“พล.อ.ประวิตร” เปิดเวทีรับฟังปัญหา-ข้อเสนอแนะของ ปชช.จ.หนองคาย เดินหน้าพัฒนาสร้างงาน สร้างรายได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้คนอีสาน

พรรคพลังประชารัฐ นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รองหัวหน้าพรรค,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค, นายอุตตม สาวนายน ประธานกรรมการด้านนโยบายและการปฏิรูปเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน,

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์สุวรรณ นายทะเบียนพรรคและรักษาการเหรัญญิกพรรค และ สส.พปชร.​จำนวนมากร่วมเวทีวิชาการ รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของประชาชน เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคอีสาน ณ ห้องประชุมโรงแรมพันล้าน บูติค รีสอร์ท ซึ่งมีตัวแทนกลุ่มภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน เข้าร่วมงาน

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดงานว่า ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเปิดเวทีเพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับผู้ที่รู้ปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จึงต้องขอขอบคุณผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ ทุกท่าน ทั้งที่มาจากหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน อาจารย์ นักวิชาการ ตลอดจน พี่น้องประชาชน ที่ได้เสียสละเวลามาเข้าร่วมเวทีครั้งนี้

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐ ได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการเพิ่มสิทธิและสวัสดิการความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชน ส่งเสริมสิทธิในที่ดินทำกิน และเร่งรัดการพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบชลประทาน รวมถึง การแก้ปัญหา น้ำท่วม น้ำแล้งให้เบ็ดเสร็จ ซึ่งได้ทำมาอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งประเทศ

อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐตระหนักดีว่า การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศต้องคำนึงถึงบริบทและความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละจังหวัดและภูมิภาค จึงได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนารายภาคขึ้น โดยพรรคพลังประชารัฐได้เปิดเวทีในจังหวัดหนองคาย เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการกำหนดนโยบายของพรรคการเมือง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

“ข้อมูลที่ได้รับจากท่านในวันนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคจะนำไปจัดทำเป็นยุทธศาสตร์และนโยบายการพัฒนาภาคอีสานให้มีความทันสมัยยึดโยงกับความต้องการของคนอีสาน และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีแรกของพรรคพลังประชารัฐ และก็จะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในจังหวัดอื่นๆ ให้ครอบคลุมทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร เพื่อนำยุทธศาสตร์รายภาคมาหลอมรวมให้เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยต่อไป”

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐเล็งเห็นว่าภาคอีสานมีทรัพยากรมากมายที่รอรับการพัฒนาซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาที่แตกต่างกันออกไป เช่น กลุ่มจังหวัดอีสานเหนือมีศักยภาพเป็นศูนย์กลาง การลงทุนการขนส่ง และการค้าชายแดนของอนุภูมิภาค ลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะต้องมีการยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและโลจิสติกส์ให้เชื่อมโยง กับ รถไฟ จีน – ลาว ส่วนกลุ่มจังหวัดอีสานกลางมีความเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน อินโดจีน ขณะที่อีสานใต้มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมเกษตร และอาหาร

“ความคิดเห็นของทุกท่านจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนการพัฒนาภาคอีสานให้มีความเจริญ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ทุกคนตามเป้าหมายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการ “แก้ปัญหา ให้คนอีสานมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุข”

จากนั้นคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค โดย นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ได้ดำเนินการรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็น การยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำเพิ่มรายได้ โดยต้องดูแลเกษตรกรให้เข้มแข็ง โดยเน้นไปที่การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรกรรม, การแก้ปัญหาแล้งและท่วมอย่างยั่งยืน รวมถึงการให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญถึงการยกเครื่องอุตสาหกรรมเดิม สร้างอุตสาหกรรมใหม่ สร้างระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจ BCG (เป็นเศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ที่ผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศในด้านสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 และการแก้ปัญหาขยะสะสม

ในการเสวนาครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐได้ตั้งเป้าหมายในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งสินค้าและการคมนาคมของประชาชน ทั้งถนน ราง ทางน้ำ และทางอากาศ ควบคู่ไปกับการเร่งยกระดับโครงข่ายดิจิทัล การเร่งรัดพัฒนาเครือข่าย 5G (เมืองอัจฉริยะ พื้นที่เสมือนจริง สุขภาพฯ ) นำประเทศไทย ก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งพัฒนาแรงงานรองรับระบบเศรษฐกิจแห่งอนาคต โดยสนับสนุนให้คนไทยพัฒนาและยกระดับทักษะ รวมถึงสนับสนุนงบประมาณแก่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

ทั้งนี้ การปฏิรูปรัฐราชการก็ถือว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพของคนไทย พร้อมสร้างระบบ one-stop service เพื่อลดต้นทุนและความยุ่งยากในการติดต่องานภาครัฐและสถาบันการเงิน ปฏิรูประบบงบประมาณ และกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น

Written By
More from pp
ศปภ. คค. สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนน คค. ระหว่างวันที่ 11 – 16 เม.ย.
ศปภ. คค. สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนน คค. ระหว่างวันที่ 11 – 16 เม.ย. 2565 (สะสม 6...
Read More
0 replies on ““พล.อ.ประวิตร” เปิดเวทีรับฟังปัญหา-ข้อเสนอแนะของ ปชช.จ.หนองคาย เดินหน้าพัฒนาสร้างงาน สร้างรายได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้คนอีสาน”