อีแร้ง “พิทักษ์ศพ” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

หนีเที่ยว ๓-๔ วัน…
เป็นการหาความสนุกใส่ตัว “ตุนไว้ก่อน” ตอนต้นเดือน
เพราะ “กลางเดือน-ปลายเดือน”
อาจมีเรื่องไม่สนุกเกิดขึ้นก็ได้ ชีวิตจะได้ไม่ขาดทุน!

พรุ่งนี้ (๗ ส.ค.๖๗) ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ผลออกมาด้านไหน ผมยอมรับได้ทั้งนั้น
ในเมื่อเป็นคำวินิจฉัยของศาล

ไม่ว่าประเทศไหน-ระบบไหนในโลก ถ้าไม่เคารพ-ยึดถือคำตัดสินศาล แล้วจะมีอะไรให้ยึดถือเป็นที่ยุติปัญหานั้นๆ ในสังคมชาติล่ะ?

“คนป่า” ก็มีกฎ-กติกาของคนป่า ร้อยรัดสังคมของเขา

แล้วอย่างไทยเรา เป็นประเทศประชาธิปไตย ปีๆ ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีเป็นร้อย-เป็นสิบ
สังคมก็เงียบสงบ ยอมรับคำวินิจฉัยนั้นๆ ด้วยดีเสมอมา

แต่พอจะตัดสิน-วินิจฉัยคดีก้าวไกลเท่านั้นแหละ บางคน-บางพวก ออกมาแหกปากกู่ร้องก้องตะโกนกันขรม ประชาธิปไตยต้องไม่ยุบพรรค?!

มันเกี่ยวกันตรงไหน (วะ) กูงงกะตรรกะงั่งของพวกนี้เต็มแก่ บอกตรงๆ

มันคนละเรื่อง “ประชาธิปไตย” เป็นระบบปกครอง เหมือน “ปลอกใหญ่” ร้อยรอบสังคมชาติเป็นวงนอก

ในปลอกใหญ่วงนอก
ยังต้องมีปลอกย่อยวงในคือ “กฎหมาย-กฎระเบียบ” ร้อยรัดผ่านแต่ละองค์กร-แต่ละยูนิตสังคมชาติ เป็นกลไกอยู่ภายใต้ปลอกใหญ่ ไม่ให้ซัดส่ายกระจายออกไปจากกรอบ

ไอ้แบบว่า….
อะไรที่ต้องจริตกู เรียกประชาธิปไตย อะไรที่ไม่ต้องจริตกูเรียกเผด็จการ
แบบนี้เขาเรียก “อัตตาธิปไตย” คือ ถือตัวเองเป็นใหญ่

เผด็จการสุดขั้ว ว่าชั่วแล้ว
แต่พวก “ถือตัวเองเป็นใหญ่” มันจัญไรสุดหางยิ่งกว่า!

ที่โลกปั่นป่วน สงครามจะระเบิด-วันนี้วันพรุ่ง ก็เพราะไอ้พวกยกหางตัวเองว่าเป็น “เจ้าโลกประชาธิปไตย” นั่นแหละ ตัวการ

ประชาธิปไตย ระบอบเสรีสิทธิมนุษยชน ทุกคนมีสิทธิ ทำอะไรก็ได้ตามใจกู อย่างในสหรัฐ-ในยุโรปทุกวันนี้ และในไทย ที่กเฬวรากพวกหนึ่งกำลังคลั่งไคล้ตาม นั่นแหละ

ประเทศพวกมันจึงใกล้ล้มละลายทางความเป็น “สังคมมนุษย์” ตามถนนหนทางเกลื่อนกล่นไปด้วย สายพันธุ์ใหม่ ที่เรียกซอมบี้!

พวกเราคนไทยส่วนใหญ่ รู้จักพวกเขาผ่านภาพ-ข่าวที่คัดสรรค์ด้านดีอำพรางไว้ จึงหลงเข้าใจพวกเขา “เจริญสุดขีด”
พากันชื่นชม หลงใหล อยากย้ายประเทศไปอยู่

อยากจะซื้อตั๋วเรือบินแจกให้มันไปเร็วๆ จังเลย แต่ถ้ากลับมาถูกถีบนะ!

แถบยุโรปและสหรัฐฯตอนนี้……..
หลายๆ ประเทศ สภาพสังคมมัน “นรกสุดขั้ว” ชัดๆ!

หัดขัดกะโหลกให้ขึ้นเงาคิดกันบ้าง เห็นมั้ย หลายต่อหลายคน เชิดหน้า สะบัดตูด ทิ้งประเทศ ไปอยู่สหรัฐ-ยุโรป
แล้วเป็นไง…….ก็เอาตัวไม่รอด

เห็นแบกหน้าด้านๆ ซานซมกลับมาซบแผ่นดินไทย ชนิดเอาช้างมาลากให้กลับไป ก็ยังไม่ยอมกลับ!

ถ้าประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ทุกคนทำอะไรก็ได้ดีจริง ตอบสนองสังคมชาติได้จริง ก็จะไม่ดิ้นทุรนกลับกันมา

กระทั่งฝรั่งเอง มาไทยแล้วไม่ยอมกลับ
เพราะอะไร เพราะประชาธิปไตยไทยอนุวัฒน์ มีกรอบ-มีกฎกติกา เป็นรั้วล้อมรักษาแก่นแกน “เอกลักษณ์ชาติ” จึงอยู่กันได้ด้วยศีลและธรรมประจำใจ

หรือเพราะไทย เป็นคนเท่ากัน ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ไอ้นั่นของกู-อีตรงนี้ก็ของกู จะให้ใครก็ได้ พวกต่างชาติจึงเข้ามา แล้วหลงใหล ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย!

ตรงกันข้าม ประชาธิปไตยไร้ขอบเขตอย่างบ้านพวกเขานั่นแหละ ทำให้บ้านเขา กลายเป็น “สวนสัตว์เปิด” สัตว์ซอมบี้เพ่นพ่านคละสัตว์เดรัจฉานครึ่ดเมือง!

อย่างวันก่อน “นายเบน คาร์ดิน” ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ วุฒิสภาสหรัฐอเมริกา
ส่งจดหมายถึงรมว.ต่างประเทศไทย แสดงความกังวลเรื่องก้าวไกลจะถูกยุบพรรค

ตอนหนึ่งในจดหมาย เขียนว่า………
การเลือกตั้งปี 2566 มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มีชาวไทยกว่า 39 ล้านคนเข้าร่วมลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ สะท้อนถึงเจตจำนงและเสียงของชาวไทยกว่า 14 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความชัดเจนดังกล่าว แต่พรรคก้าวไกลก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ยื่นคำร้องเพื่อยุบพรรค

ผมมีความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมายที่ดูเหมือนว่าจะขาดความเป็นธรรมและความโปร่งใส

หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ การตัดสินใจนี้ จะทำให้ผู้ลงคะแนนเสียงหลายล้านคนที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูปประชาธิปไตยต้องเสียสิทธิ

การกระทำเหล่านี้อาจบั่นทอนความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นค่านิยมร่วมที่ได้ยึดโยงความร่วมมือทวิภาคีของเรามานานกว่า 190 ปี

ประเทศทั้งสองมีความสัมพันธ์อันยาวนานและมีค่านิยมร่วมกัน โดยมีแกนหลักคือ
ความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะส่งเสริมสันติภาพและหลักการประชาธิปไตยทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก

ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพเจตจำนงของประชาชนและยึดมั่นในค่านิยมประชาธิปไตย อันเป็นรากฐานของความเป็นพันธมิตรที่ยั่งยืนของเรา…..”

ขอโทษนะ…
คำว่า “เสือก” ภาษาอังกฤษเขาว่าไง ผมไม่รู้ แต่นายคาร์ดิน ก็ประเภทนั้น

คนออกมาเลือกตั้ง ๓๙ ล้าน จากยอด ๕๐ ล้าน เลือกก้าวไกลแค่ ๑๔ ล้าน ใช่…ก้าวไกลได้เสียงมากกว่าทุกพรรค

แต่เสร่อว่ะ คาร์ดิน ที่ว่า….
-ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
-เป็นการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
-สะท้อนถึงเจตจำนงและเสียงชาวไทยกว่า ๑๔ ล้านคน

คนออกมาเลือกตั้งเฉียด ๗๐%,มั้ง ?
ไม่ได้มากชนิดไม่เคยมีมาก่อน และไม่ได้เป็นครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์
และ ๑๔ ล้านคน ถือว่าสะท้อนเจตจำนงคนร่วม ๗๐ ล้านได้ตรงไหน เวอร์ว่ะ..คาร์ดิน!

ถามคำ ทุกวันนี้ สหรัฐฯ เป็นประชาธิปไตยดีกว่าไทยตรงไหน หือ…

๔ ปีก่อน ทรัมป์แพ้ ก็ปลุกระดมคนก่อจลาจลกลางเมือง บุกรัฐสภา ตำรวจยิงชาวบ้านตายในเหตุจลาจลตั้ง ๔ ศพ จนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

นี่น่ะหรือ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ ที่บอกให้ไทยเคารพเจตจำนงประชาชนที่ออกมาเลือกตั้ง?
และสดๆ ร้อนๆ เมื่อ ๑ กรกฏา.นี่เอง….

“ศาลสูงสุดสหรัฐฯ” ด้วยมติ ๖:๓ เสียง ตัดสินให้ทรัมป์ได้สิทธิ “ยกเว้นถูกดำเนินคดี” จากเหตุแพ้แล้วพาล ครั้งเลือกตั้งปี ๒๕๖๓

ตั้งแต่เกิดเป็นประเทศสหรัฐฯ ขึ้นในโลก จนถึงวันนี้ ๒๐๐ กว่าปี และนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าพ่อประชาธิปไตยโลก เที่ยวเรียกร้องให้ประเทศอื่นตัดสินด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส

แต่วันนี้ ศาลสูงตัวเอง กลับประกาศ ว่า…….
“อดีตประธานาธิบดี อาจได้รับการปกป้องจากข้อกล่าวหาทางอาญาไม่ว่าจะเป็นคดีใดก็ตาม”!?!?

นี่น่ะเรอะ ความยุติธรรม โปร่งใส ในกระบวนการกฎหมายของสหรัฐฯ?

ไทย ไม่ใช่ลูกปู ฉะนั้น อย่าทะลึ่งมาทำตัวเป็น “พ่อปู” สอนเดินให้ไทย

ไทยไม่เคยมีการยิงนายกฯ ตาย
แต่สหรัฐฯ กลับมีการยิงประธานาธิบดีตายไม่รู้กี่คนต่อกี่คน

ตกลง ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ใครประชาธิปไตยกว่ากันวะ…คาร์ดิน?

“ปริมาณ” เป็นแค่ “ความต้องการ” ของคนหมู่มากเท่านั้น
ไม่ใช่คำตอบของ “ความถูกต้อง” เสมอไป

อย่างคดีทักษิณ “ซุกหุ้น” บางตุลาการอ้างอย่างคาร์ดินอ้างนี่แหละว่า “เขาได้เสียงมามาก” แล้วตัดสินด้วยความกลัว ซึ่งไม่ถูกต้อง

และเบื้องหลังความกลัว ยังแฝงด้วยประโยชน์สัมพันธ์ กรณีนายคาร์ดินนี่ก็เช่นกัน สหรัฐฯ ก็ดี อีก ๑๘ ชาติยุโรปก็ดี

พวกคุณสมคบกับก้าวไกล “กัดกร่อนบ่อนเซาะ” ชนิดเปิดหน้าเล่น โดยไม่แคร์และไม่ให้เกียรติประเทศไทย-คนไทยเลย

เพราะประเทศพวกคุณมี “เป้าหมาย” แอบแฝง!

พวกคุณแทรกแซงกิจการภายในและล่วงล้ำก้ำเกินสถาบันตุลาการไทยชนิดหยาบคายและหยาบช้ามาก

จนนางดอกส้มในไทยบางนาง…..
นำข้อความในจดหมายขยะไปเรียกร้องตามบ้างเจื้อยแจ้วแถวเกียกกาย ชนิดแยกแยะภาวะ-หน้าที่ตัวเองไม่ได้

ถ้าผมมีมนต์ละก็นะ
จะเสกไปเป็น “ปลาหมอคางส้ม” ให้เขาล่าเอาไปทำปุ๋ยซะให้หมด!

ที่จริง คดีก้าวไกล ก็ดีไปอย่าง…
อย่างน้อยเป็นเหยื่อล่อให้รู้ว่า ที่บินอยู่ในอากาศ ไหนอีแร้ง-ไหนเหยี่ยว

คือ “เหยี่ยว” จะไม่โฉบลงมากินสัตว์ตาย
มีแต่ “อีแร้ง” เท่านั้น ยังไม่ทันตายดี ก็ลงมา “พิทักษ์ศพ” กันแล้ว!

เปลว สีเงิน
๖ สิงหาคม ๒๕๖๗

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
แล้วก็ถึงวันที่ต้องถึง – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน สส.เท่ากับ “ลูกจ้าง” กินเงินเดือนประชาชน ทำงานแค่มานั่งด่ากันสัปดาห์ละ ๒ วัน ข้าวปลาอาหาร น้ำท่า เหล้ายา ปลาปิ้ง...
Read More
0 replies on “อีแร้ง “พิทักษ์ศพ” #เปลวสีเงิน”