สันต์ สะตอแมน
ไม่พูดก็ไม่เห็นมีใครว่า..
แต่ที่คุณสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกกับนักข่าวว่า การเรียกประชุม สส.ประจำสัปดาห์ ไม่ได้มีการหารือเรื่องใดเป็นพิเศษ เป็นการประชุมวาระปกติ
รวมไปถึงไม่ได้มีการหารือถึงกรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ถูกออกหมายจับหลังไม่ได้ปรากฏตัวตามหมายเรียก คดีตากใบ นั้น
ทำให้มองเป็นอื่นไม่ได้..เนี่ยพรรคเพื่อไทยไม่รู้ร้อนหนาวหรือคิดจะรับผิดชอบกับการคัดเลือกนายพลท่านนี้มาเป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์เลยกระนั้นหรือ?
ยิ่งฟังคุณ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส. พรรคยิ่งแล้วใหญ่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า.. “เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องของศาลจะออกหมายเรียก หมายจับ
โดยขณะนี้ไม่ทราบว่า พล.อ.พิศาลไปอยู่ที่ไหน อีกทั้ง สส.ไม่มีอำนาจติดตามบุคคลใดได้ และไม่ใช่หน้าที่”
และเมื่อนักข่าวถามเรื่องดังกล่าวจะกระทบต่อคะแนนเสียงหรือภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ คุณวิสุทธิ์ตอบ..
“ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่เรื่องนโยบายพรรค ใครคนใดคนหนึ่งทำผิดไปพรรคไม่ได้รับผิดชอบ ก็แล้วแต่จะคิดกันไป”
โอ้ววแม่เจ้าเว้ย..ฟังท่านผู้ทรงเกียรติพูดอย่างนี้แล้ว ก็อยากให้สงครามโลกเกิดเสียวันนี้-พรุ่งนี้ เพื่อทุกอย่างจะได้จบๆ กันไปเสียที..เวรกรรมจริงๆ ประเทศกู!
ก็..บอกแล้ว ไม่พูดไม่มีใครเค้าว่า เพราะผู้คนเขาก็รู้อยู่แล้วล่ะว่า พล.อ.พิศาลน่ะ ไม่ยอมเข้ามอบตัวแน่ และป่านนี้ก็ไม่รู้หนีไปอยู่ไหนต่อไหนแล้ว
ประชาชนไม่ได้ติดตาม-สนใจในขณะที่ปากท้องอดอยากโหยหิว และกำลังลอยคอ รออาหารและความช่วยเหลืออยู่กลางน้ำ (ท่วม) หรอก!
อีกอย่างเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วัน (25 ต.ค.) คดีก็หมดอายุความแล้ว ไม่ต้องถึงขนาดพลเอก ต่อให้ตาสี-ยายมา เด็กดมกาว ก็คิดได้-คิดเป็น..เรื่องอะไรกูจะมอบตัว แบร่!
ฉะนั้น ไม่ต้องพูด หรือแสดงความเห็นให้คนเขาหมั่นไส้กับท่าทียะโสแบบยักไหล่ไม่แคร์-ไม่รับผิดชอบ เอาปากไว้คอยตอบโต้คุณจตุพร พรหมพันธุ์ จะดีกว่าไหม?
พูดได้ไง (วะ).. “ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่เรื่องนโยบายพรรค ใครคนใดคนหนึ่งทำผิดไปพรรคไม่ได้รับผิดชอบ..”
ถามหน่อยเถอะคุณวิสุทธิ์..พล.อ.พิศาลได้เป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์ด้วยตัวเขาเองหรือ? พรรคไม่ได้มีกระบวนการคัดสรรบุคคลเข้ามาเป็น สส.เลยหรือ?
ถ้ามี..กรรมการคัดสรรไม่รู้-ไม่เห็นรึว่า พล.อ.พิศาลมีคดีความติดตัวอยู่ หรือมีผู้อยู่เหนือกรรมการเป็นผู้บงการ-สั่งการให้ต้องเอานายพลท่านนี้มาเป็น สส.
ใช่..เป็นเรื่องเฉพาะตัว แล้วกรณีคุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ไม่เป็นเรื่องเฉพาะตัวหรือ?
แล้วทำไมตอนนั้นถึงเรียกให้ปลดคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคกันล่ะ? หรืออีกหลายๆ กรณีของ สส.อีกหลายๆ พรรค ที่ทำเรื่องเลวระยำเฉพาะตัว..
แต่ก็เห็นถามหาความรับผิดชอบจากหัวหน้า-กรรมการบริหารพรรคกันให้อื้ออึง ซึ่งคนในพรรคเพื่อไทยก็เคยถามหาความรับผิดชอบเหล่านี้ด้วย!
คุณวิสุทธิ์อย่าทำให้คุณภาพ-คุณธรรม-จริยธรรมของพรรคการเมือง-นักการเมืองตกต่ำไปกว่านี้เลย ที่เห็น-เป็นอยู่ขณะนี้ก็นับว่าเสื่อมทรุดจนใกล้ถึงที่สุดแล้ว
ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ทั้งการกระทำและคำพูด จึงน่าจะเป็นหนทางที่จะช่วยยับยั้ง หรือฟื้นฟูได้ แต่ดูเหมือนต่างไม่ได้แยแส ไม่แคร์ความรู้สึกประชาชนกันเลย
กรณี.. “เนวิน-ทักษิณ” จูบปาก-กินข้าวกันที่จันทร์ส่องหล้า ก็ไม่แคร์ กรณี.. “อำมาตย์เต้น” ยอมกลืนเลือดรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ก็ไม่แคร์
ส่วนประชาชนก็ได้แค่นั่งสะท้อนใจ รำพึงรำพัน.. “นักการเมือง ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร” จริงหนอ.. “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” จริงหนอ และ..
“กลับกลอกปลิ้นปล้อนตอแหลหลอกลวง” กันจริงนะ..