เปลว สีเงิน
ทักษิณส่ง “ภูมิธรรม” ให้ตั้งเป็น “รัฐมนตรีกลาโหม”
“ร้องยี้” กันใหญ่
ว่าเอาอดีตนักศึกษาที่หนีเข้าป่าไปเป็นคอมมิวนิสต์มาคุมกองทัพ!
แต่ผมว่ายังดีนะ อย่างน้อยภูมิธรรมก็รู้ “เกาะกูด” เป็นของไทย แต่พื้นที่ใต้เกาะ ซึ่งมีน้ำมันและก๊าซเป็นของใคร ต้องรอถามนายใหญ่เขาก่อน!?
ทั้งยังรู้ว่า “เกาะสอง” ที่จับ ๔ ประมงไทยไปขังไว้ แต่เพื่อไทย “บ่มิไก๊” ไม่สามารถให้ส่งตัวกลับบ้านได้จนบัดป่านนี้ นั้นเป็นของพม่า
แต่ไทย-ฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงต่างประเทศยุคนี้ “ไม่มีน้ำยา” เท่านั้นเอง!
ต่างกับทรัมป์ ที่เสนอให้คนอย่าง “นายพีต เฮ็กเซ็ธ” พิธีกร Fox News เป็น “รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ”
เพราะนายคนนี้ สะเหร่อ จนสุดทุเรศเวทนา
ดูข่าวคืนวานซืน วุฒิสภาเชิญคนที่จะเป็นรัฐมนตรีไปตรวจสอบคุณสมบัติ “นางลัดดา แทมมี่ ดั๊กเวิร์ธ” วุฒิสมาชิก เดโมแครต ถาม “นายพีต เฮ็กเซ็ธ” ว่า
“รู้จักประเทศในอาเซียนหรือไม่ ให้บอกชื่อประเทศในอาเซียนมาอย่างน้อย ๑ ประเทศ”
ปรากฎว่า คนระดับว่าที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ “ไม่รู้จักอาเซียน” เลี่ยงตอบไปว่า
“สหรัฐฯ มีพันธมิตรเยอะแยะในเอเชีย ทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และที่ใกล้ๆ กันก็มีออสเตรเลีย”
ทำเอา “วุฒิสมาชิกลัดดา” อดรนทนไม่ไหว ต้องพูดสวนไปทันที ให้นายเฮ็กเซ็ธ ไปศึกษามาให้มากกว่านี้ พร้อมทั้งบอกว่า
“ทั้งสามประเทศที่กล่าว ไม่มีประเทศไหนเลย ที่เป็นสมาชิกอาเซียน”
แบบนี้ พวกสามนิ้วและจาน’มหาลัย “ทาสอเมริกัน” ในไทย พลอยขายขี้หน้าไปด้วย!
คนจะเป็นรัฐมนตรีกลาโหมของประเทศที่เป็นเจ้าของยุทธศาสตร์ “อินโด-แปซิฟิก” จะเข้ามาต่อกรกับจีนในภูมิภาคนี้
แต่ “ไม่รู้จักอาเซียน”…..
คือไม่รู้จัก ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ลาว เขมร พม่า มาเลย์ อินโดฯ บรูไน และติมอร์-เลสเต
แล้วสะเออะจะเป็น “พ่อทุกสถาบัน” ในอุษาคเนย์ ยิ่งไม่รู้จักไทย ไม่รู้จักเวียดนามด้วยแล้ว
เป็นแค่สากกระเบือหน้าจอ Fox News ปั่นข่าวโง่ๆ ให้อเมริกันชนตามบ้านนอกงมโข่งต่อไปนั่นแหละ ดีแล้ว
อย่ามาเป็นเลย “รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ” นั่นน่ะ เผลอๆ จะถูก “จีนเทา” มันต้มเอา
ทำให้เสียเผ่าพงศ์ “อเมริกันเผือก” ที่ไทยซูฮกยกก้นบูชา “เป็นเทวดา” ที่ต้องเชื่อฟังมาตลอด!
เมื่อวาน (๑๖ มกรา.) ผมเห็น สส.โรม พรรคประชาชนเจี๊ยวใหญ่
ว่านายกฯ แพทองธารที่เป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” มาด้วยกัน เคยด่านายกฯ ประยุทธ์ ที่ไม่มาตอบกระทู้ในสภาด้วยกัน
ครั้นพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล….
นายกฯ เพื่อไทยกลับทำตามที่เคยด่าคนอื่นเขาไว้ ถึงวันพฤหัสที ก็หาเหตุหายหัว “หนีกระทู้” ไปตรวจราชการต่างหวัดที
ดูแล้วขำ “พรรคประชาชน-เพื่อไทย” อวดอ้างเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” ถล่มรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ด้วยวิชามารทุกรูปแบบมาด้วยกันเป็นทศวรรษ
ครั้นราชรถมาเกยเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ทุกเรื่องที่เคยสรรด่ารัฐบาลประยุทธ์ไว้
วันนี้ รัฐบาลเพื่อไทยทำตามที่ตัวเองเคยด่าเขาไว้หมดทุกเรื่อง แล้วยังมีหน้าเรียกร้องความเห็นใจ
ขอร้อง…อย่าขวางรัฐบาลต้มทำยำแกงประเทศ!
ใครร้องเรียน ก็ว่าเขาเป็นนักร้อง ยืมมือกฎหมาย “ฟ้องปิดปาก” คนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ปากประชาธิปไตย แต่หัวใจลูกหมาชัดๆ นักเลงจริงทางประชาธิปไตยน่ะ เมื่อขึ้นเวทีแล้ว เขาไม่ “ยืมมือตำรวจ-ยืมมือศาล” ไปจัดการกับอีกฝ่ายหรอก
มึงมัน “กระจอกว่ะ!
ตอนตัวเองเป็นฝ่ายแค้น ไม่เพียงปั่นเฟกนิวส์ ปั้นวาทกรรม เปิดคลับเฮาส์ “เห่าหน้าจอ” เอากันถึงขั้นลงถนน ระดมคนจลาจลเผาเมือง
ตัวเองเสวยอำนาจ แล้วมีใครไปกลั่นแกล้งด้วยวิธีการระยำต่ำทรามอย่างที่ฝ่ายตัวเองเคยทำสมัยรัฐบาลประยุทธ์บ้างมั้ย?
ก็ไม่มี….
ทุกอย่างแฟร์เพลย์ตามกติการัฐธรรมนูญ มีแต่พวกเดียวกันแต่แยกฝ่ายฟัดกันเองเท่านั้น
ตอนร่วมแค้น ก็กอดคอกัน ตอนมีสุขไม่ร่วม แยกกัน
ที่เป็นรัฐบาลก็ลืมกำพืด หนีประชุมสภาตะพึด ที่เป็นฝ่ายแค้นเพราะโง่กว่าเขา ก็ได้แต่ประจานด่าขรม
ดูแล้วสนุกดี เข้าตามภาษิตเปี๊ยบ “ทุกขตัว ทุกขถัวนัว” จะเอาไปใส่ตูดเขา ดันมาเข้าตูดตัว!
เมื่อวาน หาเหตุ “ผลาญงบ” ลงใต้ ที่นราธิวาส-ยะลา-ปัตตานี ไปกันเยอะแยะ ทั้งแม่ทัพ-นายกอง
ไปทำไมกัน?
นายกฯ แพทองธาร ไปเจ๊าะแจ๊ะชาวบ้าน เซลฟี่กับชาวบ้าน ไปไกล่เกลี่ยหนี้ชาวบ้าน ไปกินชาชัก ไปให้เขาจัดฉากโครงการขุดลอกร่องน้ำปัตตานี
โฉบพอเป็นพิธี “หนีกระทู้สภา” ก็บินกลับ
ผมละเสียดาย อุตส่าห์ไปถึงนราธิวาสทั้งที ถ้านายกฯ มีภาวะสำนึกซักนิด
ภาพพรรคประชาชน “ประชาธิปไตยฝ่ายแค้น” ก่นด่านายกฯ “ประชาธิปไตยฝ่ายเสวยสุข” ประเด็นหนีกระทู้ จะถูกกลบด้วยภาพ “นายกฯ ขวัญใจ” ทันที
ผมไม่อยากพูด ให้ข่าวนี้พูดดีกว่า….
ถ้านายกฯ ไปนราธิวาสด้วยจุดหมายนี้ อุ๊งอิ๊ง เผลอๆ จะเป็น “นารีขี่ม้าขาว” ในหัวใจคนได้ด้วยซ้ำ
อ่านข่าวก่อนดีกว่า……..
………………………….
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
สุดอาลัย ฝังร่าง “2 ตำรวจกล้า” สมเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เคลื่อนร่างสู่บ้านเกิด คลุมธงชาติไทย ครูสุวิทย์ และ ด.ต.โดม ตชด.ผู้เสียสละ ปิดทองหลังพระเพื่อเด็กชายแดนใต้
จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดตำรวจตระเวนชายแดน ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครูใหญ่ รร.ตชด.บ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ครู รร.ตชด.บ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 บุตรชาย เสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2567
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 จัดพิธีศพตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ครู ตชด. “ตำรวจกล้า” ทั้ง 2 นาย อย่างสมเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
“พ.ต.ท.สุวิทย์หรือครูสุวิทย์” คือตำรวจผู้เสียสละโดยแท้ เป็นครู ผู้มอบความรู้ ให้การศึกษา บ่มเพาะรากฐานคุณธรรมแก่เด็กๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ด้วยความเสียสละและทุ่มเท
ยกย่องเป็นตำรวจผู้ทรงคุณค่า ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ผู้มีใจที่ยิ่งใหญ่ เสียสละ ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ มิหวาดหวั่นเกรงกลัวภัย เพื่อเด็ก เยาวชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนได้มีการศึกษา มีชีวิตที่ดี สร้างคุณประโยชน์แก่สังคม จนได้รับการยกย่องผ่านรางวัลสำคัญ
เช่น รางวัลครูดีเด่น, รางวัลครูใหญ่ดีเด่น, รางวัลพระราชทาน “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” รางวัล “ผู้ปิดทองหลังพระ” ในงานคนค้นฅน อวอร์ด ครั้งที่ 9
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 17.00 น. ที่โรงเรียนกงหรา พัทลุง ได้มีพิธีรับร่างคลุมธงชาติไทย ของ พ.ต.ท.สุวิทย์ เเละ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์
โดยมี พ.ต.อ.นรินทร์ คำแก่น รอง ผบก.ตชด.ภาค 1 รรท.ผบก.ตชด.ภาค 4 ในขณะนั้น นำข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน ส่วนราชการในพื้นที่ และครอบครัวช่วยเทวฤทธิ์ ร่วมพิธี โดยนำร่างขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับมายังบ้านเกิด จว.พัทลุง
ต่อมา วันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 08.00 พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มอบหมายให้ พ.ต.อ.นรินทร์ คำแก่น รอง ผบก.ตชด.ภาค 1 รรท.ผบก.กฝ.บช.ตชด.นำข้าราชการตำรวจ ตชด. ร่วมพิธีฝังร่างผู้วายชนม์ “พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์” ณ มัสยิดบ้านหน้าวัง ม.8 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จว.พัทลุง โดยมีข้าราชการตำรวจ ส่วนราชการในพื้นที่และประชาชน ร่วมพิธี โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าอาลัย
#ตำรวจกล้า
#ครูตชด #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
#Royalthaipolice
………………………………
ไปถึงนราธิวาสทั้งที นายกฯ ไปที่ “ศรีสาคร” และที่ “โรงเรียนตชด.บ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13”
วางดอกไม้คารวะแด่ “พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์” ณ จุดเกิดเหตุ และที่โรงเรียนซักช่อ
“นายกฯ แพทองธาร….
เธอจะเป็น “นางฟ้า” ในหัวใจประชาชนทันที
ก็เสียใจ ที่มากด้วยสอพลอ แต่ร่อยหรอสมองคิด!
เปลว สีเงิน
๑๗ มกราคม ๒๖๗๘
