“TEAMG” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยตรวจสอบและทวนสอบ CFO จาก อบก.ใน 8 สาขา ชูจุดแข็งบุคคลากรมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง ระบุมั่นใจไปได้สวย เผยหลังจากได้ผ่านการรับรองระบบงานเป็นหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบ จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
ดร.สุพัฒนา วิชากูล รักษาการกรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจตรวจสอบและให้การรับรองมาตรฐาน บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. หรือ TGO ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อนุมัติให้ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าซเรือนกระจก
ซึ่งสามารถให้การรับรองและทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) ใน 8 สาขา ได้แก่ 1.การผลิตพลังงาน และการจัดการพลังงานไฟฟ้า 2.อุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป 3.อุตสาหกรรมการผลิตสารเคมี 4.การดักจับและเก็บก๊าซเรือนกระจก 5.การขนส่ง 6.การจัดการและกำจัดของเสีย 7.การเกษตร ป่าไม้ และการใช้ที่ดิน 8.กิจกรรมการบริการทั่วไป
สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ ขณะเดียวกันบริษัทที่มีการดำเนินงานข้ามชาติหรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมาก มีการจัดทำรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อตอบสนองข้อกำหนดของ กลต. และข้อบังคับทางกฏหมาย ในขณะเดียวกันบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม ได้เริ่มมีการรับรู้ถึงความสำคัญของการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์และการดำเนินงานอย่างยั่งยืน
สำคัญที่สุด คือกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง เช่น อุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี เหล็ก ซีเมนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังตอบสนองกลุ่มที่ต้องการเข้าสู่ตลาดสากล การทำคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ อาจเป็นเงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศหรือเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินความเสี่ยง แม้กระทั่งหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมักมีข้อกำหนดการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปฏิบัติตามสิ่งแวดล้อม
ดร.สุพัฒนา วิชากูล กล่าวอีกว่า การที่ต้องมีหน่วยงาน บริษัทหรือบุคคลให้คำปรึกษาการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO) และการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint for Product : CFP) มีความสำคัญเพราะต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในวิธีการคำนวณ เก็บข้อมูลและมาตรฐานต่างๆ เช่น ISO 14064 และ GHG Protocol ต้องอาศัยที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำแนะนำแนวทางที่ถูกต้องในการปรับปรุงและพัฒนาแผนการลดคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น การจัดการก๊าซเรือนกระจกที่เป็นระบบและมีมาตรฐานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อองค์กร ในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียอีกด้วย สุดท้ายที่ปรึกษาสามารถช่วยเตรียมความพร้อมในการจัดทำรายงานและตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรับรองและยืนยันผลการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ใบรับรองระบบงานเป็นหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบ (Validation / Verification Body, VVB) ก๊าชเรือนกระจก ISO/IEC 17029:2019 และ ISO 14065 : 2020 (Greenhouse gases – Requirement for greenhouse gas validation and verification bodies fort use in accreditation or other forms recognition ) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ)
สำหรับการตรวจสอบความใช้ได้ (validation) และ ทวนสอบ (verification) โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) อยู่ระหว่างการพิจารณาจาก สมอ. และ อบก. ซึ่งคาดว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนภายในเดือนสิงหาคม ปีนี้ ดร.สุพัฒนากล่าว
อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่า TEAMG มีโอกาสเติบโตในอนาคต เนื่องจากมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดการปล่อย จากกฏข้อบังคับและจากการสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสขยายตัวในภูมิภาคอาเซียน
ด้วยประสบการณ์กว่า 45 ปี ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาแบบครบวงจร และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ที่ให้บริการครอบคลุมทุกมิติ เป็นเครื่องยืนยันถึงความพร้อมด้านเทคนิค ทรัพยากร และธรรมาภิบาลการจัดการองค์กร ทำให้เราได้เปรียบในการตลาดแข่งขันนี้” ดร.สุพัฒนา วิชากูล กล่าว