วราวุธ-พม. แสดงพลังสร้างสังคมน่าอยู่ ไร้ทุจริต ดัน พันธกิจ 9 ด้าน ขับเคลื่อนองค์กร หนุน นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤติประชากร

3 มกราคม 2568 ที่กระทรวง พม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดงานวันต่อต้านการทุจริต กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้แนวคิด “พม. สู้ให้สุด หยุดการโกง (Fight Against Corruption)” พร้อมปาฐกถาพิเศษ “ผนึกกำลัง พม. ยึดหลักธรรมาภิบาล เร่งผลักดัน 5×5 ฝ่าวิกฤติประชากร” และมอบโล่รางวัลบุคลากร “1 คนดี มีจริยธรรม 1 หน่วยงาน” ให้ 9 คน จาก 9 หน่วยงานราชการระดับกรมหรือเทียบเท่าสังกัดกระทรวง พม.  โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. เข้าร่วมในงาน จากนั้น ทั้งหมดได้ร่วมกันถ่ายภาพแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการทุจริต “จิตพอเพียง รวมใจต้านการทุจริต”

นายวราวุธ กล่าวว่า สหประชาชาติกำหนดวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล  เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความร้ายแรงของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ บั่นทอนเศรษฐกิจ และก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม การแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน จึงถือเป็นภารกิจที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน  ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคน ที่จะต้องร่วมมือกันสร้างสังคมที่โปร่งใส เป็นธรรม และปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีความตระหนักและให้ความสำคัญต่อความโปร่งใส ความรับผิดชอบ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน และขอประกาศเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการยึดมั่นหลัก “ธรรมาภิบาล” อันเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนภารกิจ เพื่อแก้ไขปัญหา พัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนทุกคน

กระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อน นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤติประชากร ถือเป็นความมุ่งมั่นของกระทรวง พม. ในการแก้ไขปัญหาท้าทาย 5 ด้าน ประกอบด้วย ปัญหาเด็กและเยาวชน , ปัญหาผู้สูงอายุ , ปัญหาความยากจน , ปัญหาคนพิการ , ปัญหาผู้ด้อยโอกาส ในยุคที่สังคมไทยเผชิญกับความท้าทายด้านโครงสร้างประชากร ธรรมาภิบาลคือเครื่องมือสำคัญที่จะนำนโยบายดังกล่าวไปสู่ความสำเร็จ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อชีวิตของพี่น้องประชาชน หากย้อนมองประวัติศาสตร์การพัฒนาประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะพบว่าความสำเร็จในการแก้ไขวิกฤติทางสังคมนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณทรัพยากรหรืองบประมาณเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่คุณภาพของการบริหารจัดการ ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน

ขอประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า ขอให้หน่วยงานทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวง พม. ดำเนินงานทุกโครงการ ทุกกิจกรรมภายใต้นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤติประชากรโดยยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะใน 4 มิติสำคัญ ได้แก่ 1.มิติแรก การจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเพียงใด หรือมีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการอย่างไร ทุกคนจะได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม ผ่านระบบการจัดสรรทรัพยากรที่คำนึงถึงดัชนีความเปราะบางทางสังคม และความต้องการที่แท้จริงของแต่ละพื้นที่ โดยใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการวิเคราะห์และประเมินความต้องการ รวมถึงระบบการติดตามตรวจสอบการใช้ทรัพยากรอย่างโปร่งใส

2.มิติที่สอง การพัฒนาคุณภาพบริการ ให้มีมาตรฐานสากล เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพ และที่สำคัญ เราจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบและพัฒนาบริการ เพราะเราเชื่อว่า ผู้รับบริการคือผู้ที่เข้าใจความต้องการของตนเองดีที่สุด

3.มิติที่สาม การส่งเสริมการมีส่วนร่วม ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน เข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนงานของกระทรวง ผ่านกลไกการมีส่วนร่วมที่หลากหลาย เพื่อระดมทรัพยากร ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรม ในการพัฒนาและขยายบริการสวัสดิการสังคมให้ครอบคลุม ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ

4.มิติที่สี่ การเสริมสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะผ่านระบบการเปิดเผยข้อมูลแบบเปิด และกลไกการตรวจสอบแบบมีส่วนร่วม การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและระบบฐานข้อมูล พม. ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูลมีความโปร่งใส ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบได้ เป็นการช่วยป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

กระทรวง พม. ยังได้ผลักดันพันธกิจสำคัญ 9 ด้าน (Flagship Projects) ได้แก่ ยกระดับการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย , ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุ , สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง , พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ , สร้างหุ้นส่วนทางสังคม สู่สวัสดิการที่ยั่งยืน , ขับเคลื่อนพันธกิจระหว่างประเทศที่สำคัญ , สื่อสาร ประชาสัมพันธ์ทางสังคมเชิงรุก , พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านสังคม , พัฒนาระบบ พม.ดิจิทัล และฐานข้อมูล

การเดินทางสู่การเป็นสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยหลักธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง ความมุ่งมั่นของบุคลากรทุกระดับ และความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ซึ่งเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคและบรรลุเป้าหมายในการแก้ไขวิกฤติประชากร สร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ เป็นธรรม และยั่งยืน ขอให้บุคลากร พม. ทุกคน ร่วมเป็นกำลังสำคัญ เป็น พม. หนึ่งเดียว ที่จะช่วยกันผนึกกำลังขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวง พม. ให้นำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมไทยเป็นสังคมที่ดียิ่งขึ้น เป็นสังคมที่ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงในชีวิต และมีโอกาสเท่าเทียมกัน

นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้ กระทรวง พม. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จัดกิจกรรมแสดงพลังต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานของกระทรวง พม. ตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่ง เรามีเจตนารมย์ที่มุ่งมั่นในการที่จะใช้งบประมาณให้คุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ดังนั้นการใช้งบประมาณในแต่ละหน่วยงาน การทำงานแต่ละโครงการ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมุ่งเน้นถึงความโปร่งใส รวดเร็ว และตรวจสอบได้ ของบุคคลภายนอกและภายในหน่วยงาน เพราะว่าในแต่ละปี งบประมาณจำนวนมหาศาลที่ส่วนหนึ่งนั้นมาจากเงินภาษีของประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการตรวจสอบและการทำงานอย่างโปร่งใส ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายที่ตนได้มอบให้กับกระทรวง พม. สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์มากที่สุด ดังนั้นวันนี้ขอขอบคุณปลัดกระทรวง พม. และพี่น้องข้าราชการ พม. ทุกคน ที่ได้ช่วยกันแสดงเจตนารมย์แน่วแน่ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ซึ่งวันนี้เราได้แสดงเจตนารมย์ให้พี่น้องประชาชนได้เห็นแล้วว่า การกระทำของพี่น้องข้าราชการจะต้องทำให้เห็นตามเจตนารมย์ที่เราได้แสดงไว้

Written By
More from pp
ลุยต่อ “ช้อปพร้อมชาร์จ” กฟผ. ร่วมกับ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ศูนย์การค้าในเครือ เอ็ม บี เค เปิดให้บริการสถานี EleX by EGAT
นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ ในฐานะ Project Management Office การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
Read More
0 replies on “วราวุธ-พม. แสดงพลังสร้างสังคมน่าอยู่ ไร้ทุจริต ดัน พันธกิจ 9 ด้าน ขับเคลื่อนองค์กร หนุน นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤติประชากร”