27 สิงหาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จ.นนทบุรี เนื่องในโอกาสวันสถาปนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง อาหาร ศรัทธา พัฒนาครอบครัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า
วันนี้ประเทศไทยเราเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ที่มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG หรือ Sustainable Development Goals ซึ่งเป้าหมายข้อที่ 2 ของ SDG ก็คือ การยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน กับประเทศไทย เป้าหมายเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไหนแต่ไรมา เรารู้อยู่แล้ว ว่าไทยคืออู่ข้าวอู่น้ำ เป็นแหล่งผลิตอาหารที่ทั่วโลกรู้จัก
ผมเป็นรัฐมนตรี เคยอยู่กระทรวงเศรษฐกิจ บางประเทศ ชอบมาขู่เรา ว่าถ้าไม่ทำอย่างนั้น ถ้าไม่ปฏิบัติอย่างนี้ จะตัดโควต้าการนำเข้าวัตถุดิบอาหาร ก็ได้บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเรารู้ว่า สิ่งที่เขาขู่เป็นที่ต้องการทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เรารู้แล้วว่า เรามีความเข้มแข็งมั่นคงในเรื่องนี้ ท่านไม่ซื้อเรา เราทานเองได้ หรือไม่ก็ขายประเทศอื่น
เรารู้ว่าเรามีจุดแข็งเรื่องอาหาร แต่เราต้องไม่หยุดนิ่ง ก้าวต่อไปของเราคือ การทำให้อาหารไทย มีมูลค่าเพิ่มไปอีก อาหารที่ผลิตในไทยต้องมากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ต้องเป็นตัวเลือกแรกของคนรักสุขภาพทั้งหลาย เช่น นมฟรีแลคโตส ข้าวไม่ขัดสี อาหารที่มีพรีไบโอติก เป็นต้น เราต้องมองไปไกลกว่าเรื่องของออร์แกนิก แต่ต้องมองไปถึงเฮลท์ ฟู๊ด ให้สอดรับกับเทรนด์โลก ที่ตลาดคนรักสุขภาพโตขึ้นทุกวัน ไทยปรับอีกนิด เราจะกลายเป็นผู้นำ ผมมั่นใจ
อาหารไทย มีความทรงพลังในตัวเอง อุตสาหกรรมอาหารไทย เข้มแข็งมาก แต่ผมไม่อยากให้ประโยชน์ตกกับผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่พี่น้องประชาชน ก็ต้องได้ด้วย เรามีนโยบาย เข้าไปสนับสนุนชาวบ้าน ให้เขาได้เพิ่มมูลค่าอาหารที่ขาย ซึ่งหลายครั้ง ชาวบ้านนำเราไปแล้ว ถือว่าปรับตัวเก่ง น่าชื่นชม ผมจะบอกว่าผลไม้ไทย ขนมไทย ต่างชาติ ประทับใจมาก สามารถยกระดับขึ้นไปได้อีก ให้เป็น สิ่งล้ำค่า สำหรับนักท่องเที่ยว มาไทย ต้องมาทานขนมไทย
“ผมว่าประเทศไทยเราได้เปรียบ เพราะเรามีความมั่นคงทางอาหารแล้ว ซึ่งนี่คือพื้นฐานการพัฒนา อย่าลืมว่า การกินอิ่ม มันทำให้มีแรงคิด มีกำลังวังชาในการลงมือทำ นี่คือจุดแข็งของเรา แต่จากนี้ ต้องมองไปมากกว่านั้น มองว่า จะขายของเราอย่างไร จะทำอย่างไร ให้เราเป็นครัวของโลก ถ้าพูดถึงวัตถุดิบอาหาร ต้องมองมาที่ประเทศไทยก่อน เราทำได้แล้ว แต่เราต้องทำให้ดีกว่าเดิม”