1 สิงหาคม 2567) เวลา 09.20 น. ณ บริเวณทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมลชนถึงสถานการณ์การเมืองที่หลายฝ่ายจับตาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดี 40 สว.ยื่นถอดถอนนายกฯ ปม แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ว่า ตนเองได้เซ็นคำแถลงไปแล้วส่งไปตั้งแต่วันอังคารในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถือว่าปิดสำนวนไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนมีความมั่นใจหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ไม่อยากไปก้าวล่วงว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจ แต่ก็มั่นใจว่ากระทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตบริสุทธิ์ใจ
ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีนายกรัฐมนตรีสำรอง นั้น นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่จะพูดกันไป แต่วันนี้ตนเองยังทำงานเต็มที่ แล้วก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ส่วนวันที่ 14 ส.ค.ศาลตัดสินออกมาอย่างไร ก็น้อมรับ และเชื่อว่ากระบวนการทางการเมืองก็มีขั้นตอนของการเมือง แต่วันนี้ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้ให้กำลังใจเป็นอย่างดีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็พูดคุยกันดี แต่ไม่ได้เจอ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหลายวันแล้ว ไม่ได้เจอกันเลย เห็นว่าท่านป่วยก็ขอให้หายดี ส่วนเมื่อคืนได้เจอ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็พูดคุยกันดี
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ยังไม่เคยพูดคุยในเรื่องกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล วันนี้เรามาโฟกัสปัญหาของบ้านเมืองดีกว่าซึ่งวันนี้จะไปดูปัญหาเรื่องน้ำท่วม
ส่วนที่มีสมาชิกพรรคประชารัฐแสดงความเห็นเรื่องนายกรัฐมนตรีสำรองนั้น ทำให้หวั่นไหวหรือไม่ นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่เลย เป็นเรื่องของเขา ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่อย่างที่บอกคำว่าแซะก็มีหลายนัยยะเยอะแยะไปหมด แต่ส่วนตัวโฟกัสในเรื่องเนื้อหาสาระ มากกว่า หากมาแนะนำในเรื่องที่ดี จะเป็นพรรคเดียวกันหรือเป็นฝ่ายค้าน ก็ยินดีรับฟัง แล้วก็รับฟังแก้ปัญหานำไปปฏิบัติ แต่ถ้าเรื่องการแซะที่ไม่มีเหตุไม่มีผลอะไร ตนเองก็ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ทั้งนี้ ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับร้อยเอก ธรรมนัส เพราะเชื่อว่าร้อยเอก ธรรมนัส รู้จักตนเองดีอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่พูดคุยเรื่องเหล่านี้ดีกว่า แต่คุยกันเรื่องปัญหาปลาหมอคางดำ คุยกันเรื่องน้ำที่จะท่วม ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า
“ท่านธรรมนัส รู้ใจผมดี ว่าเรื่องอะไรเป็นเรื่องสำคัญ เรามายืนจุดนี้ เพื่ออะไร ก็เพื่อพี่น้องประชาชน แต่ก็ยืนยันว่าหากเป็นเรื่องที่ดี ก็พร้อมรับฟังและถ้าเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ที่ควรติดต่อกับตัวแทนพรรค ก็จะพูดคุยกันต่อไป” นายกฯ ย้ำ
