เปลว สีเงิน
“นักการเมือง” คือคนโง่
เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกคือพรบ.ต่างๆ
เป็นกำไล EM รัดคอ-รัดเท้า ควบคุม ๒๔ ชั่วโมง!
สู้เป็น “ผู้ช่วยนักการเมือง” ไม่ได้ ถือว่าฉลาดที่สุด
“ครอบงำ-สั่งการ” ทั้งรัฐบาล ทั้งพรรคได้ เพราะตำแหน่งนี้ ไม่มีในกฎหมาย ดังนั้น จะทำอะไรก็ได้ กฎหมายยังตามไม่ทัน
อยากได้อะไร ต้องการแบบไหน ไม่ต้องลงมือทำเอง
กระตุกโซ่กริ๊กเดียว….
“นักการเมือง” ในคอก กรูเกรียวแย่งกันคาบมาให้!
ตำแหน่ง “ผู้ช่วยนักการเมือง” ที่เรียก “ผู้ช่วยหาเสียง”
จึงเป็นตำแหน่งสถาปนาใหม่
ชนิดที่ “กฎหมาย” แต่ละฉบับ ดูสะเหร่อ ตามไม่ทันมนุษย์พันธุ์ “โจรเจ้าเล่ห์” ไปเลย
ผมหายไป ๓-๔ วัน ไม่ได้ไปเป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” ในศึกเลือกตั้ง “นายกฯอบจ” ให้ใครหรอก
มันเหนื่อยนัก ก็เลยหลบไปนั่งหลังขด-หลังแข็งกับการเอาเงินโกงที่สะสมไว้ออกมากอง แล้วเรียกลูก-เรียกเมียมาช่วยกันนับ
ตั้งใจจะเขียนพินัยกรรมไว้ว่า หลังตาย จะเผาตอนไหน “ดอกไม้จันทน์” ไม่ต้อง
ให้เอาแบงก์พันทำแทนช่อ “ดอกไม่จันทน์” แจกแขกเหรื่อที่มาร่วมประชุมเพลิงและแช่งชัก
นั่งเรือบินฟรี รถไฟฟรี ไปเหนือ-ไปอีสาน ใช้ตำแหน่ง “ผู้ช่วยหาเสียง” ตระเวณ “ตกเบ็ด” คะแนนนิยมจากคนตาบอดให้พรรค-ให้รัฐบาล
ใช้ “งบหลวง” ตะบี้-ตะบันตั้งโครงการ “ผลาญ” มอมเมาชาวบ้านผ่านเงินแจก ทำยังกะไทยเป็น “รัฐสวัสดิการ”
เลือกตั้ง หวังได้คะแนนนิยม “เลือกพวกเราเข้าไปโกง-ไปกินมาแบ่งปัน” เอาให้มัน “สิ้นชาติ” กันไปเลย!
ไป “เหนือสุด-อีสานสุด” ….ได้
แต่ “ใต้” นั่งรถไฟครอบงำ-สั่งการ “หมาในคอก” ไกลสุด ไปได้แค่ “หัวหิน”
เลยจากนั้น ไม่ (กล้า) ไป ทั้งที่แฟนๆ ที่ “ตากใบ” เขาล้างตีนรอต้อนรับ ก็ยังไม่เห็นมาที!?
ตอนผมไม่อยู่คุยกะท่าน เย็นๆ พอมีเวลาดูโทรทัศน์ เห็นข่าวมนุษย์ “พันธุ์หัวขวด” เสนอร่างพ.ร.บ. “จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม”
เห็นหน้าก็จำได้ ไอ้นี่แหละ….
ที่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ต้องพัง เพราะ “พันธุ์หัวขวด” ตนนี้ มันดัน “นิรโทษกรรมสุดซอย” แล้วลักหลับกันในสภาตอนตี ๔
ผีจับยัดเข้าสภามาอีกแล้ว …..
การเสนอกฎหมายให้กองทัพอยู่ “ใต้อำนาจครม.” ก็ดี
ให้นายกฯ เป็น “ประธานสภากลาโหม” ก็ดี
ให้การแต่งตั้งนายพลต้องอยู่ภายใต้เห็นชอบครม.ก็ดี
ให้นายกฯ มีอำนาจสั่งทหารที่ทำปฎิวัติ-รัฐประหารหยุดปฎิบัติหน้าชั่วคราว ก็ดี
ผมฟังข่าวแล้วขำ หัวเราะคนเดียวฉี่แทบราด หัวคิดแหลมเปี๊ยบปานเขาควายนี้ มีได้เฉพาะมนุษย์ “พันธุ์หัวขวด” นี้เท่านั้น!
โธ่เอ๊ยยย…ไอ้หัวขวด
ก่อนจะเสนออะไร เปิดรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน และพ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๑ ดูก่อนไป๊
ใช่ว่า เป็นสส.พรรครัฐบาล อยากได้แบบไหน ก็เสนอร่างกฎหมายเข้าสภาได้ตามใจชอบแบบนั้น
คิดได้ไง การให้ “การทหาร-การทัพ” ต้องมาอยู่ใต้อำนาจนักการเมือง แต่งตั้งนายทหารก็ต้องอยู่ภายใต้ความเห็นชอบครม.!?
ต้องขอชม ต่อให้สกัดสมองควายทั้งฝูงมาผลิตเป็นเซรั่มชะโลมหัว ก็ยังไม่ทำให้สมองปรู๊ดปร๊าด-ฉลาดโง่ ได้ขนาดนี้
ยิ่งที่ว่า นายทหารคนไหนทำปฎิวัติ-รัฐประหาร นายกสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ได้นั้น
โอ๊ย….(กู)ขำจนปวดท้องหนัก!
จะต้องไปออกกฎหมายให้เขามันงอกบนหัวสส.ไปเพื่ออะไร ในเมื่อการทำปฎิวัติ-รัฐประหาร มันผิดกฎหมายอยู่ในตัวมันแล้ว
โทษถึงขั้นประหาร จะเพ้อเจ้อเรื่องให้นายกฯ สั่งหยุดปฎิบติหน้าที่บ้าบออะไร
หลักการในเรื่องนี้ มันง่ายๆ ตายตัว ไม่ต้องไปโชว์งั่ง
ทำสำเร็จ เป็นองค์ “รัฎฐาธิปัตย์”
อำนาจ ๓ สถาบันหลักอยู่ในมือ ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง กฎหมายที่ว่านั้น กลายเป็นกระดาษเช็ดตูดโดยพลัน!
อย่าง คณะราษฎร์-นายปรีดี, คณะจอมพลสฤษดิ์-ถนอม-ประภาส หรืออย่างบิ๊กบัง กระทั่งคณะรสช.-พลเอกประยุทธ์
เขาทำสำเร็จ เป็นผู้ชนะ จึงเป็นองค์รัฎฐาธิปัตย์
ตอนนั้น กฎหมายฉบับ “หัวขวด” มันก็คือ “หัวขวด” ดีๆ นั่นเอง!
แต่ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ คือ “ปฎิวัติ-รัฐประหาร” แล้วแพ้
นั่น เขาเป็น “กบฎ”
มีกฎหมายที่จะเอาโทษเต็มกบาลถึง “ขั้นประหาร” รออยู่แล้ว ไม่ต้องพึ่งบริหารกฎหมาย “หัวขวด” นี่หรอก!
เห็นโชว์โง่ออกไป คนด่าขรมทั้งบ้าน-ทั้งเมือง มิใช่หรือ
แม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ “พรรคร่วมรัฐบาล” ด้วยกันแท้ๆ
ยังออกมาต้าน “กูไม่เอากะมึง” กฎหมาย “หัวขวด” พรรค์นี้!
เมื่อวาน เลยเห็นข่าว “หัวขวด-แก้ขวย” อ้างร่างกฎหมายที่เสนอไป พบจุดบกพร่อง ๒๔ จุดที่ต้องแก้ไข จึงขอถอนออกก่อน แล้วจะเสนอกลับไปใหม่
ถ้าสังเกต จะเห็นคน “ร้อนตัว” จนต้อง “ออกตัว” กันน่าตลก ตั้งแต่พ่อนายกฯ ตัวนายกฯ ทาสพ่อ-ทาสลูกนายกฯ
ว่า “ไม่รู้เรื่องด้วย” เป็นการเสนอร่างฯ ของนายหัวขวดคนเดียว
พรรคไม่เกี่ยว พ่อนายกฯ ไม่เกี่ยว ตัวนายกฯ ไม่เกี่ยว กระทั่งรมว.กห.ก็ไม่เกี่ยว!?
ทำให้นึกถึงภาษิตที่อ่านพบบนผนังห้องส้วมสาธารณะว่า
“คนโกงที่ไม่โป้ปด” ย่อมไม่มีในโลก ฉันใด
“คนโป้ปดที่ไม่โกง” ก็ย่อมไม่มีในโลก ฉันนั้น
คือ เมื่อวาน ผมฟัง “นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องถอนร่างพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ตอนนึ่งว่า
“ผมไม่ได้เขียนร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วยตัวเอง เห็นว่าเป็นกฎหมายที่ควรเสนอได้ จึงมาสอบถามว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ใครเป็นผู้จัดทำขึ้น
ได้คำตอบว่า “กระทรวงกลาโหม” เป็นผู้จัดทำ ในสมัยของ “นายสุทิน คลังแสง” เป็นรัฐมนตรีกลาโหม
เมื่อพ้นตำแหน่งไป….
ก็ได้ “ส่งเรื่องกฎหมายฉบับนี้มายังพรรคเพื่อไทย”
ทาง “คณะกรรมการกฎหมายของพรรค” จึงได้ดำเนินการต่อมีการเติมพริก เติมเกลือ เติมมะนาวบ้าง เพื่อให้เกิดรสชาติ
และอาจจะมีความผิดเพี้ยนจากร่างกระทรวงกลาโหมไปบ้างเล็กน้อย”
สรุปประเด็น ร่างกฎหมายเอากองทัพมาอยู่ใต้อำนาจ ครม.ไม่ใช่ “การคิด-การทำ” ของนายประยุทธ์โดยตรง
หากแต่ เป็นร่างกฎหมายอยู่ในมือพรรคเพื่อไทยแล้ว ผ่านการพิจารณาตัด-ต่อ-แต่ง-เติม
คือ “เติมพริก เติมเกลือ เติมมะนาว” โดย “คณะกรรมการกฎหมายของพรรคเพื่อไทย”
มิใช่โดย “นายประยุทธ์” ที่ไม่ผ่านคณะกรรมการพรรคตามที่โบ้ยกันแต่อย่างใด
เมื่อสส.ประยุทธ์สารภาพว่า…
ร่างที่เขาเสนอนั้น “ผ่านคณะกรรมการกฎหมาย” ของพรรคแล้ว
ทีนี้ ในวันเดียวกัน มาฟัง “นายทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีอำนาจนอกพรรคเพื่อไทยพูดถึงเรื่องนี้บ้าง
“……เป็นความคิดริเริ่มของบางคน โดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง แต่ถ้าผ่านแล้ว ต้องรู้ว่าอะไรควร-ไม่ควร
แต่การที่มีคนบอกว่า “นายใหญ่” สั่งมา ผมเองไม่รู้เรื่อง ได้ยินยังตกใจ
จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย แก้แค่ระเบียบก็พอจะทำงานให้คล่องตัวมากขึ้น”
อีกตอน ที่นักข่าวถาม “กฎหมายนี้จะป้องกันรัฐประหารได้หรือไม่?”
ทักษิณตอบว่า….
“มันไม่เกี่ยวเลย ผมเองยังไม่เห็นเนื้อเลยด้วยซ้ำ เขาไปยกร่างแล้วเขาก็ออกมาพูด โดยพรรคยังไม่รู้ มันต้องเข้าสู่กระบวนการของพรรคก่อน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ตกใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้ากระบวนการของพรรคเพื่อไทย”
ท่านเห็นอะไรมั้ย?
-สส.ประยุทธ์สารภาพ “กฎหมายฉบับนี้ถูกส่งมายังพรรคเพื่อไทยทาง “คณะกรรมการกฎหมายของพรรค” จึงได้ดำเนินการต่อมีการเติมพริก เติมเกลือ เติมมะนาวบ้าง เพื่อให้เกิดรสชาติ อาจมีความผิดเพี้ยนจากร่างกระทรวงกลาโหมไปบ้างเล็กน้อย”
แต่ผู้ “เหนือนายกฯ” กลับบอกว่า
-ผมเองยังไม่เห็นเนื้อเลยด้วยซ้ำ เขาไปยกร่างแล้วเขาก็ออกมาพูด โดยพรรคยังไม่รู้ มันต้องเข้าสู่กระบวนการของพรรคก่อน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ตกใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้ากระบวนการของพรรคเพื่อไทย”
สรุป…ต้องมี “คนใด-คนหนึ่ง” โป้ปด ในเรื่องนี้!
แต่ที่อยากชี้ให้เห็น คำพูดทักษิณทั้งหมด ฟังแล้ว มีใครมั้ย…ที่ไม่เกิดความรู้สึกว่า
ทักษิณ คือนายกฯ รัฐบาลเพื่อไทย และคือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
กกต.ท่านมีความเห็นว่าทักษิณ “ครอบงำ-สั่งการพรรคเพื่อไทย” เหมือนผมมั้ย?
ที่คุยวันนี้ แค่กระพี้ พรุ่งนี้ ผมจะถากให้ถึงแก่น ว่า
ร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นร่างประสานแผน “แยกกันเดิน-ร่วมกันโหวต” เป้าหมาย
“ยึดประเทศ-เปลี่ยนสถานะ”….
เป็น “ไทย-ทักษิณาธิปไตย” เบ็ดเสร็จ ก่อนปี ๒๕๗๐
“ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ” น่ะ
ทักษิณ “มองข้าม” แต่แรกแล้ว ที่อยู่ตอนนี้ แค่อาศัย “ใช้ข้าม” ถนน ไปขึ้น “ลิฟต์ลอยฟ้า” ชั่วขณะเท่านั้น!
เปลว สีเงิน
๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๗