้องเล่น “อนุทิน” เพราะเป็นการก่อศัตรูโดยใช่เหตุ

แต่เมื่อมีใบสั่งก็ต้องทำตาม เพราะการเป็นศัตรูกับนายใหญ่นั้นจะสร้างความยุ่งยากได้ยิ่งกว่า

เกมจะออกมาหน้าไหน เมื่อไหร่ มิทราบได้ แต่ช่วงซักฟอกรัฐบาลอาจมีอะไรแปลกๆ ให้เห็น

ไม่ทราบว่า สว.อังคณา นีละไพจิตร ส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ที่ขอถอนญัตติตรวจสอบนักโทษเทวดาชั้น ๑๔ ออกจากวาระการประชุม

ข้ออ้างสำคัญมากครับ

“…มีผู้ทักท้วงว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงต้องตรวจสอบว่าข้อกฎหมายจำกัดอำนาจของ สว.ในการอภิปรายหรือไม่…”

“สว.อังคณา” อ้างแบบนี้ สส.ฝ่ายค้านก็อาจอ้างด้วยเหตุผลเดียวกัน โดยไม่มีการซักฟอกประเด็นนักโทษเทวดาชั้น ๑๔ ได้ด้วยเช่นกัน

วันนี้ภูมิใจไทยมี สส. ๗๑ เสียง รวมไทยสร้างชาติมี สส. ๓๖ เสียง รวม ๑๐๗ เสียง

หาก “ทักษิณ” เขย่ารัฐบาลใหม่ เอา ๑๐๗ เสียงออก ดึง ๑๑๘ เสียงเข้า ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

วาระสภาเหลืออีก ๒ ปี มากพอที่จะระบายความคับแค้นในฐานะรัฐบาลได้เยอะ

อยู่ที่พรรคส้มจะหวังกินน้ำบ่อไหน

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
เลขาธิการ คปภ. ออกคำสั่งนายทะเบียนด่วน ให้ผู้เอาประกันภัยที่สามารถแยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เคลมค่ารักษาพยาบาลได้
คปภ. ผนึกกำลังภาคธุรกิจประกันภัย ช่วยเหลือประชาชนสู้โควิด-19 พร้อมหนุนภาครัฐใช้มาตรการ Home Isolation แก้ปัญหาวิกฤตเตียงโรงพยาบาลไม่เพียงพอ
Read More
0 replies on “จุดเปลี่ยน-พลิกขั้ว #ผักกาดหอม”