“สฤษฏ์พงษ์-สามารถ” เตรียมเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เปลี่ยนจากการกักขังแทนค่าปรับ เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ ชี้ช่วยลดภาระของเรือนจำ และประชาชนวัยแรงงานได้ประโยชน์

“สฤษฏ์พงษ์-สามารถ” เตรียมเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เปลี่ยนจากการกักขังแทนค่าปรับ เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ ชี้ช่วยลดภาระของเรือนจำ และประชาชนวัยแรงงานได้ประโยชน์ วอนกระทรวงยุติธรรม ร่างกฎหมายประกบพร้อมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายสามารถ  เจนชัยจิตรวนิช ที่ปรึกษาคณะ กมธ. ร่วมกันแถลงข่าว เรื่อง การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการลงโทษ โดยเปลี่ยนจากการกักขังแทนค่าปรับ เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ ว่า

ที่ประชุม กมธ. เห็นว่าการบริหารจัดการผู้กระทำความผิดของผู้ต้องหาตามโทษทางอาญาทุกขั้นตอนในกระบวนการยังมีปัญหาและอุปสรรค ซึ่งการลงโทษผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือดำเนินคดีเสร็จแล้วและมีโทษปรับ แต่ผู้ต้องหาไม่มีเงินจ่ายค่าปรับได้ ในทางกฎหมายให้นำตัวไปกักขังแทนค่าปรับนั้น

ซึ่ง กมธ. เห็นว่าการนำบุคคลที่อยู่ในวัยทำงานแต่กระทำผิดไม่ร้ายแรงไปถูกกักขังแทนค่าปรับนั้น ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงสังคม เสียโอกาสด้านแรงงาน และกลายเป็นภาระของเรือนจำที่ต้องใช้งบประมาณ และบุคลากรในการดูแลผู้ต้องหา ดังนั้น หากกฎหมายเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาสามารถบำเพ็ญประโยชน์แทนการจ่ายค่าปรับ ก็จะช่วยลดปัญหาที่ตามมาได้ ลดข้อจำกัดและงบประมาณของกรมราชทัณฑ์ได้

ด้านนายสามารถ  เจนชัยจิตรวนิช ที่ปรึกษาคณะ กมธ. กล่าวว่า ประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการลงโทษ มาตรา 30 ระบุว่า ให้ผู้กระทำผิดสามารถถูกกักขังแทนค่าปรับในอัตราวันละ 500 บาท และห้ามกักขังเกินกำหนด 1 ปี เว้นแต่กรณีที่ศาลพิพากษาให้ปรับ 200,000 บาทขึ้นไป ศาลสามารถสั่งให้กักขังแทนค่าปรับเกิน 1 ปีได้ แต่ไม่เกิน 2 ปี ผลดังกล่าวทำให้ผู้กระทำผิดต้องตกงาน ไม่มีอาชีพ และครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ประเทศขาดแรงงาน

กมธ. จึงเสนอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการลงโทษ มาตรา 30 ให้เปลี่ยนจากการถูกคุมขังแทนค่าปรับวันละ 500 บาท เป็นการบำเพ็ญประโยชน์แทน สำหรับมาตรา 30/1 ที่วางหลักว่า กรณีที่ศาลพิพากษาปรับ ผู้ต้องโทษปรับไม่ใช่นิติบุคคลและไม่มีเงินชำระค่าปรับ อาจยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดีเพื่อขอทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ

“เมื่อกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาแล้วรัฐบาลจะอุ้มไปอีกกี่วัน อย่าลืมว่า 1 วันของคนจนมันไม่เท่าหับคนรวย และอย่าลืมว่า 1 บาทของคนรวยกับคนจนก็ไม่เท่ากัน ฉะนั้นเวลาปรับเงิน 1,000 บาทกับคนรวยมันเป็นเศษเงินของเขา แต่ถ้าปรับคนจนมันเป็นชีวิตเขาทั้งชีวิต ซึ่งบางที่ถูกปรับเป็น 2-3 แสน ถูกจำคุกเป็น 1-2 ปี ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทย ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย

ซึ่งกฎหมายฉบับนี้มีทุกพรรคการเมืองสนับสนุน ขอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้กระทรวงยุติธรรมให้เสนอร่างกฎหมายมาประกบร่างกฎหมายที่ กมธ. เสนอด้วย แต่หากไม่ทำก็ขอฝากให้นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ทำด้วยเพราะหากร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะสามารถพิจารณาได้ทันที โดยไม่ต้องถูกรัฐบาลนำกลับไปพิจารณาศึกษาอีก 60 วัน“

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
“ขนมไหว้พระจันทร์ เอ็ม เอกซ์” แนะนำกล่องใหม่ “สตาร์รี่ เพิร์ล แอสซอทเต็ด มูนเค้ก”
“ร้านเอ็ม เอกซ์ เค้ก แอนด์ เบเกอรี่” ชวนส่งความสุข ความโชคดีในเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ด้วย “ขนมไหว้พระจันทร์เอ็ม เอกซ์” ยอดขายอันดับหนึ่งในฮ่องกง และทุกกล่องนำเข้าจากฮ่องกง
Read More
0 replies on ““สฤษฏ์พงษ์-สามารถ” เตรียมเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เปลี่ยนจากการกักขังแทนค่าปรับ เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ ชี้ช่วยลดภาระของเรือนจำ และประชาชนวัยแรงงานได้ประโยชน์”