นายกรัฐมนตรีรับฟังสภาพปัญหาและข้อเสนอของบึงโพนทอง ปัจจุบันบึงโพนทอง (แหลมพยอม) เกิดภาวะตื้นเขิน มีวัชพืชและพืชน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งต้องมีการเสริมคันดินรอบบึงเพื่อป้องกันการบุกรุก การพังทลายของหน้าดิน ประกอบกับแหล่งน้ำจากชุมชนไหลลงสู่ลำห้วยทั้ง 3 สายข้างต้น ไหลลงสู่แหลมพะยอม ทำให้น้ำเกิดความสกปรกไม่มีคุณภาพ ทุกปีในช่วงฤดูฝนไม่สามารถระบายน้ำได้ทำให้ประสบกับปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้ อำเภอโพนทองยังประสบปัญหาและมีความต้องการเชิงพื้นที่อีกหลายประเด็น ดังนี้
ปัญหาด้านยาเสพติดและผู้ป่วยจิตเวช ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอโพนทอง เช่น ด้านเศรษฐกิจ ปัญหาความยากจน ประชาชนไม่มีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินทำกิน เป็นต้น ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ภัยธรรมชาติ การใช้สารเคมี การเผาขยะมูลฝอย การลักลอบเผาอ้อย การบุกรุกที่สาธารณะและลักลอบตัดไม้ เป็นต้น
รวมทั้งข้อเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อำเภอโพนทองโดยเฉพาะปัญหาด้านแหล่งน้ำซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วน ได้แก่ 1. โครงการขุดลอกบึงโพนทอง (แหลมพยอม) พื้นที่ 755 ไร่ 2. โครงการขุดลอกลำห้วยหนองสิม ความยาว 8.29 กิโลเมตร 3. โครงการขุดลอกลำห้วยโพนทอง ความยาว 2.16 กิโลเมตร 4. โครงการขุดลอกลำห้วยนาเหนือ ความยาว 4.78 กิโลเมตร 5. โครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียช่วงปลายลำห้วยหนองสิม ลำห้วยโพนทอง และลำห้วย
จากนั้น นายกฯ กล่าวพบปะประชาชนว่า ดีใจที่ได้มาพบปะกับพี่น้องชาวร้อยเอ็ดเป็นครั้งที่ 3 ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นตั้งแต่เมื่อเช้า จังหวัดร้อยเอ็ดหรือเมืองสาเกตนครเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง เป็นเมืองที่ต้องพึ่งการเกษตรกรรมค่อนข้างมาก เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิชั้นดีที่สุดในโลก ได้รับเครื่องหมาย GI เป็นที่ต้องการของตลาด รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนเรื่องสายพันธุ์ข้าวให้ดี สนับสนุนเรื่องการเปิดตลาดใหม่ ๆ เพื่อให้พี่น้องไปขายข้าวได้ราคาที่แพงขึ้น
ในส่วนเรื่องของผลประโยชน์ที่พี่น้องจะได้ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย ยาฆ่าแมลงที่มีราคาถูกลง เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุน ทั้งนี้ จะปลูกข้าวไม่ได้ ถ้าไม่มีการชลประทาน วันนี้ตนได้มาดูปัญหาเรื่องของคลองส่งน้ำต่าง ๆ ที่มีการตื้นเขิน ต้องมีการทำบ่อบำบัดเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เครือข่ายชลประทานทั้งหมดถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เปรียบเป็นเส้นเลือดของพี่น้องที่นี่ทุกคน รัฐบาลตระหนักเรื่องนี้ดี
วันนี้เรามากันพร้อม ทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สส. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มาช่วยให้ความรู้ด้วย ฉะนั้นถ้าเราบริหารจัดการเรื่องชลประทานได้ ไม่ท่วมไม่แล้ง ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับพี่น้องชาวร้อยเอ็ดทุกคน
นายกฯ กล่าวว่ารัฐบาลมีการลงทุนจำนวนมาก แต่ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าเรื่องของการไม่ท่วมไม่แล้ง ถ้ามีน้ำใช้ตลอด หน้าฝนน้ำไม่ท่วมก็สามารถปลูกพืชผลได้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เป็นส่วนหนึ่งของการที่จะเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้อง 3 เท่าตัวภายในเวลา 4 ปีของรัฐบาล
ขณะที่เรื่องการคมนาคมก็เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อประมาณ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มาดูเรื่องเครือข่ายถนนเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางอากาศ เพื่อให้พี่น้องสามารถเดินทางไปมาหาสู่ได้อย่างดี รวมถึงการขนส่งสินค้าต่าง ๆ ไปขายทั่วประเทศได้ด้วยความสะดวกสบายในราคาที่ถูกลง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราอยากให้มีการทำอย่างต่อเนื่อง
นายกฯ กล่าวว่าเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนได้เดินทางมาที่จังหวัดร้อยเอ็ด มาดูเรื่อง 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ร้อยเอ็ดเป็น 1 ในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัดซึ่งจะขยายไปทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องการยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศถือเป็นนโยบายสำคัญที่สุดของเรา รัฐบาลมีความเห็นใจพี่น้องชาวอีสานที่มีอายุขัยเฉลี่ยน้อยกว่าประชากรทั่วประเทศไทย แสดงว่าการสาธารณสุขยังไม่ดีพอ ฉะนั้นจะมีการพัฒนายกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค รักษาทุกที่ต่อไปอีก
โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจให้มาก เพราะพี่น้องต้องเสียเวลาไปเข้าคิว ไปคอย เดินทางไปโรงพยาบาลต่าง ๆ ต้องใช้เวลานานมาก เมื่อไปถึงแล้วก็ต้องซักประวัติ แต่การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ท่านไม่จำเป็นต้องรู้จักหมอ แต่หมอจะรู้จักกับพี่น้องทุกคนที่เดินทางไปหาหมอ รวมทั้งจะรู้ประวัติการป่วยของทุกคนที่มา ทำให้การรักษาเข้าถึงจุดได้ดีกว่าที่เคยเป็น
นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องหนี้นอกระบบว่าเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะพยายามขจัดหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป ตัวเลขที่ออกมาก็ยังไม่ดีพอ ตนเชื่อว่าประชาชนที่ยังไม่เข้ามาคลินิกแก้ไขหนี้เพราะกลัวอิทธิพลของเจ้าหนี้ ขอให้อย่ากลัว เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องปกป้องดูแลพวกท่านที่ถูกเอาเปรียบ ถูกชาร์จดอกเบี้ยที่แพงเกินควร ต้องทำงานหนักหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ย ทำให้เงินไม่พอใช้ ไม่มีกำลังแรงใจในการทำงาน จนอาจทำให้เป็นปัญหาใหญ่หันไปพึ่งสิ่งที่ไม่ดี เกิดปัญหายาเสพติดตามมา
ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด จะขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปภายในเวลา 4 ปีนี้ คืนลูกหลานสู่อ้อมกอดของพี่น้องทุกคน โดยรัฐบาลยืนยันจะให้การดูแลประชาชนในทุกมิติ ทั้งเรื่องการทำมาหากิน ราคาพืชผล การคมนาคม ระบบสาธารณสุข การดูแลเรื่องยาเสพติด ป้องกันเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง