นายกฯของ “พ่อทักษิณ” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

เอาละซี…..
“รำไม่ดี โทษปี่ โทษกลอง” ซะแล้ว รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง!
เพราะครม.ทำท่าจะ “คลอดยาก”
ถ้าเดือนกันยา.ยังไม่เรียบร้อย เงิน ๑.๒๒ ล้านที่ใช้วิธีการทางบประมาณปี ๖๗ “กู้มาแจก”
และที่บอกว่า….
“จะแจกเป็น “เงินสด” ให้กลุ่มเปราะบางคนละ ๕,๐๐๐ บาท ภายในเดือนกันยา.” นั้น
ก็ “อดแจก”!

เพราะรัฐบาลยังไม่คลอดนั่นแหละ ประจวบ “สิ้นปีงบประมาณ ๖๗” ก็ต้องส่งเงิน ๑.๒๒ แสนล้านนั้น “คืนคลัง”
รัฐบาล “ท้องมาน” ก็ต้องแก้เกม
ไม่รู้จะออกแต้มไหน ก็ “จับชาวบ้านเป็นตัวประกัน”

จึงมี “วาทกรรมประดิษฐ์” เกิดขึ้นตอนนี้ว่า
“ที่ล่าช้า เพราะรัฐธรรมนูญ ทำให้การตั้งรัฐบาลต้อง “ติดหล่มจริยธรรม” ประเทศเดินไปไม่ได้”!

ชาวบ้านจากที่จ้องตาจิกรัฐบาลเพื่อไทย ก็จะหันไปจิกรัฐธรรมนูญ ด่าเข้มงวดจริยธรรมแทน ทำให้พวกเขารอแห้งแล้ว-แห้งอีก!

เข้าตำรา “คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว” เป๊ะ

แทนที่จะสำรวจตัวเองว่า “เอาคนประเภทไหนมาตั้งเป็นรัฐมนตรี ทำให้มีปัญหาด้านจริยธรรม ต้องใช้เวลาตรวจสอบนาน”?

กลับไปโทษ “รัฐธรรมนูญ” ว่า “มาตรฐานจริยธรรม” เป็นอุปสรรค ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าไม่ได้!?

แต่ก็ว่าเพื่อไทยเขาไม่ได้นะ เพราะเขาเคยประกาศหลักการพรรคไว้ว่า “ติดคนย้ายคน-ติดกฎหมายแก้กฎหมาย”

เมื่อการตั้งครม.อุ๊งอิ๊งติดปัญหากฎหมายด้านจริยธรรม จึงสอดคล้องแนวทางที่เขาทำอยู่

คือตั้งธง “แก้รัฐธรรมนูญ” แล้วเขียนใหม่ทั้งฉบับ จากฉบับ “ปราบโกง” เป็นฉบับนักการเมือง “เข้าง่าย-กินง่าย-อยู่ง่าย”

นี่เป็นเรื่องเดียวที่ “เพื่อไทย-ประชาชน” เห็นตรงกัน เดินไปด้วยกัน ขับเน้น “แยกกันอยู่-รวมกันตี” เป็นเบื้องหลังที่จริงจังเด่นชัด

แต่ได้ยิน “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” บอกว่า โผครม. “นิ่งแล้ว” หมายถึงรายชื่อครม.ผ่านขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ วัน-สองวันนี้

เมื่อผ่านทุกขั้นตอนแล้ว นายกฯ อุ๊งอิ๊งจะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ราวๆ กลางกันยา.

ถ้าเป็นไปตามเทอมเวลานี้ งานเร่งด่วนปฐมฤกษ์ของรัฐบาลเพื่อไทย คือเอาเงินกู้ออกแแจก “ล็อตแรก” ได้ทันภายในเดือนกันยา.นี้

แต่ผมดูรายชื่อครม.ตามที่เผยแพร่ ถ้าเป็นของจริงบอกได้เลย ในความเป็น “รัฐบาลผสม”

เป็นการ “ผสมพันธุ์” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไม่เอาพรรคแต่ดึงเอา “กลุ่มในพรรค” มาร่วมเป็นครม.!?

เหมือนลักพาลูกสาวเขามาแต่งงาน โดยไม่สู่ขอกับพ่อแม่เขา แบบนี้ ไม่ต้องดู “มาตรฐานจริยธรรม” หรือรัฐธรรมนูญมาตราไหนหรอก

ตาสี -ตาสา-ยายมี-ตามา ที่ไหนก็รู้ด้วยสำนึกวิญญูชนว่า “มันผิด” ทุกประตู!

ยิ่งดูรายชื่อด้วยแล้ว มีสุภาพสตรีโอปปาติกะท่านหนึ่งได้รับบรรจุชื่อเป็นรัฐมนตรี มาโด่ๆ ในนามพรรค ไม่มีสส.ซักคน ตัวเองก็ไม่ได้เป็น เป็นแค่หัวหน้าพรรค

คำถามจึงเกิดตามมาว่า เพื่อไทยจะอธิบายให้สังคมเข้าใจได้อย่างไร ว่า….

“ด้วยคุณสมบัติและมาตรฐานไหน ที่เอาพรรคตั้งใหม่ “ตัวเดียว-คนเดียว” มาเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการ?”

และพรรคนี้ ก็ไม่ใช่ ๑ ใน ๑๑ พรรค ที่ร่วมแถลงสนับสนุนแพทองธารเป็นนายกฯ!?

ฉะนั้น เมื่อประกาศรายชื่อออกมา นายกฯ อุ๊งอิ๊งเตรียมคำตอบไว้ให้ดี ไม่งั้น พรรคเพื่อไทยนั่นแหละ…
จะเจอข้อหา

นำบุคคล “ไม่มีที่มา-ที่ไป” มาตั้งเป็นรัฐมนตรี เพราะ “ถูกครอบงำ-บงการพรรค” จากคนนอกพรรค!

การยอมตั้ง “นอมินี” ให้เป็นรัฐมนตรีแทนคนบางคนในนามกลุ่มแทนพรรค แบบนี้

บอกได้คำเดียว “นายกฯ อุ๊งอิ๊งเหนื่อยแน่” ที่จะปลิ้นตัวออกจากข้อหา “เพื่อไทยถูกครอบงำ-บงการ”

เพราะมองไปทางไหน ก็หาคำอธิบายที่เป็นเหตุ-เป็นผลไม่ได้เลย!

การเอาตัวแทนมาเป็นรัฐมนตรี เพื่อหนีด่านตรวจสอบจริยธรรม เขาคนนั้นพ้น แต่คนเปิดด่านให้หนีเข้าไป เพื่อไทย อาจเข้าข่าย “สมรู้-ร่วมคิด”

แล้วนายกฯ อุ๊งอิ๊งก็จะ “ติดด่านจริยธรรม” ว่าด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่เป็นที่ประจักษ์

ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๐(๔)(๕)คะมำตกเก้าอี้ตามเศรษฐาไปอีกคนจนได้

การดึง “กลุ่ม-ก๊วน” ในพรรคอื่นมาร่วมรัฐบาล แม้จะใช้นอมินีก็เถอะ นอกจากผิดจรรยา-มรรยาทอย่างแรงแล้ว

ในความเป็น “กลุ่ม-ก๊วน” ไม่มีกฎหมายใดรองรับในความถูกต้องทางนิติกรรมที่จะทำในนาม “พรรคร่วม”

นี่แค่เรื่องเดียวนะ
ถ้าการนำคนจากพรรคที่ไม่มีสส.เลยตั้งเป็นรัฐมนตรีได้ คำถามที่จะตามมา คือ….

พรรคร่วมรัฐบาล ที่มี สส.๑-๒-๓ คน ทำไมจึงไม่ได้รับการจัดสรรในตำแหน่งรัฐมนตรีบ้าง?

และที่สำคัญ ประเด็นสะดุดตา-สะดุดใจ ขณะนี้ เพื่อไทยเอาพรรคที่มีแค่หัวหน้าพรรคโด่ๆ มาตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการ

คนนั้นมีคุณสมบัติวิเศษอะไรล้ำเลิศกว่า “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” แห่งพรรคเสรีรวมไทย ที่จำเป็นต้องตั้ง
โดยไม่ตั้งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์?

ทั้งที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มี สส.๑ คน และทั้งเป็น ๑ ใน ๑๑ พรรค ที่เพื่อไทยเชิญมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลถูกต้อง?

เนี่ย….
มันจะอีรุงตุงนังกันไปหมด ตัวนายกฯ และพรรคเพื่อไทยเจอปัญหาถูกเทวดาครอบงำ แค่นี้ก็ “ลิงแก้แห” พออยู่แล้ว

มาเจอปัญหา “ดึงคนในพรรคเขามาเลี้ยง-เอาเมี่ยงเขามาอม” แบบช่วยกันเลี่ยงข้อกฎหมาย โดยตั้งนอมินีแทน
ก็จะหนีไม่พ้นทั้งด้านจริยธรรม….

และด้านยอมให้คนนอกพรรคบงการ-สั่งการ ให้ตั้งคนนั้น-คนนี้เป็นรัฐมนตรี อันสาธารณชนเห็นได้เป็นที่ประจักษ์เข้าอีก!

หนีเสือปะจระเข้ ยังพอจับจระเข้แหกปากได้ แต่หนีด่านจริยธรรม กลับเจอทั้งด่านจริยธรรม ด่านรัฐธรรมนูญ และด่านพรป.พรรคการเมือง

สงสารนายกฯ อุ๊งอิ๊งจริงๆ นะ มองทางข้างหน้า ไม่เพียงตัวเอง คุณพ่อนอกจากเจอด่านหิน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” แล้ว

เมื่อวาน ยังมีมาอีก ๒ ด่าน พัลวันมาจากการแฉของวีรบุรุษนาแกนั่นแหละ

ด่านแรก “นายภัทรพงศ์ ศุภักษร” หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” มายื่นหนังสือถึง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ให้ตรวจสอบกรณี “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เปิดข้อมูลและแชตไลน์ ยืนยันการเข้าพบทักษิณ ที่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนอนพักรักษาตัวด้วยป่วยปางตาย

“ทนายอั๋น” ว่า เรื่องนี้ปล่อยผ่านไม่ได้ กระทบและสร้างความเสียหายกระบวนการยุติธรรม มาตรฐานกระบวนการยุติธรรม อาจแปดเปื้อน

กระทรวงยุติธรรมต้องสั่งตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ให้ปรากฏ ว่าที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พูดนั้น เป็นความจริงหรือไม่

ถ้าจริง ให้ “รมว.ยุติธรรม” เอาผิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ถ้าพิสูจน์ทราบแล้วเป็นเท็จ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ต้องรับโทษและถูกดำเนินคดี

ถูก “กระชับพื้นที่” แค่นี้ก็ร้อนตูด-ร้อนก้นพออยู่แล้ว เจอ “นายวัชระ เพชรทอง” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์
ไปยื่นหนังสือถึง “นายสหการณ์ เพ็ชรนริทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์เข้าอีก

“มีความประสงค์สำเนาคำสั่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ /เวรตรวจ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ที่มีอำนาจตรวจราชการเขตเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่เข้าเวรและตรวจเวรควบคุมดูแล นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น ๑๔”

โดยอาศัยอำนาจตาม “พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐” นายวัชระขอทราบผลภายใน ๗ วัน

เมื่ออาศัยอำนาจตามกฎหมาย “นายสหการณ์” อธิบดีราชทัณฑ์ คงต้องเช็ดแว่น คิดหนัก ว่าจะหาทางออกยังไง!

เฮ้อ….
การเป็น “ลูกพ่อทักษิณ” เป็นนายกฯ ง่ายกว่าซด “ลอดช่อง”

แต่เป็นแล้ว ที่จะไม่ต้องเป็นเหมือน “อาปู”
ยากกว่ามุด “ช่องหมาลอด” เนอะ!

เปลว สีเงิน
๓ กันยายน ๒๕๖๗

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ

 

Written By
More from plew
ปีเก่า”ขึ้นสนิม”จุ๋มจิ๋ม”ปีใหม่”
๓๑ ธันวาคม……….. เราทุกคน”ผ่านไปอีกปี” ต้นทุนชีวิตที่มีกันคนละ ๓ หมื่นวัน”โดยเฉลี่ย”ใครเหลืออีกเท่าไหร่ ก็บวก,ลบ,คูณ,หาร กันเอาเอง สิ่งเดียวที่อยากบอก มีสติ มีเมตตา เห็นอก-เห็นใจซึ่งกันและกัน...
Read More
0 replies on “นายกฯของ “พ่อทักษิณ” #เปลวสีเงิน”