ผักกาดหอม
ต้องยกให้เป็นบุคคลแห่งปีตั้งแต่ต้นปีเลยครับ…
“ทักษิณ ชินวัตร” มีเรื่องให้พูดถึงได้ทุกวัน
วานนี้ (๒๐ มกราคม) สุดแสนสะเด็ดสะเด่า
น่าจะได้เสี้ยนเป็นของแถมเต็มปาก
ขยันจริงๆ ครับ ขยันสร้างศัตรู
แต่เข้าใจได้ครับ คนไม่มีแผ่นดินอยู่มา ๑๗ ปี ครั้นได้กลับบ้าน พกความแค้นกลับมาด้วย ก็ใช้เวทีปราศรัยหาเสียง อบจ.นี่แหละครับ ระบายแค้นให้เต็มคราบ
“…ไอ้พวกปฏิวัติไล่ผมไป นึกว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่กลับแย่ลงและเกิดควายโผล่มาหลายตัว ควายเขาเก คอยไล่ขวิดอยู่เรื่อย พี่น้องเราต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ได้…”
ไม่ทราบว่ากฎกติกาการปราศรัยหาเสียงเอื้อให้พวกปากไม่มีหูรูดพูดอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ ควายถึงได้เกลื่อนเวทีปราศรัยทุกเวทีที่ “ทักษิณ” ขึ้นพูด
ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๓ หมวด ๕ ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ ๒๓ ห้ามผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง หรือยินยอมให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดหาเสียงเลือกตั้ง ในลักษณะ ดังต่อไปนี้
(๔) หาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่
กกต.ช่วยดูหน่อยครับว่าคำปราศรัยของ “ทักษิณ” เข้าเกณฑ์ ข้อ ๒๓ (๔) นี้หรือไม่
ถ้าเข้าก็ย้อนกลับไปดูเวทีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ด้วย
หากไม่เข้าก็ปล่อยให้ควายขึ้นเวทีปราศรัยต่อไป!
ครับ… “ทักษิณ” บอกว่ามีเรื่องอีกเยอะ จะเยอะแค่ไหนมาดูกัน
“…มีเรื่องอีกเยอะ ที่ต้องการกำลังใจจากพี่น้อง วันนี้มีเรื่องต้องทำอีกเยอะ แต่กำลังใจจากพี่น้องเป็นเรื่องสำคัญ เพราะตังค์มีเยอะแล้วไม่เดือดร้อน
มีคนบอกว่าผมโกง โกงพ่อมึงสิ!
ผมเข้ามาการเมืองเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช.ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า ๖ หมื่นล้านบาท เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้งๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินมาแท้ๆ
คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย
วันนี้ผมไม่เดือดร้อน แม้มีเงินเดือน ๗๐๐ บาท ค่าแรง ๓๐๐ บาท ก็ไม่เดือดร้อน เพราะความสุขคือการทำให้บ้านเมือง และพี่น้องพ้นทุกข์
คนสารคาม หลังปี ๗๐ หล่อสวยแน่เพราะมีตังค์แล้วมันหล่อสวย ไม่ต้องไปศัลยกรรม มีตังค์แล้วผัวเมียก็ไม่ทะเลาะกัน ตอนไม่มีตังค์พูดจาอะไรหงุดหงิดไปหมด
ผมโดนมาหมดแล้วเคยเห็นมาทั้งนรกทั้งสวรรค์ ตอนนี้อยู่บนดิน ไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่ประสบการณ์ในนรกจะนำมาแก้ไขเพื่อช่วยเหลือพี่น้อง ให้มีความสุข เหมือนที่ผมเคยประสบความสำเร็จในชีวิตการทำธุรกิจ…”
ประเด็นนี้เป็นไฮไลต์ของวันเลยครับ
“โกงพ่อมึงสิ” กับ “พ่อมึงสิโกง” แค่สลับคำ ความหมายก็เปลี่ยน
“ทักษิณ” โกงหรือเปล่า?
คำตอบคือ พระราชหัตถเลขา ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๖
มีความว่า….
“…ตามที่ นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา จำนวน ๓ คดี คือ
คดีหมายเลขแดง ที่ อม. ๔/๒๕๕๑ ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก ๒ ปี
คดีหมายเลขแดง ที่ อม. ๑๐/๒๕๕๒ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก ๒ ปี ซึ่งคดีที่ ๑ กับคดีที่ ๒ นับโทษซ้อนกันรวมกำหนดโทษจำคุก ๓ ปี
คดีหมายเลขแดง ที่ อม. ๕/๒๕๕๑ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมกำหนดโทษจำคุก ๕ ปี
รวมกำหนดโทษจำคุก ๘ ปี รับโทษแล้ว ๑๐ วัน เหลือโทษจำคุก ๗ ปี ๑๑ เดือน ๒๐ วัน อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ความว่าเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าวด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา ขณะนี้อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก ๑ ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคมและประชาชน สืบไป…”
“ทักษิณ” ไม่ควรปฏิเสธว่าตัวเองไม่โกง เพราะยิ่งปฏิเสธมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งประจานให้เห็นว่า ที่เคย ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด เมื่อครั้งถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้น เป็นการถวายความเท็จ!
ที่จริง “ทักษิณ” โกงหรือไม่ ไม่ควรเป็นหัวข้อที่ต้องนำมาถกเถียงด้วยซ้ำ เพราะมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ด้วยคำพิพากษาของศาลหลายคดี
แต่เมื่อวันนี้เมื่อได้รับอิสระเพราะได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแล้ว “ทักษิณ” พลิกลิ้น ยืนยันว่าตัวเองไม่เคยโกง
เพราะมึงตรวจสอบตอนกูรวย!
ก็ใช่ไง เขาพบว่ามึงร่ำรวยผิดปกติ ถึงได้ตรวจสอบ
สอบจนเกิดศัพท์ใหม่ในขณะนั้น คือ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” กับ “ทุจริตเชิงนโยบาย”
ไม่อาจทราบได้ว่าประสบการณ์ในนรกของ “ทักษิณ” มีอะไรบ้าง
ไปเจออะไรมาบ้าง
แต่เป็นการยืนยันจากเจ้าตัวว่า “ตกนรก” มาแล้ว
วันนี้โชคดีได้กลับโลกมนุษย์อีกครั้ง
กลับมาด้วยความแค้น
แค้นเพราะถูกลงโทษคดีโกง
นี่คือคนที่ควบคุมรัฐบาลอยู่ในขณะนี้
คนที่บอกว่าได้ที่ธรณีสงฆ์มาโดยสุจริต ซื้อต่อจากมือแรกมาอีกที
งั้นลองไปถาม “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ติดคุก ๒ ปี จากคดีธรณีสงฆ์สิครับ
เขาว่าคำสาป “ยายเนื่อม” เฮี้ยนจริง