“ชาดา” ตอบกระทู้สภาฯ ยันดำเนินการเฉียบขาด แก้ปัญหากรมที่ดิน ฮึ่มไม่เอาไว้แน่ ข้าราชการที่กลั่นแกล้งชาวบ้าน ออกโฉนดไม่ถูกต้อง ยันไม่ได้อยากเป็นพระเอก แต่ต้องทำบันไดขั้นแรก ให้คนต่อไปเดินได้

14 ธันวาคม 2566 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถามถึงเรื่องการเดินสำรวจที่ดิน ก่อนที่นายประเสริฐพงษ์ จะกล่าวชื่นชมโดยระบุ ว่าเชื่อมั่นในความกล้าหาญของ รมต.ชาดา เพราะท่านก็มีสโกแกนของท่าน “มีอะไรบอกผม” วันนี้ ตนจึงมาบอกท่าน

นายชาดา เผยว่าสิ่งที่ท่าน ถามถึงเรื่องข้อผิดพลาด ในการออกโฉนดกรมที่ดิน ได้มีมาตรการป้องกันการเดินสำรวจออกที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไรนั้น ตนในฐานะ ที่รับผิดชอบกรมที่ดิน ที่ผ่านมามีหนังสือกรมที่ดิน ด่วนที่สุด ในการกำหนดนโยบายการปฎิบัติงาน ตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน โดยให้ทำการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเฉพาะ พื้นที่ที มีการระวางแผนที่ ที่ใช้ในราชการแล้วเท่านั้น ห้ามไม่ให้ เดินสำรวจในบริเวณเกาะ ที่ภูเขา ปริมณฑลรอบภูเขา หรือเขา 40 เมตร พื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% โดยเด็ดขาด

กรณีความผิดพลาดการออกโฉนดที่ดิน เกาะลันตาใหญ่ และเกาะนุ้ยนอก จังหวัดกระบี่ กรมที่ดิน ได้เพิกถอนโฉนดที่ดินแล้ว และดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดินบนเกาะนุ้ยนอก โดยได้มีคำสั่ง ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ลงโทษไล่เจ้าหน้าที่ออกจากราชการ ทั้งหมด 4 ราย

กรณีเช่นนี้ ยืนยันว่า ตนเข้ามารับผิดชอบกรมที่ดินโดยตรง ซึ่งปัญหามีมากมาย กำลังสะสางอยู่ ยืนยันไม่เอาไว้แน่ ข้าราชการที่กลั่นแกล้งชาวบ้าน และมีปัญหากับการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง

“เราดำเนินการอย่างเฉียบขาดแน่นอน ไม่ต้องห่วง มาในยุคนี้ เราไม่ยอมปล่อยให้คนที่มีปัญหาแล้วทำผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายกับประเทศชาติ แล้วมานั่งสบายอยู่แล้ว คงไม่ยอมแน่” นายชาดา กล่าว

ส่วนเรื่องการบุกรุกที่สาธารณะ นายชาดา ยืนยันจะไม่มีการวางโฉนดซ้ำซ้อน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการมายังตนโดยตรง ถ้าเจอตรงไหน ต้องฟันเลย ซึ่งท่านได้สั่งการในการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้ว ว่านโยบายเรื่องที่สาธารณะ ใครที่จะมารุกพื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ที่ป่า ในยุคนี้เราไม่ยอมแน่นอน

ขอยืนยันว่า ตั้งแต่ตั้งรัฐบาล ตนมาทำงาน 90 กว่าวัน มารับผิดชอบในกรมที่ดิน มีปัญหาเยอะมากเราต้องยอมรับความจริง ที่เขาฟ้องรัฐ และกรมที่ดินจะต้องจ่ายกว่า 1 แสนล้านบาท ยังไม่รวมสิ่งปลูกสร้างอีก 3 แสนล้านบาท ปัญหาหมักหมมมาพอสมควร ตนไม่ได้อยากเป็นพระเอก แต่อยากเป็นบันไดขั้นที่หนึ่ง ให้คนหลัง เข้ามาแล้วเดินต่อไปยังขั้นที่สองได้ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ เป็นระยะเวลายาวนาน ยุคนี้เราก็จะพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้เสร็จสิ้นให้ได้ ในเวลาที่มีจำกัดของสภาฯ

//////