ศปช. ชี้พายุ “จ่ามี” ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่อาจมีลมแรงและเกิดฝนตกบางแห่ง ส่วนพายุ “กองเร็ย” อยู่ห่างจากประเทศไทย ไม่มีผลกระทบในช่วงนี้

28 ตุลาคม 2567 เวลา 11.30 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์พายุโซนร้อน “จ่ามี (TRAMI)” มีศูนย์กลางใกล้ชายฝั่งทางด้านตอนกลางของประเทศเวียดนาม กำลังเคลื่อนตัววกกลับไปในทะเลจีนใต้ และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ พายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย เนื่องจากยังมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมทางด้านหน้าของพายุอาจจะส่งผลกระทบทำให้ประเทศไทยมีฝนบางแห่งกับมีลมแรง โดยเฉพาะทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน (จ.สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ) ตามแนวขอบของพายุ

ส่วนภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ตราด จันทบุรี สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเล็กน้อยจากอิทธิพลของลมที่ตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม และภาคใต้ยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักโดยเฉพาะด้านฝั่งอันดามัน ในส่วนของพายุโซนร้อนกำลัง “กองเร็ย” ที่เคลื่อนตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ยังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ซึ่งพายุนี้ยังอยู่ห่างจากประเทศไทย ทำให้ยังไม่มีผลกระทบกับประเทศไทยในระยะนี้ ทั้งนี้ อากาศบริเวณประเทศไทยจะเริ่มเย็นลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.67 เป็นต้นไป

ด้านกรมทรัพยากรธรณี เผยข้อมูลพื้นที่ที่ต้องติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในช่วง 28 – 30 ต.ค. 2567 ได้แก่ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี ตราด ภาคใต้ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล พัทลุง และสงขลา

“วันนี้ ณ ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทางจังหวัดเชียงรายรับมอบพื้นที่คืนจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่มส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. เป็นประธานร่วมในพิธีส่งมอบพื้นที่ที่ได้รับการฟื้นฟูเยียวยาจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายจะดำเนินภารกิจฟื้นฟูพื้นที่ที่ตกหล่นต่อไป” นายจิรายุ กล่าว