เปลว สีเงิน
น้ำท่วม “แม่สาย” ฉับพลัน บอกอะไรเรา?
บอกว่า….
ใครที่บอก ปีนี้ “น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ” อย่าเชื่อ!
นี่เพิ่งต้นกันยา. ก็โปรดรอซักครู่
ปลายกันยา..ตุลา.พฤศจิกา.เดี๋ยวก็รู้เองว่าน้ำจะมาหรือไม่มา และถ้ามา จะไม่มาแบบหน่อมแน้ม ให้เรียกกันว่า “น้องน้ำ” หรอก
ส่วนจะมาแบบไหน ผมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า จะหกคะเมน-ตีลังกา พรวดพราดมาในท่ายาก แบบนั้นเลยเชียวหละ!
“แม่สาย-เชียงราย” เที่ยวนี้ หนักหนา-สาหัสจริงๆ
แต่บ้านเมืองไทยเรา….
คนไทยไม่เคยทิ้งกัน ทั้งยังมีทหารของพระราชาและของประชาชน มีหน่วยราชการเป็นด่านหน้า
ดังนั้น ต่อให้น้ำท่วมถึงเพดานฟ้า
พี่น้องไทย, ทหาร, หน่วยงานราชการ ตะกายลอยคอขึ้นไปช่วยจนได้ ไม่ต้องห่วง
จะช้า-จะเร็ว ก็เรียกว่า ช่วยกัน “สุดใจขาดดิ้น” ในทุกวิถีทางที่จะไปให้ถึงที่-ถึงตัว นี่้แหละคือ “ประเทศไทย-คนไทย”
ผมถึงได้ภูมิใจนักที่ได้เกิดเป็นไทย และหวงแหนนัก “ผืนแผ่นดิน” และเกียรติภูมิไทย ภายใต้ร่มพระบารมีองค์พระมหากษัตริย์ไทย
พวกเราที่ยังไม่ลอยคอเหมือนพี่น้องที่แม่สาย ช่วยกันทางไหนได้ ก็ช่วยกันนะ
มีคนถามมาว่า เชียงรายใครเป็นสส.บ้าง….เออ ผมก็ไม่รู้นะ ไปค้นๆมาให้ มี ๗ คน ดังนี้
๑.นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ พรรคก้าวไกล
๒.นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช พรรคเพื่อไทย
๓.นายฐากูร ยะแสง พรรคก้าวไกล
๔.นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ พรรคเพื่อไทย
๕.นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ พรรคเพื่อไทย
๖.นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม พรรคก้าวไกล
๗.นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน พรรคเพื่อไทย
ขอถามกลับบ้างว่า….
ผมบอกให้แล้ว ก็บอกผมบ้างซิว่า “อยากรู้ไปเพื่ออะไร?”
ฟังข่าวโทรทัศน์เมื่อวาน นักข่าวถาม นายกฯ แพทองธารเกี่ยวกับน้ำท่วมแม่สายว่าไงไม่ทันฟัง มาสะดุดหู ตรงนายกฯตอบนี่แหละ
“ขณะนี้ยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ เนื่องจากยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา”
ก็เอ็นดูท่านนายกฯ นะ ต้องตำหนิทีมงานและ “นายชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีสำนักนายกฯ “มือกฎหมาย” รัฐบาลที่ไม่เตรียมข้อมูลให้นายกฯ
ก็รู้อยู่ ต้องถูกถามเรื่องน้ำท่วมแน่ ก็ควรบรีฟให้นายกฯ รู้ล่วงหน้า กับปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า นายกฯ “สั่งงาน” ไปได้เลย
เรื่องช่วยคนอย่างนี้ นโยบง-นโยบาย ไม่เกี่ยว เหมือนพระ เห็นสีกากำลังจมน้ำหน้าวัด โดดลงไปช่วย อาบัติไม่มี นโยบาย ไม่ได้แปลว่างมงาย เรียนวิชา ไม่ใช่นำไปใช้ทั้งดุ้น เวลาใช้ ต้องรู้จักยักเยื้อง-พลิกแพลงตามสถานการณ์
รัฐมนตรีชูศักดิ์ ก็ช่างกะไร…..
เปิดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๒ วรรคสอง อ่านเองและอ่านให้ท่านนายกฯ ฟังด้วยนะ ข้อความมันมีว่า
“ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นช้าจะกระทบต่อประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน
คณะรัฐมนตรีที่เข้ารับหน้าที่จะดำเนินการไปพลางก่อนเพียงเท่าที่จำเป็นก็ได้”
เห็นมั้ย เพื่อไทยเลี้ยงนักกฎหมายไว้เป็นเข่ง แต่ตอนจะใช้งาน กลับปล่อยให้นายกฯเป็นนกแก้ว-นกขุนทอง มันน่าเบิ๊ดกะโหลกกันมั้ยเนี่ย?
เรื่องอย่างนี้ ผมไม่โทษนายกฯ ต้องโทษทีมงาน อย่าปล่อยให้นายกฯ หลุดบ่อยนักนะ มันไม่ดี
ตัวอย่างของเรื่องที่ยังไม่สามารถสั่งการได้ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ที่เพื่อไทยควรเคร่งครัด กลับทำก็มี
ก็อย่างเรื่องที่รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม “นายภูมิธรรม เวชยชัย” แถลงไปก่อนล่วงหน้า เมื่อวานซืน
นั่นแหละ…ไม่ควร ถามว่าขัดรัฐธรรมนูญมั้ย ในความเห็นผม “ลูกล้ำหน้า” ชัดๆ รีเพลย์ที่นายภูมิธรรมแถลงไปเมื่อ ๑๐ ก.ย.ให้อ่านอีกทีก็ได้
“ภายหลังจากแถลงนโยบายรัฐบาลแล้ว จะมีการเสนอโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ ๑๗ ก.ย.นี้ เพื่อขออนุมัติทันที
เพื่อเร่งจ่ายเงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ ซึ่งในก้อนแรก ๑.๔ แสนล้านบาท
จ่ายเป็นเงินสด โอนเข้าบัญชีโดยตรง ให้ผู้มีสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการก่อนกว่า ๑๔ ล้านคน
ส่วนที่เหลือจะเป็นการจ่ายเงินแก่ผู้ลงทะเบียน และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งจะได้รับเงินแบ่งเป็น ๒ รอบ
รอบแรก หากระบบเสร็จไม่ทัน จะได้รับเงินสดภายในสิ้นปีนี้ก่อน ๕,๐๐๐ บาท
แต่หากเสร็จทัน จะได้เป็น ดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนที่เหลืออีก ๕,๐๐๐ บาท จะจ่ายให้ในปีหน้า โดยตั้งใจจะทำให้เป็นดิจิทัลวอลเล็ต
ได้ฝากให้กรมการค้าภายใน ช่วยรวบรวมร้านค้ามารองรับ เพราะเป้าหมายโครงการ ไม่ได้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องการนำพาประเทศเข้าสู่ระบบดิจิทัล และเตรียมพร้อมให้ประชาชน เรียนรู้เข้าสู่โครงสร้างการเงินใหม่
โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการสำคัญ เป็นเรือธงของรัฐบาล ขอยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าแน่นอน
แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนสบายใจ ซึ่งได้ปรับมาให้เงินสด ๑๐,๐๐๐ บาท ทั้งหมดแก่กลุ่มเปราะบาง ๑๔ ล้านคน
จะใช้ที่ไหนก็ได้ ซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ไม่ต้องมีสินค้าต้องห้าม”
นี่แหละ คือนโยบายรัฐบาลที่ยังไม่ได้แถลงต่อรัฐสภา ทั้งรัฐสภายังไม่อนุมัติ แต่นายภูมิธรรม ซึ่งเป็นรมว.กห.กลับแถลงแทนนายกฯ ล่วงหน้าเป็นตุเป็นตะ
ครั้นไปดูตัวนโยบายที่นายกฯแพทองธารจะแถลงต่อรัฐสภาวันนี้ (๑๒-๑๓ ก.ย.) เรื่องแจกเงิน เป็นนโยบายที่ ๕
มีแค่ใจความสั้นๆ……
ไม่มีรายละเอียดตามที่นายภูมิธรรมแถลงเป็นคำมั่นสัญญาต่อประชาชนแต่อย่างใดเลย แค่มีใจความว่า…
“รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่้นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย
ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก
และผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล..ฯลฯ….
ระวัง…มันจะยุ่ง เพราะกู้เงินมาแจก สร้างหนี้ให้ประเทศ ๔-๕ แสนล้าน ซ้ำบอก เป็นโครงการเรือธงของรัฐบาล แต่ในนโยบาย กลับไม่บอกรายละเอียดอะไรเลย
เรื่องนี้ ไม่ผูกพันเฉพาะตัวนโยบาย ยังผูกพันโดยตรงกับนโยบายตามที่แจ้งไว้เป็นเอกสารกับกกต.เพื่อใช้โฆษณาหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย รวม ๗๐ นโยบายนั้นด้วย โดยเฉพาะการแจกเงินดิจิทัล แหล่งที่มาของเงินและจำนวนตามแจ้งกกต. เป็นดังนี้
………………………
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ใช้วงเงิน 5.6 แสนล้านบาท ที่มาของเงินที่ใช้ดำเนินการ มีดังนี้
-จากการบริหารระบบงบประมาณและระบบภาษี
-ประมาณการรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 จำนวน 2.6 แสนล้านบาท
-ภาษีที่ได้มาจากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย 1 แสนล้านบาท
-การบริหารจัดการงบประมาณ 1.3 แสนล้านบาท
-การบริหารงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 9 หมื่นล้านบาท
70 นโยบาย ใช้เงินงบ 3 ล้านล้าน มีที่มางบประมาณ ความคุ้มค่า-ประโยชน์ ที่จะได้รับจากนโยบาย ดังนี้
-นโยบายเงินสมทบคนสร้างตัว วงเงิน 9 หมื่นล้าน
-นโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ 3 แสนล้านบาท
-รถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย 4 หมื่นล้าน และส่วนอื่นอีก 8 พันล้านต่อปี
-นโยบายเชื่อมโยงรถไฟขนส่งสินค้าจากลาวเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ 4.5 หมื่นล้าน
-เชื่อมโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง ทั่วประเทศ 8 หมื่นล้าน
-นโยบายบริหารจัดการน้ำ ไม่ท่วม ไม่แล้ง 5 แสนล้านบาท
-เงินเดือนคนจบปริญญาตรี 2.5 หมื่นบาท ใช้เงิน 4 หมื่นล้าน
-สนับสนุนส่งเสริมเอสเอ็มอี 3 หมื่นล้าน
-นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เพิ่ม 2 หมื่นล้านบาท
-ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3 พันล้านบาท
ข้อมูลตรงนี้ จาก “ประชาชาติธุรกิจ” ขอขอบคุณด้วย
เนี่ย…. “นายกฯแพทองธาร-เพื่อไทย” ก็ต้องดูด้วยนะ สิ่้งที่ทำวันนี้ กับที่ขอนุญาต กกต.ใช้หาเสียง มันตรงกันมั้ย?
แจกเงินดิจิทัล ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ ถึงตอนนี้ มันกลายพันธุ์จนจำสารรูปไม่ได้แล้ว ซึ่ง “ไม่ตรง” ตามนโยบายที่แจ้งและที่แถลง
๕.๖ แสนล้าน หาเงินไม่ได้ ก็ลดเหลือ ๔.๕ แสนล้าน บอกไม่กู้ ก็ต้องกู้ เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพิ่มเติม
ปี ๖๗ จำนวน ๑.๒๒ แสนล้าน ปี ๖๘ อีก ๑.๕๒ แสนล้าน ซึ่งก็ยังไม่ครบ ๔.๕ แสนล้านที่จะแจก และยังตอบไม่ได้จะไป
เอาจากที่ไหน?
ผมไม่ว่าอะไร แต่บอกได้คำเดียว….
ในฐานะผู้มีประสบการณ์ด้าน “เครียด” มาก่อน ท่านนายกฯ ต้องระวัง
ถ้า “เครียดลงกระเพาะ” ละก็
“เครียดนี้…ปางตาย” เลยเชียวแหละ บอกไม่เชื่อ!
เปลว สีเงิน
๑๒ กันยายน ๒๕๖๗