"ทักษิณ" เป็นโรคอะไร?

ผักกาดหอม

ถามกันเยอะ

“นักโทษชายทักษิณ” ป่วยเป็นโรคอะไร?

เท่าที่เป็นข่าวหลังเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แดน ๗ ไม่ใช่ห้องขัง แต่เป็นสถานพยาบาลกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม มีอาการป่วยกำเริบ นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ

หลังจากนั้นไม่นานกรมราชทัณฑ์เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พบว่า “นักโทษชายทักษิณ” อยู่ในกลุ่มเปราะบาง

มีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง และพบประวัติเป็นหลายโรค ได้แก่

๑.โรคหัวใจ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

๒.มีปัญหาปอด เนื่องจากมีประวัติเป็นปอดอักเสบรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-๑๙ มีภาวะพังผืดในปอด ส่งผลทำให้มีความผิดปกติต่อการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ทั้ง ๒ โรคนี้ต้องได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์

๓.ความดันโลหิตสูง

๔.ภาวะเสื่อมตามอายุ กระดูกสันหลังเสื่อมในหลายระดับ ตรวจด้วยระบบ MRI พบมีการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้ปวดเรื้อรัง การเดินทรงตัวผิดปกติ

รุ่งขึ้นถัดมาวันที่ไปนอนชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ โดย พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ แถลงอาการว่า ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังใส่สายออกซิเจน ความดันยังสูงอยู่ สามารถสื่อสารได้ แต่ยังมีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์ต้องฝ้าระวังโดยสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี

เดือนกันยายน “หมอใหญ่” ยืนยันกับปากว่า รับการผ่าตัดจริง สาเหตุที่ต้องผ่าตัดมาจากหลายอาการ หลายสาเหตุ แต่ขอยืนยันว่าอาการอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยแล้ว

และกำลังดีขึ้นตามลำดับ!

นี่คืออาการป่วยของ “นักโทษชายทักษิณ” ที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากนั้นไม่มีใครออกมายืนยันแต่ประการใด

๓ เดือนมาแล้วที่ไม่มีข้อมูลอาการป่วยของ “นักโทษชายทักษิณ” ออกมาสู่สังคม ทั้งๆ ที่ “หมอใหญ่” ยืนยันด้วยตัวเองว่า กำลังดีขึ้นตามลำดับ

แล้วผู้ป่วยโรคอะไรที่อาการดีขึ้นตามลำดับมาร่วม ๓ เดือนแล้ว แต่ยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

ในทางการแพทย์อาการป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลมีดังนี้

๑.มีอาการไข้สูงกว่า ๓๙ องศาเซลเซียส นานกว่า ๒๔ ชั่วโมง

๒.หายใจเร็วกว่า ๒๕ ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่

๓.oxygen saturation น้อยกว่า ๙๔%

๔.โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ตามดุลยพินิจของแพทย์

แต่ก็บอกแน่ชัดไม่ได้ว่า โรคอะไรที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นในระยะเวลายาวนาน

แต่..เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว “นักโทษชายทักษิณ” ให้สัมภาษณ์ทางช่องยูทูบ FAROSE ที่ดูไบ

วันนั้น ได้บอกว่า

“…มีความต้องการที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยมาก อยากกลับมาเลี้ยงหลาน อยากอยู่กับหลาน รวมถึงอยากกลับมาเป็นที่ปรึกษาให้ลูก แล้วก็สงสารคุณหญิงพจมาน อยากช่วยแบ่งเบาภาระ

ตอนนี้ต้องฟิตร่างกายให้ยาวนาน ให้อยู่ได้ ๑๖ ปี เพื่อชดเชยเวลา ๑๖ ปีที่เสียไป…”

ในวันนั้น “นักโทษชายทักษิณ” ยังซ้อมต่อยมวยโชว์เป็นของแถม

คำพูดทั้งหมดจะเห็นว่า ไม่คิดจะกลับมาติดคุกตั้งแต่แรก

คนที่ฟิตร่างกายโดยมีเป้าหมายอยู่ต่ออีก ๑๖ ปี จึงไม่ใช่คนที่ทำให้ตัวเองเสี่ยงมีโรค

และการชดเชยเวลา ๑๖ ปีที่เสียไป ก็ไม่ได้ชดเชยในคุก

ฉะนั้นเดาไม่ออกหรอกครับว่า โรคอะไรทำให้ “นักโทษชายทักษิณ” ซึ่งอาการดีขึ้นแล้ว ยังต้องนอนโรงพยาบาลต่อไปเรื่อยๆ

นอนอย่างไม่มีกำหนดออก จนกว่าเส้นทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสำเร็จ ๑๐๐%

ถึงได้สงสัยกันไงครับว่า ป่วยจริงหรือเปล่า

ฉะนั้น ถ้าหมอไม่บอก หรือ คนในครอบครัวชินวัตรไม่ออกมาเปิดเผย ก็ยากที่คนนอกจะล่วงรู้เรื่องโรคของนักโทษรายนี้

“นักโทษชายทักษิณ” ถือพาสปอร์ตมอนเตเนโกรก็จริง แต่ไม่ได้สละสัญชาติไทย ฉะนั้นสิทธิเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลยังมีอยู่ครบในฐานะเป็นคนไทย

มีคนสงสัยว่า “นักโทษชายทักษิณ” ไปนอนห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ติดแอร์เย็นฉ่ำ ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่าย

ตามกฎหมาย เมื่อผู้ต้องขังเจ็บป่วย ก็จะมีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลเท่าๆ กับประชาชนทั่วไป คือใช้บัตรทอง “๓๐ บาท รักษาทุกโรค” ได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว

ทั้งหมดมาจากภาษีประชาชน

ก็ภาษีกูที่ชอบเรียกกันนั่นแหละครับ

แต่จะครอบคลุมห้องวีไอพีหรือเปล่า

หากมีส่วนเกิน ใครจะจ่าย

โรงพยาบาลตำรวจเท่านั้นที่ตอบได้

นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะต่อให้ “นักโทษชายทักษิณ” นอนห้องวีไอพีตลอดชีวิต ตระกูลชินวัตรก็มีปัญญาจ่ายแบบขนหน้าแข้งไม่ร่วงสักเส้น

แต่การใช้อภิสิทธิ์เหนือนักโทษรายอื่นๆ และปิดบังข้อมูล โดยอ้างกฎหมายสารพัด สักวันอาจได้เห็นคนติดคุกเพิ่ม เพราะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

เอาอีกที ตั้งใจอ่านคำถามดีๆ จากอดีตคนเคยอยู่ในคุก “เทพไท เสนพงศ์”

๑.คุณทักษิณป่วยจริงหรือไม่

๒.คุณทักษิณป่วยด้วยโรคอะไร ถ้าไม่ป่วย ทำไมไม่ยอมเข้าสู่เรือนจำ

๓.เวลา ๑๒๐ วัน คุณทักษิณไม่หายป่วย โรงพยาบาลตำรวจ มีประสิทธิภาพในการรักษามากน้อยเพียงใด

๔.จะให้คุณทักษิณออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อไหร่