ยิ่งกว่า “สีดาลุยไฟ” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

ตอนนี้ ค่อย “สมหน้า-สมตา” หน่อย!
หลังจากไทยเรา “ล้าหลัง” กว่าเขมร ด้านการสืบต่อ “อำนาจตระกูล” มาเป็นเวลา ๑ ปี เต็ม
เพราะเมื่อ ๗ สิงหา.๖๖ คือ “ปีที่แล้ว”
“สมเด็จฮุนเซ็น” ส่งลูกชาย “นายพลฮุนมาเน็ต” ขึ้นสืบต่ออำนาจ “ตระกูลฮุน” ในตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ไปก่อนแล้ว

แต่ของไทยเรา
“นายทักษิณ” ส่งลูกสาว “นางสาวแพทองธาร” ขึ้นสืบต่ออำนาจ “ตระกูลชิน” สำเร็จ เมื่อ ๑๖ สิงหา.๖๗ นี่เอง!

เช้าวาน (๑๘ ส.ค.) เพิ่งประกอบพิธีรับ “พระบรมราชโองการ” โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำรงตำแหน่ง ไปเรียบร้อยแล้ว ที่อาคาร “วอยซ์ ทีวี”
โดยมีคุณพ่อทักษิณและคุณแม่พจมาน “น้ำตาเปื้อนยิ้ม” ร่วมแสดงความยินดี

นี่แหละที่เขาว่า แข่งเรือแข่งพาย-แข่งได้, แข่งบุญแข่งวาสนา-แข่งกันไม่ได้ ของแทร่ ก็ขอแสดงความยินดีด้วย

พูดถึง “โชคหลายชั้น” ใครไม่เคยเห็น ก็เห็นให้เป็นบุญตาไว้ซะ

ลูกสาวได้เป็นนายกฯ ปุ๊บ
รุ่งขึ้น “ราชกิจจานุเบกษา”ประกาศรายชื่อนักโทษ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ที่ ๒๘ กรกฏาคม
มีชื่อ “พ่อทักษิณ” รวมอยู่ด้วย

ได้รับ “ใบบริสุทธิ์” ทันที โดยไม่ต้องรอครบกำหนดโทษในวันที่ ๓๑ สิงหา.

น่าอิจฉา เนอะ!
ไม่รู้ว่าทำบุญมาด้วยอะไร คงไม่ใช่ปล่อยปลาหมอคางส้มกระมัง กระซิบบ้างก็ดี จะได้ทำตามมั่ง?

อ้อ…แต่วันนี้ (๑๙ สิงหา.) คุณพ่อทักษิณ อย่าลืมไปศาลอาญานะ พ้นโทษคุกแล้ว แต่ยังมี “ฎีกาคุก” รออยู่อีกใบ
ในคดีมาตรา ๑๑๒ ที่ท่านตกเป็นจำเลย กรณีไปพูดที่เกาหลีใต้ เมื่อปี ๕๘

ศาลนัด “ตรวจพยานหลักฐาน” ๙ โมงเช้า โจทก์-จำเลยอาจต้องส่งรายชื่อพยานต่อศาลด้วย ว่ามีกันคนละกี่ปาก

เมื่อกำหนดนัดวันสืบลงตัวแล้ว ศาลท่านอาจกำหนดวัน “พิพากษา” เลยก็ได้!

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทั้งนายกฯ อุ๊งอิ๊งและคุณพ่อนายกฯ
เพื่อไม่ให้เข้าตำรา “เรือล่มเมื่อจอด-ตาบอดเมื่อแก่”

ให้คนลอกมาตรา ๒๘ และ ๒๙ พรป.พรรคการเมือง ๖๐ ใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน “เตือนสติ” ตัวเองที่ทำเนียบรัฐบาล ๑ แผ่น

ไปติดไว้ที่บ้าน “จันทร์ส่องหล้า “ให้คุณพ่ออ่านอีก ๑ แผ่น

มาตรา ๒๘-๒๙ นี่แหละ ….
คือ “ยันต์เกราะเพชร” ช่วยให้แคล้วคลาด อยู่ได้ยาวดียิ่งนัก ผ่านการปลุกเสกจากคณะเกจิ “หลวงพ่อมีชัย ฤชุพันธุ์” มาเรียบร้อย

จำและนำไปปฎิบัติ…..
รับประกัน ๑๐๐%พรรคเพื่อไทย “จะไม่ถูกยุบ” และ “แพทองธาร” จะไม่ตกเก้าอี้นายกฯ เร็วกว่ากำหนด

“ท่องจำ” ไว้เลยได้ยิ่งดี ผมจะบอกให้
—————————–

มาตรา ๒๘ ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำ การใด อันทำให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่สมาชิก กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง
ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ

ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิก กระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง
ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
———————————-

ช่วงนี้ เป็นช่วง “หน้าข้าว-หน้าเหล้า” คือการตั้งครม.จะเอาใครเข้า-ใครออก เอาพรรคไหนเข้า-เขี่ยพรรคไหนออก และจะโยกสลับกระทรวงกันอย่างไร?

ในทางนิตินัย อาจพูดได้ ว่าทักษิณเปล่ารู้ เปล่าเห็น เปล่าจุ้น
นายกฯ อุ๊งอิ๊ง กะพรรคร่วม เขาคุยและตกลงกันเอง

แต่ทางพฤตินัย ต่อให้อมควายทั้งฝูงมาพูด ก็ไม่มีใครเชื่อว่า “พ่อนายกฯ” ไม่ได้เป็นคนจัดการเอง “เบ็ดเสร็จ”!?

ฉะนั้น อย่าให้มันประเจิด-ประเจ้อ ถึงขั้น “เป็นหลักฐานประจักษ์” เหมือนตอนค่ำวัน “เศรษฐาตกเก้าอี้” ล่ะ

ที่เปิดบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” แล้วเรียกบรรดาพรรคร่วมเข้าไปอภิวาทและบอกให้ “นายชัยเกษม นิติสิริ” เป็นนายกฯ
เหมือนตดให้หมาดมอยู่คืนเดียว….

รุ่งเช้า พรรคทำเป็นหักหน้าเจ้าของคอก เปลี่ยนตัวจากชัยเกษมไปเป็นลูกสาวเจ้าของคอกแทนซะแล้ว!?

จำที่ “ครูปรีชา” กล่าวกันได้มั้ย… ที่ว่า
“ความจริงก็คือความจริง”!

เรื่องโผครม.นี่เหมือนกัน “ความจริงก็คือความจริง” เรื่องที่จะไม่ให้พ่อนายกฯ “เจ้ากี้-เจ้าการ” แทนลูก
พูดได้ แต่ใครล่ะ…ที่เชื่อ?

อย่าว่าแต่โผครม.เลย เขานินทากันให้แซด ระดับอธิบดี-ปลัดกระทรวง ผู้ว่าฯ ประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจ
ต้องให้ “ผู้มีบารมีนอกพรรค” จิ้มทั้งนั้น!

“นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” ก็คงรู้อยู่ “กับอก-กับใจ” ตัวเองละมั้ง ดังนั้น ควรรู้ต่ออีกซักนิดว่า

๑. นัตถิ โลเก ระโห นามะ “ความลับไม่มีในโลก”

๒.พลเมืองไทย ๗๐ ล้านคน ๑๔๐ ลูกตา จับจ้องในลักษณะ “จับผิด” นายกฯ อุ๊งอิ๊งตลอดเวลา และ

๓.”คนรักเท่าผืนหนัง-คนชังเท่าผืนเสื่อ” ทั้งโหราจารย์ ทั้งนักวิชาการ ทั้งชนชาวโซเชียล ร้อยละ ๗๐-๘๐
เริ่ม “เคาต์ดาวน์” แต่วันที่ ๓๑๙ สส.โหวตให้เป็นนายกฯ คนที่ ๓๑ นั่นแล้ว!

ฉะนั้น ทั้งพ่อ-ทั้งลูก “พลาดเป็นตาย”

ห้ามทำตัวเป็นไก่โต้ง ตีชนะแล้วเหิมเกริม ขึ้นหลังคากระพือปีก โก่งคอขัน
ไม่งั้น “เหยี่ยว” โฉบไปแดกซะก่อน ไม่รู้ด้วยนะ!

รู้ไว้ด้วย “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเป็นนายกฯ ท่ามกลางคำสบประมาทและมีคนจ้องลากลงทุกวินาที

นี่เพราะหวังดีดอกนะ จึงบอก อีกอย่างที่จะบอก คนไม่มีประสบการณ์ “ราชการงานบริหารประเทศ” มาก่อน

ผลัวะผละขึ้นเป็นนายกฯ…….
มันไม่เหมือนเป็นลูกเถ้าแก่ ขึ้นนั่งเก้าอี้ CEO บริษัทเล่นแบบเท่ๆ แต่งานให้พ่อ ให้หลงจู๊ ทำแทน

แบบนั้น ใน “ตำแหน่งนายกฯ” ทำแทนกันไม่ได้ แค่ “เกษียนหนังสือ” ผมเชื่อล้านเปอร์เซนต์ นายกฯ อุ๊งอิ๊งก็กัดปากตัวเองห้อเลือดแล้ว

ยิ่งเจอแฟ้มรอเสนอ-รอพิจารณาสูงท่วมหัว อ่านก็ไม่ทั่ว ถึงทั่วก็ไม่รู้เรื่อง เจอ “ยัดไส้” เข้าเรื่องเดียว มีเขียด มีสังกะสีไปพร้อมๆ กันเลยเชียวนะ…จะบอกให้!

ฉะนั้น ทางที่ดี หาคนรู้งานและไว้ใจได้ ตั้งให้เป็นรองนายกฯ คอยช่วยกรองและสอนงานไว้ซักคน

แต่ “ดร.วิษณุ” อย่าเอามาเชียว
เศรษฐาตกเก้าอี้ขาถลอก ส่วนหนึ่ง ไม่เพราะเชื่อวิษณุหรอกรึ?

“บิ๊กโจ๊ก” ซู่ซ่า เหมือนของขึ้นอยู่พัก เที่ยวท้ารบ ๑๐ ทิศ
ส่วนหนึ่งเพราะเชื่อความเห็นกฤษฎีกาคณะที่วิษณุเป็นประธาน ที่บอกว่า ที่ “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” ให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น…..
“ผิดขั้นตอน” ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่!

ปรากฎว่า ตอนนี้ มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯให้ “บิ๊กโจ๊ก” พ้นจากตำแหน่งรองผบ.ตร.เรียบร้อยไปแล้ว

อย่าว่าแต่ “ใหม่แกะกล่อง” อย่างอุ๊งอิ๊งจะถูกกดดันและกดดันตัวเองจากตำแหน่ง “ผู้นำบริหารสูงสุด” เลย เป็นใครก็เหมือนกัน

ผมจึงขอให้กำลังใจ คาถา ๓ บท ที่ให้ไปวันก่อนท่องไว้ และมาตรา ๒๘-๒๙ ตามพรป.พรรคการเมือง ต้องจำให้ขึ้นใจ

อย่าหวั่นไหวกับคำปรามาส คำนินทา รวมทั้งประวัติตัวเองที่มีคนขุดมารีวิว

เนี่ย…มีคนตัดหนังสือพิมพ์จีนมาโพสต์ บอกว่านสพ.จีนซินหัว วงเล็บซะด้วยนะว่า (ปักกิ่ง) ลงบทวิเคราะห์

ผมอ่านที่เขาแปลเป็นไทยแล้ว ถึงอ่านตัวจีนจากต้นฉบับไม่ออก แต่รู้เลยว่า…
นี่คือ “แปลปลอม” เจตนา “กลั่นแกล้ง-ให้ร้าย”

เพราะจีนเขาไม่ก้าวก่าย-แทรกแซงการเมืองของใคร ยิ่งเป็นการดูถูก เหยียดหยามอย่างที่ “แปลปลอม” มาลงด้วยแล้ว
จีนไม่ทำเด็ดขาด!

ถ้าใครอ่านก็ “อย่าเชื่อ-อย่าเผยแพร่ต่อ” หนังสือพิมพ์จีนฉบับนั้น ไม่ใช่ตัวหนังสือที่ใช้ในปักกิ่ง

ทั้งเนื้อหา ตรงข้ามกับที่มีผู้อ้างว่า “แปลออกมาเป็นไทย” ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

เขารายงานข่าวตามธรรมดา แต่คนที่แปลเป็นไทยบิดเบือนไปในทางร้ายเอง ล่อแหลมต่อความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่าง ๒ ประเทศมาก

ผมไม่ชอบวิธีการเช่นนี้ ไม่ว่าทำกับฝ่ายใดทั้งสิ้น จะรัก-จะชัง การแสดงออก ควรต้องแฟร์ต่อกัน

ข้างหน้า…ต่อจากนี้ “ความโหดร้าย” มันกำลังรออยู่
ฉะนั้น “อย่าโหดร้าย” กับใคร ด้วยวิธีการเถื่อนเลย!

เปลว สีเงิน
๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๗

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
ทั้ง “พระคุณ-พระเดช” มาคู่
น่าเสียดาย………. บ่ายวาน (๒๕ มีค.๖๓) พระสงฆ์เจริญพระปริตร ขจัดปัดเป่าภัยพิบัติ ว่าด้วยโรคระบาด “โควิด-๑๙” ให้บ้านเมือง
Read More
0 replies on “ยิ่งกว่า “สีดาลุยไฟ” #เปลวสีเงิน”