กรุงเทพฯ 16 มีนาคม 2563 – พล.อ. สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. พร้อมด้วย ผู้บริหาร กสทช. มอบใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม และใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 2600 MHz. ให้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TUC บริษัทในเครือทรู นำโดย นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหารกลุ่มทรู รับมอบใบอนุญาตฯ โดยมี นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ฮีโร่ต้นแบบถ่ายทอดอัจฉริยภาพของ True 5G ด้านความปลอดภัย (World of Security) ที่จะ “เปลี่ยนทุกการช่วยเหลือให้ทันท่วงที” และศิลปินเอเอฟ เข้าร่วมแสดงความยินดี
พร้อมกันนี้ ทรูประกาศความพร้อมให้คนไทยได้ใช้บริการ 5G พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 ย้ำวิสัยทัศน์ “True 5G อัจฉริยภาพสู่โลกใหม่ที่ยั่งยืนของเรา” ด้วยความครบที่เหนือกว่า โดย TUC ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยคลื่นถึง 7 ย่านความถี่ พันธมิตรระดับโลก โซลูชันและเทคโนโลยีอัจฉริยะ True 5G ที่จะดึงอัจฉริยภาพในตัวคนไทยทุกคน มุ่งสร้างโลกใหม่ เพื่อให้คนไทยและประเทศไทยเป็นที่หนึ่งไปด้วยกัน
นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า หลังจากที่ทรูชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz จำนวน 90 MHz และ 26GHz จำนวน 800 MHz นั้น วันนี้ ทรู ถือฤกษ์ดีเข้าชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz งวดแรก จำนวน 1,912,399,111.02 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากราคาประมูลทั้งหมด 19,123,991,110.16 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี) และรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz จากกสทช. มั่นใจว่า กลุ่มทรูประมูลได้ “คลื่นที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุด” ตามแผนที่วางไว้ และ ทรู พร้อมแล้วที่จะเปิดให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการ ด้วยวิสัยทัศน์ “True 5G อัจฉริยภาพสู่โลกใหม่ที่ยั่งยืนของเรา” เพื่อนำอัจฉริยภาพของ 5G มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อคนไทยและประเทศไทย โดยตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป คนไทยจะได้ใช้บริการบนเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G พร้อมกันทั่วประเทศ ย้ำภาพความเป็นผู้นำเครือข่ายที่ดีที่สุดของกลุ่มทรูที่มีคลื่นครบสุดและครอบคลุมสุดถึง 7 ย่านความถี่ โดยเฉพาะย่านความถี่ต่ำที่หลากหลายมากที่สุดและมีแบนด์วิธมากที่สุด ผสานกับจุดเด่นของพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลก อย่างไชน่าโมบายล์ ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ที่มีโซลูชันและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้ง AI, Robotics, Deep Data Analytics และ Smart IoT ที่จะดึงอัจฉริยภาพในตัวคนไทยทุกคน เพื่อสร้างโลกใหม่ที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
