เอาซะทีเถอะน่า…กกต.! #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

หมาน่ะ ….
จุ๊ๆ ปาก มันยังหยุด เอียงคอ ตาจ้อง หูตั้ง และฟัง
แต่ที่ “นายอิทธิพร บุญประคอง” ประธานกกต.กระแอมถึงนายทักษิณ ผู้ช่วยหาเสียง “ผู้สมัครนายกฯอบจ” พรรคเพื่อไทย
ประมาณว่า “เซาๆ อย่าเว้าหลาย”!

เพราะเท่าที่พล่ามอยู่ตอนนี้ ฉวัดเฉวียนในข่าย “ผิดกฎหมาย” ตามกติกาเลือกตั้งท้องถิ่นหลายข้อแล้ว
แต่ไอ้ตัว “ราหูอมเมือง” มันหาแยแสไม่

คงเพราะในสายตามัน “ผู้บังคับใช้กฎหมาย” ไม่มีน้ำยา
หรือไม่ก็เพราะนายอิทธิพร “บ่มิไก๊ ไม่อยู่ในสายตา” มันเช่นกัน

ผมก็ว่า ครือๆ กันทั้ง ๒ นั่นแหละ!
นายอิทธิพรให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อวานว่า เลือกตั้งอบจ. วันที่ ๑ กุมภา.นั้น ตอนนี้ มีเรื่องร้องเรียนมาแล้วกว่า ๓๐ เรื่อง
แต่ยังไม่มีใครร้องเรียนเกี่ยวกับการหาเสียงนายทักษิณเลย!

เดี๋ยวก็คงมีแหละท่าน ถ้าไม่มี ก็ใช่ว่าไม่มีการทำผิด หากแต่ทุกวันนี้ กกต.เป็น “ศูนย์สลายความหวัง” ของชาติไปแล้ว ท่านรู้ไว้ด้วย

ร้องไปก็สูญเปล่า เอาเวลาไปอาบน้ำหมา-น้ำแมวดีกว่า ยังได้บุญ!

ทำบุญ เห็นผลในชาติหน้า…….
แต่กับกกต.ต้องทำใจ “ชาติหน้าอีกร้อยชาติ” จะได้เห็นผลหรือไม่ แม้องค์อินทร์เจ้าเทวา ก็ยังหาคำตอบมาให้ไม่ได้!

แต่เอาเถอะ ประธานกกต.ท่านยังอุตส่าห์สรรสาระมาพูดเป็น “กรอบจักรวาล” ในการหาเสียงอบจ.ให้ฟัง ก็ฟังกันดู

“การหาเสียง อยากให้แยกเกี่ยวกับการพูดถึง “นโยบาย ระดับชาติ” กับการหาเสียง “ระดับท้องถิ่น” เป็นเรื่องที่บางครั้งเชื่อมโยงกันได้

แต่จะเข้าข่ายเป็นการหาเสียงที่ “ผิดกฎหมาย” หรือไม่ มีอยู่ ๒ ข้อหลัก คือ

๑.หาเสียงว่าจะให้หรือเสนอให้
๒. หาเสียงหลอกลวง

ถ้าหาเสียงว่า “จะให้” มันก็เข้าข่ายผิดกฎหมายแน่นอนตามมาตรา ๖๕(๑)

แต่ถ้าเป็นการหาเสียง “หลอกลวง” เพราะมันไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของอบจ.นั้นๆ ก็ “เข้าข่ายหลอกลวง” ได้

เพราะฉะนั้น การกล่าวถึงเวลาเราพูดถึงบริบททั่วๆ ไปบางครั้งกล่าวไปทางนั้นทางนี้ มันจะใช่ถึงขนาดหาเสียงหลอกลวง สัญญาว่าจะให้หรือไม่
ต้องดูบริบทแต่ละอันเป็นรายกรณีไป รวมถึงดูรายละเอียดด้วย”

ผมเสริมให้อีกข้อ ที่หาเสียงแล้วเข้าข่ายผิดกฎหมาย คือ
“หาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรงหรือปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่”

ถ้าอย่างนั้น…..
ท่านสิทธิพรลองฟังที่ทักษิณไปตะโกนตามเวทีต่างๆ

โดยผู้สมัครนายกอบจ. แค่ยืนอมสากอยู่ข้างๆ ว่าทักษิณเอานโยบาย “ท้องถิ่น” ไปพูดหาเสียงให้ผู้สมัคร
หรือเอานโยบาย “ระดับชาติ” มาตกเบ็ดคะแนนให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย?
………………….

“เมื่อครั้งผมยังไม่เล่นการเมือง ก็สบายดีอยู่ กระทั่งปี ๒๕๓๖ มีเงินถึง ๖ หมื่นล้านแล้ว พอเล่นการเมืองจึงหมดไปเรื่อยๆ

พวกควายยังมาด่าผมอีก พ่อมึงไม่รู้หรือไง ผมรวยมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๕-๓๖ แล้ว ผมคิดแบบคนสมัยใหม่
แต่คนรุ่นเก่ากลับด่าผมสารพัด

มีอยู่คนบอกว่า “ผมสร้างความวุ่นวาย” เพราะแค้นผมมาตั้งแต่ปี ๔๔ ที่บ้านของเขาหน่วยเลือกตั้งมี ๔๕๐ คน เลือกเขาเพียงแค่ ๔๗ คน ประชาชนยังไม่เลือกเลย”

เนี่ย….
อย่างนี้ “หาเสียงหลอกลวง” และ “หาเสียงโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรงหรือปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่” หรือไม่?

ท่านประธานกตต.โปรดโยนิโสมนสิการ!

ยังมีอีก….
“เมื่อก่อนพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ มีสส.๓๐๐ กว่าคน สมัยนี้เหลือแค่ร้อยว่าคน ทำให้ทำงานลำบาก

วันนี้จึงต้องมาออกแรงเพื่อให้ได้ท้องถิ่นที่เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย เพราะการขับเคลื่อนนโยบายระดับประเทศให้ลงถึงมือประชาชนจริงๆ

ต้องใช้มหาวิทยาลัย ใช้ อบจ. และผมเองเตรียมพัฒนาทักษะของคนไทย ให้มีรายได้มากขึ้นมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ
เลยต้องมีอบจ.ที่เป็นของพรรคเพื่อไทย

ฉะนั้น หวังว่าพี่น้องจะไว้ใจผมและเลือกผู้สมัครของพรรค มาเป็นลูกไม้ลูกมือของผม

แต่วันนี้รายได้ฝืดเคือง สมัยผมรายได้ดี ไปที่ไหนก็หาเงินง่าย ผมจะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้

ซึ่งในปี ๒๕๖๘ เราจะปรับพื้นฐาน และปี ๒๕๖๙ จะเป็นปีที่ประชาชนเริ่มฝันได้ อยากหาเงินตรงไหน อยากหาเงินจับอะไรก็เป็นเงิน เป็นทอง

แล้วปี ๒๕๗๐ เงินจะเต็มกระเป๋า

เดิมทีผมไม่ได้สนใจการเมืองท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านั้น เป็นรัฐบาลมาจากพรรคใหญ่ เรามีกลไกในทุกกระทรวง

แต่วันนี้ เราไม่ได้มี สส.๒๐๐ เหมือนก่อน ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ก็ขอให้คืน สส.ให้กับพรรคเพื่อไทยให้หมด

ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงมองว่า การเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ ตอนที่ผมกลับมา มานั่งดูปัญหาทุกเรื่องสิ่งที่เคยแก้ไว้ในสมัยก่อน

มันหายไปหมด ๑๗-๑๘ ปี ที่ผมไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ระบบเสียหายไปหลายอย่าง

วันนี้เลยต้องมานั่งดูว่า จะทำอย่างไรบ้าง ที่จะทำให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อน หากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้น มีกินมีใช้ อย่างอีกหน่อยเศรษฐกิจประเทศก็จะดี”

เป็นไงครับท่านประธานกกต.?

บริบทที่ทักษิณพูด เต็ม ๒ รูหู นอกจากไม่มีอะไรที่เป็นนโยบายท้องถิ่นแล้ว

ยังบ่งว่า “ครอบงำพรรคเพื่อไทย” เต็มพระบาท ผิดตามพรบ.พรรคการเมือง มาตรา ๒๘-๒๙ ชัดแจ้ง-แดงแจ๋ด้วยซ้ำ!

ปี ๒๕๖๘ เราจะปรับพื้นฐาน
ปี ๒๕๖๙ จะเป็นปีที่ประชาชนเริ่มฝันได้ อยากหาเงินตรงไหน อยากหาเงินจับอะไรก็เป็นเงิน เป็นทอง
แล้วปี ๒๕๗๐ เงินจะเต็มกระเป๋า

อย่าว่าแต่คนเลย หมาฟังยังหอนแล้วเอาตีนเกาหู เพราะเข้าข่ายหาเสียงหลอกลวงชัดๆ

ถ้ากกต.บอกว่าไม่หลอกลวง ควรลาออกไปสมัครเป็นลูกพรรคเพื่อไทย ปี ๖๙ จะได้ฝัน แล้วปี ๗๐ เงินจะได้เต็มกระเป๋า!

ยังไม่จบ ทนฟัง “ทักษิณ-พ่อทุกสถาบัน” ถุยประเทศต่ออีกหน่อย
………………………..

“โดยในส่วนของรัฐบาล จะมีการจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุ ๖๐ ปีขึ้นไปทั่วประเทศประมาณ ๓ ล้านคน คนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ในวันที่ ๒๙ มกรา.นี้

ใช้งบประมาณ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งยังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการผ่อนบ้านและรถด้วย”
…………….

“ผมจึงมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยโดยการนำของนายกฯ อุ๊งอิ๊งจะแก้ไขปัญหาประเทศได้ โดยตั้งเป้าว่าปี ๒๕๖๘ ทุกฝ่ายจะทำงานให้หนักและเศรษฐกิจดีขึ้น

และปี ๒๕๖๙ เปรียบเหมือนเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ จากนั้น ขอเวลาอีก ๒ ปี หนี้ประเทศจะลดลง”
……………………..

“เรื่องยาเสพติดเกิดจากในเมียนมา มีการสู้รบกัน บางกลุ่มจึงขายยาเสพติด เพื่อนำเงินไปซื้ออาวุธและมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้ว

ดังนั้นในปี ๒๕๖๘ นี้ จะจัดการให้เรียบ

ส่วนเรื่องการพนันออนไลน์นั้น มีคนเข้าไปเล่นมากมาย บางครั้งหลายล้านคนซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคนเหล่านี้มีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี หรือไม่?

ดังนั้น จึงถึงเวลาจะเอาสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ขึ้นมาบนดิน เพราะถ้าถูกกฎหมายจะเก็บภาษีได้ โกงไม่ได้ อายุต่ำกว่า ๒๐ ปีเล่นไม่ได้ คนที่ติดงอมแงมก็ส่งให้หมอบำบัดได้

โอ้ยยยยย ปู่ลมจะจับ ท่านประธานกกต.เอ้ย!
มันหลอกลวงให้ชาวบ้านแหงนคอดูปลาเค็มบนขื่อแล้วเปิบข้าวเปล่าด้วยคำลวงแบบนี้มา ๑๗-๑๘ ปีแล้ว

ก็เอามุกเก่ามาหลอกพวกหน้าโง่ให้งมโข่งอีก

แถมเอาเงินหลวงมา “แจกผลาญชาติ” ด้วย “สัญญาว่าจะให้” โปรโมทเป็นผลงานลูกสาว โดยไม่เห็นหัวกกต.ทั้ง ๗ เลย!

กตต.จดใส่ผนังส้วมไว้เลยนะ
ว่านี่คือ คำมั่นสัญญาพรรคเพื่อไทย โดยพ่อนายกฯ ให้ไว้ ๓๑ ธันวา.๖๘ เป๊งงง…

ถ้ายังมีแก๊งคอลเซนเตอร์ ยังมียาเสพติดในประเทศละก็ จับนายกฯ ฐานผิดกฎหมายหาเสียงเลือกตั้งด้วยการหลวกลวงประชนทันทีเลยนะ!

อีกซักประเด็นที่แม้วโม้ให้เหม็นขี้ฟัน หรือ ๗ กกต.จะหอมก็ไม่รู้นะ

“เรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าว่าในปี ๒๕๖๘ นี้ จะต้องเอาตัวเลขการใช้ไฟให้เหลือเลข ๓ ดูแล้วน่าจะให้ถึง ๓.๗๐ บาทน่าจะได้

กฟผ.เป็นองค์กรผลิตไฟฟ้าเพื่อขายเอากำไรส่วนหนึ่ง กฟน.,กฟภ.และเอกชน ก็จะนำมาจ่ายต่อ สุดท้ายประชาชนก็ตายกันพอดี

จึงต้องแก้ไขปัญหา ยืนยันให้ค่าไฟฟ้าลดลง เมื่อนั้นสินค้าอื่นๆ ก็จะลดลงตาม เพราะธุรกิจย่อมหวังผลกำไรแต่ไม่ใช่ได้กำไรแล้วอยู่อย่างสุขสบาย”

นี่ก็…กกต.วินิจฉัยซิ ที่ทักษิณไปพ่นตามเวทีหาเสียงที่เชียงราย มันใช่นโยบายตามอำนาจ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” มั้ย?

พอรัฐมนตรี “พีระพันธุ์” ประกาศ “พัง…ซุ้มเสือนอนกินพลังงาน” เท่านั้นแหละ
รีบประกาศตัดหน้า กูจะลดลงมาให้ถูกกว่าที่พีระพันธุ์กำลังทำ!

โธ่เอ๊ย…ตัวเองเป็นรัฐบาล ๕ ปี นอมินีอีก น้องเขยอีก น้องสาวอีก ลูกสาวอีก รวมแล้วเป็นสิบปีมั้ง
รู้ว่าแพง ทำไมไม่ลด หรือว่าแพงเพราะกูเอง…หือ?

พอพีระพันธุ์เขาเอาจริง รีบบอกจะลด ลดค่าไฟน่ะ ไม่ต้องหรอก ลดค่าโกง ลดการสุมหัวกินในพลังงาน ค่าไฟมันก็จะลดลงมาเองหละ!

ก็หวังว่ากกต. คงไม่ใช่ “๗ คนตาบอดกลัวเสือ” นะ
ลอง “ดีดใส่เสือ” ให้ร้องเอ๋งดูซักทีซิ!

เปลว สีเงิน
๑๑ มกราคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ

 

Written By
More from plew
หลวงพ่อทวด “รุ่นเต็มองค์” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ขอได้ทราบทั่วกันนะครับ หลังประกาศ “ปิดบัญชี” โอนเงินสร้าง “หลวงพ่อทวด” วัดทรายขาว สงขลา
Read More
0 replies on “เอาซะทีเถอะน่า…กกต.! #เปลวสีเงิน”