15 กรกฎาคม 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง และพื้นที่เขตทุ่งครุ เพื่อตรวจสอบสถานที่ก่อนนำข้อมูลเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการความร่วมมือการทำงานกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 16 ก.ค. 67 ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ
สำหรับจุดแรก ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสะพานข้ามคลองหลวงแพ่ง บริเวณหมู่บ้านเลคการ์เด้น แขวงขุมทอง พื้นที่เขตลาดกระบัง ซึ่งสะพานชํารุดเสียหาย โดยมอบหมายให้ทางสำนักงานเขตลาดกระบังเร่งเคลื่อนย้ายสะพานที่อยู่ในบริเวณคลองออกจากคลอง และให้ประสานไปยังสำนักการระบายน้ำเพื่อนำเครื่องจักรเข้ารื้อซากสะพานในคลอง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้อบต.คลองหลวงแพ่งดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองแทนของเดิมต่อไป พร้อมมอบหมายให้ดูแลติดตั้งและแก้ไขไฟส่องสว่างบริเวณหน้าหมู่บ้านเลคการ์เด้นตลอดจนถึงบริเวณท้ายหมู่บ้าน และให้ประสานการไฟฟ้านครหลวงเพื่อติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณทางเดินริมคลองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ซึ่งการลงพื้นที่เขตลาดกระบังมีนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายคุณานพ เลิศไพรวัลย์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ อภิสิทธิ์ภูวกุล รองผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล นายชัชชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง ผู้แทนสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ร่วมลงพื้นที่และนําเรียนข้อมูลพื้นฐานของสะพานชำรุด ความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหา และแนวทางหรือข้อเสนอในการแก้ไขปัญหา
จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางสู่พื้นที่แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ บริเวณพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ตรวจสอบสภาพปัญหาพื้นที่เขตปกครองทับซ้อนกันจำนวนเนื้อที่ 4,729 ตร.กม. โดยพื้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ล้ำเข้ามาในพื้นที่เขตทุ่งครุ ซึ่งในสภาพปัจจุบันพื้นที่ทับซ้อนนี้เป็นพื้นที่ของ อบต.บ้านคลองสวน จำนวน 4,525 ตร.กม. และพื้นที่ของ อบต.ในคลองบางปลากด จำนวน 204 ตร.กม. รวม 4,729 ตร.กม.
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักวางผังและพัฒนาเมือง และสำนักงานปกครองและทะเบียน ได้ศึกษาข้อมูลปัญหานี้เรื่อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยมีคณะกรรมการพิจารณาหาข้อยุติปัญหาแนวเขตปกครองของกรุงเทพมหานครกับจังหวัดข้างเคียงตามที่สำนักงานเขตทุ่งครุได้มีหนังสือหารือไป ซึ่งในข้อเท็จจริงที่สรุปจากการบรรยายแนวเขตปกครองของทั้ง 2 จังหวัดที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงประกาศกระทรวงมหาดไทยนั้น แม้จะถูกต้องตรงกันและไม่มีพื้นที่ทับซ้อน แต่จากการสำรวจของสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ตามโครงการสํารวจระยะที่ 2 เมื่อปี 2563 พบว่ามีพื้นที่ทับซ้อนกันจำนวน 4,729 ตร.กม. โดยดูจากระวางโฉนดที่ดินในพื้นที่ทับซ้อนนี้และเลขบ้านในทะเบียนที่ขึ้นกับจังหวัดสมุทรปราการ
โดยเรื่องนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพิจารณาแล้วว่า เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนเรื่องแนวเขตปกครองในความเป็นจริง ทั้งที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยแบ่งเขตจังหวัดถูกต้องตรงกัน จึงเห็นควรแก้ไขประกาศกระทรวงมหาดไทย โดยแบ่งแนวเขตจังหวัดใหม่ให้เป็นจริงตามสภาพปัจจุบัน ปรับปรุงเลขบ้าน และโฉนดที่ดินของประชาชนใหม่ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง แต่จะกระทบกับเขตอำนาจ หน้าที่ ของ อบต.บ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งข้อมูลสถิติ อบต.บ้านคลองสวน ที่มีบ้าน 17,043 หลัง จำนวนประชากร 32,083 คน ทั้งนี้ จะต้องมีการเสนอเข้าที่ประชุมความร่วมมือการทำงานกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล และนำเสนอกระทรวงมหาดไทยต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่เขตทุ่งครุมีนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายคุณานพ เลิศไพรวัลย์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ อภิสิทธิ์ภูวกุล รองผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล นางละไม อัศวเลิศศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน นายพงค์ศักดิ์ พูลยรัตน์ ผู้อํานวยการเขตทุ่งครุ ผู้แทนสำนักการโยธา สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ร่วมลงพื้นที่และนําเรียนข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่ทับซ้อน ประเด็นปัญหาและแนวทางหรือข้อเสนอในการแก้ไขปัญหา