เปลว สีเงิน
นี่…ถ้าผมเป็น “นายกฯ เศรษฐา” ละก็นะ
เมื่อคืน คงนอนไม่หลับ
เพราะไม่รู้จะได้เป็นนายกฯ ต่อ หรือต้องหลุดจากตำแหน่งฐาน “ผิดจริยธรรมร้ายแรง”
กรณีตั้ง “นายพิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ หรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก ๖ เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
เป็นการกระทำไม่ซื่อสัตย์สุจริตและมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐(๔)และ(๕)
เป็นเหตุให้ต้องถูกวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ”นายกฯเศรษฐา”สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๔)ประกอบมาตรา ๑๖๐ (๔) และ (๕) หรือไม่?
วันนี้แหละ (๑๔ ส.ค.๖๗) ตอน ๑๕.๐๐ น. รู้กัน เพราะศาลฯ นัดฟังคำพิจารณาวินิจฉัย ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น ๓ ศาลรัฐธรรมนูญ
ก็เป็นกำลังใจให้ท่านนะ
ผมเห็นใจท่าน ระยะหลังนี่ ดูจะเจอปัญหาเป็นมรสุมถมทับหลายด้าน เหนื่อยกายพอว่า ระท้อจิต-ระทดใจ นี่ซิ มันบั่นทอน ทำให้ท้อแท้ ระทดท้อ ได้ง่าย
ทั้งยังต้องสูญเสียคุณแม่ไปอีก เรียกว่าต้องมรสุมชีวิตเข้าลักษณะ “ทุกข์ซ้ำ-กรรมซัด” อย่างนั้นจริงๆ ขอแสดงความเสียใจไว้ตรงนี้ด้วยละกัน
แต่บางมรสุมก็มีประโยชน์ อย่างน้อยทำให้ท่านมีสติใคร่ครวญทวนทบ สังเกตว่าท่านมีความสุขุมในการแสดงออกและระมัดระวังคำพูดมากขึ้น น่ารักขึ้น ไม่โฉ่งฉ่าง เหมือนตะก่อน
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็รู้ผลแล้ว…….
ไม่สมควรนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันมากนัก อาจเป็นการชักนำไปในทางไม่ถูก-ไม่ควร
ฉะนั้น เราคยกันเรื่องอื่นซักวันเถอะ
พอดีมีเรื่องจะรายงานให้ทราบ ก็เรื่องความคืบหน้าการหล่อชิ้นส่วน “หลวงพ่อทวด” เนื้อบรอนซ์ ที่วัดทรายขาว สงขลานั่นละครับ
ขนาดหน้าตัก ๙ เมตร ด้วยเงินบริจาคของท่านกว่า ๑๗ ล้านบาท ขณะนี้ ขั้นตอนหล่อแต่ละชิ้นส่วนครึ่งองค์ส่วนล่าง ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว!
และวันเสาร์ ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๗ ที่จะถึงนี้ ทางวัดทรายขาว ตำบลทุ่งหวัง อำเภอ เมือง จังหวัดสงขลา
พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ จิตตปาโล เจ้าอาวาส ท่านแจ้งว่า จะประกอบพิธี “ยกหน้าตักหลวงพ่อทวด” ชิ้นแรก ขึ้นสู่อาคารประดิษฐาน เป็นชิ้นปฐมฤกษ์ โดยพิธีเริ่มตั้งแต่ ๙.๐๐ น.เป็นต้นไป จนถึงเวลา ๑๑.๑๕ น.
โดยพิธียกหน้าตักหลวงพ่อทวดชิ้นปฐมฤกษ์ ระเริ่มเวลา ๑๐.๓๙ น.
และมีพิธีเททองหล่อรูปเหมือน “พระเทพญาณโมลี” (ผัน ปสันโน) และหลวงพ่อทวดขนาด ๓๒ นิ้วด้วย ตอน ๑๐.๐๙ น.
ความที่หน้าตักหลวงพ่อทวดกว้างขนาด ๙ เมตรและเมื่อเต็มองค์จะใหญ่มาก เฉพาะส่วนที่ประกอบเป็นฐานนี้ ก็หลายชิ้นส่วนอยู่แล้ว
คงต้องใช้เวลาหลายวัน เพราะต้องตรึงติดให้แน่นกับฐานอาคารประดิษฐานองค์หวงพ่อทวดที่สร้างขึ้นใหม่ พร้อมๆ กับวิหารประดิษฐานสรีระหลวงพ่อผัน ที่อยู่ด้านหลังหลวงพ่อทวด
หลวงพ่อทวดที่เรากำลังสร้างนี้ เป็นเนื้อบรอนซ์ ที่ใหญ่ที่สุด
วางหน้าตักเสร็จแล้ว จะนำอีก ๕-๖ ชิ้นส่วนขึ้นประกอบเป็น “ครึ่งองค์” ส่วนล่าง
เสร็จครึ่งองค์ส่วนล่าง ก็จะประกอบพิธี โดยใช้เครนยักษ์ยก “หลวงพ่อทวด” ส่วนครึ่งบน ซึ่งหลวงพ่อผัน ท่านสร้างค้างไว้กว่า ๒๐ ปีแล้ว ขึ้นสวมกับครึ่งล่าง
เป็น “หลวงพ่อทวด” เต็มองค์ “สมบูรณ์” ทุกประการ!
ตามที่พระอาจารย์พิเชษฐ์บอก พิธียกหลวงพอทวด “เต็มองค์” ประมาณคร่าวๆ ไว้ ราวๆ วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ คือปีหน้า
นี่ผมก็มารายงานให้ทราบ เดี๋ยวจะว่า ได้ ๑๗ ล้านบาทไปแล้วหายต๋อม ไม่รายงานความคืบหน้าให้ทราบ
ความจริง ก็เป็นเรื่องทางวัดจัดการทั้งหมด ผมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่นานๆ ก็ไปดูทีเท่าน้้น
แต่พระอาจารย์พิเชษฐ์และชาวบ้านทุ่งหวังร่วมแรง-ร่วมใจกันดีเหลือเกิน และด้วยบารมีหลวงพ่อทวด ทุกอย่างดูจะราบรื่น
รวมทั้งงานช่างหล่อที่ตากแดด-รมไฟกันจนเป็นเนื้อแดดเดียว โดยไม่มีการทิ้งงาน
ผมได้เชิญ “พลเอกนิพนธ์ ภารัญนิตย์” อดีตรองผบ.ทบ.และ “ท่านบรรพต หงษ์ทอง” อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปเป็นประธานในพิธียกชิ้นส่วนปฐมฤกษ์
ฉะนั้น ก็ขอเชิญทั้งชาวสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งผู้เคารพศรัทธาหลวงพ่อทวด
ถ้าว่างก็ไปร่วมพิธียกตักหลวงพ่อชิ้นปฐมฤกษ์ขึ้นวางบนอาคารประดิษฐานพร้อมกัน
เป็นสัญลักษณ์แห่ง “รากฐานชีวิต” ที่มั่นคง ไม่เจ็บ ไม่จน มั่นคง ยั่งยืนสถาพร ไปยาวนาน เหมือนองค์หลวงพ่อทวดวัดทรายขาวแห่งนี้
ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมศรัทธาผู้คนที่จะมาบูชากราบไหว้หลวงพ่อทวดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย
หลวงพ่อทวด วัดทรายขาว ตำลลทุ่งหวัง ใครมาก็ต้องสมหวัง สมดังนามตำบล!
“ทุ่งหวัง” เป็นสวนผลไม้ ร่มรื่น ชาวบ้านไทยพุทธ-ไทยมุสลิมอยู่กันกลมเกลียว อยู่ติดทะเลสาบสงขลา
มะพร้าวที่ทุ่งหวังนี้ น้ำหอมหวาน ชื่นใจยิ่งนัก
“ทุเรียนทุ่งหวัง” เป็นเอกลักษณ์ ของดี-ของอร่อย แต่หากินยาก
ขนุนแต่ละลูก ต้อง ๓ คนแบก เรียกว่าผลไม้อุดมสมบูรณ์
เพราะเหตุนี้ พระอาจารย์พิเชษฐ์จึงบอกว่า เมื่อสร้างเป็นปริมณฑลลานประดิษฐานหลวงพ่อทวดเสร็จแล้ว
รอบนอกจะจัดพื้นที่ให้ชาวบ้านนำผลไม้และสินค้าท้องถิ่นมาวางจำหน่าย ด้วย เป็น “ตลาดพืชผักผลไม้ทุ่งหวัง”
ผมก็อนุโมทนากับท่าน นานๆ ทีได้เห็นบ้านกับวัดร่วมมือกันแข็งแรงในทุกกิจการ ก็ชื่นใจ สมกับนามตำบลทุ่งหวังจริงๆ
เงินบริจาค ๑๗ ล้านบาท นั้น หล่อหลวงพ่อทวดสำเร็จเป็น “องค์สมบูรณ์” ได้ตามเป้าหมาย
แต่หล่อเป็นองค์สมบูรณ์โดยไม่สร้างอาคารประดิษฐาน ไม่ปรับภูมิทัศน์ ไม่จัดสถานที่รองรับผู้เดินทางมากราบไหว้สักการะให้เป็นสัดส่วนคงไม่ได้
ฉะนั้น พูดภาษาชาวบ้านว่า “งานงอก” ไปอีกเยอะ นั่นหมายถึง ๑๗ ล้านนั้น ไม่พอแน่
แต่ได้คืบแล้วผมไม่เอาศอกหรอกครับ เพียงคุยให้ฟัง ทั้งยังต้องสร้างวิหารประดิษฐานสรีระหลวงพ่อผันอีกหลัง รวมงบแล้วไม่หนี ๓๐-๔๐ ล้านบาท
พระอาจารย์พิเชษฐ์ ท่านว่าค่อยเป็น-ค่อยไปตามเหตุปัจจัย ดีที่คุณปราโมทย์ เตียสุวรรณ์ “PRANDA GROUP”
ท่านมีศรัทธาหล่อ “กริ่งหลวงพ่อทวด” สวยงามไม่มีที่ติ สไตล์ฝีมือช่างแพรนด้า จิวเวลรี่ ถวายให้ทางวัดทรายขาว ประกอบพิธีพุทธาภิเษกแล้ว
มอบให้ผู้ร่วมบุญองค์ละ ๘๙๙ บาท
ก็ยังพอได้เงินส่วนนี้ บวกกับผู้เคารพในองค์หวงพ่อทวดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แถบมาเลย์ อินโด สิงคโปร์ ที่เลื่อมใส ศรัทธาหลวงพ่อผันมาแต่เดิม ร่วมกันบริจาค
เมื่อจิตบริสุทธิ์ จิตนั้นย่อมมีพลัง ปรารถนาใดที่ตั้ง และปรารถนานั้นดี จะเร็ว-จะช้า ย่อมสำเร็จแน่นอน
งานนี้ก็เช่นกัน พระอาจารย์พิเชษฐ์และกรรมการวัด ตั้งอก-ตั้งใจทำกัน เท่าที่ผมเห็น ในความว่า “ค่อยเป็น-ค่อยไป” ที่สุด ย่อมสำเร็จ!
ก็คิดดูละกัน หลวงพ่อทวด หลวงพ่อผันท่านหล่อค้างไว้ครึ่งองค์ ปล่อยตากแดด-ตากฝน มาเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี
กระทั่งหลวงพ่อผันมรณภาพ สรีระสังขารท่านเป็นหินยังบรรจุอยู่ในหีบแก้ว
จนเมื่อกันยา.ปี ๖๖ ประหนึ่งองค์หลวงพ่อทวดบัญชา ให้มีคนทางวัด นำจดหมายพระอาจารย์พิเชษฐ์มาบอกผมว่า
“ขอความอนุเคราะห์เป็นสะพานบุญช่วยในการประชาสัมพันธ์”
โดยไม่มีการรู้จักกันมาก่อน และผมไม่ได้ลงไปพิสูจน์ด้วยตาให้เห็นสภาพจริง เมื่อเขาบอกให้ช่วยสร้างหลวงพ่อทวด ก็รับปากเขาไปทันที
ลืมสนิทในด้าน ถูกหลอกเป็นเครื่องมือให้คนหากินกับวัดไปเลย มานั่งนึกทีหลัง ยังตงิดใจเหมือนกัน เพราะทุกวันนี้ คนหากินกับศรัทธามีเยอะ
พอบอกบุญสร้างหลวงพ่อทวดไปวันเดียว “คุณบัณฑูร ล่ำซำ” ให้เจ้าหน้าที่นำแคชเชียร์เช็คไปมอบให้วัดทรายขาว ๒ ล้านบาท!
จากนั้น คนก็โอนเงินเข้าบัญชีวัดรวมเป็นล้าน จนพระและกรรมการวัด ท่านบอกผมว่า “ช็อก” ไปเลย!
เพราะคิดว่า ได้ซักล้านบาทก็มากแล้ว แต่นี่ไหลมา-เทมา พอข่าวว่าคุณบัณฑูรบริจาคสร้างองค์หลวงพ่อทวด ๒ ล้าน คนยิ่งมั่นใจ
ทีนี้ เงินบริจาคหลั่งไหล จากที่บอกว่า ซัก ๖ ล้าน ก็น่าสร้างให้เต็มองค์ได้ ก็มาเป็น ๑๐ ล้าน ๑๒ ล้าน เรียกว่าเท่าตัว
พระปวดหัวเลย ท่านบอกว่าเงินมากมาย ท่านทำอะไรไม่ถูก ผมก็เลยรียนท่านว่า “งั้น..หยุดรับบริจาคไว้ก่อนละกัน” ท่านก็เห็นชอบตามนั้น
ทั้งหมดนี้ พูดได้คำเดียวว่า เพราะถึงกาลที่ “องค์หลวงพ่อทวด” ท่านเจาะจงมาที่พวกเราทั้งหลายให้ได้ร่วมสร้าง ทุกอย่างจึงสำเร็จดังปาฎิหาริย์
ถ้าไม่เป็นเช่นนี้ ท่านจะตากแดด-ตากฝนอยู่ในสภาพ “ครึ่งองค์” มานานกว่า ๒ ทศวรรษ เพื่ออะไร?
ฉะนั้น ท่านจงปีติ ปราโมทย์ และร่วมอนุโมทนาในกุศลร่วมสร้างหลวงพ่อทวด “รุ่นเต็มองค์” นี้เถิด
อย่าลืมนะครับ ๒๔ สิงหา.เดือนนี้ ขึ้นวางฐานส่วนหน้าตักเป็นปฐมฤกษ์แล้ว ผมจึงกราบเรียนเชิญทุกท่าน ไปได้ ขอให้ไปสร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคงกัน
เอาละมังครับ……..
ขอบารมี “หลวงพ่อทวด” จงมี-จงเป็น รากฐาน “ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์ และคนไทย”
ที่มั่นคง ยั่งยืน ตลอดไป
เปลว สีเงิน
๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๗
