14 ธันวาคม 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เผย แรงงานไทยกลุ่มที่ 1.เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลและเดินทางกลับประเทศไทยหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2566 2.เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลและเดินทางกลับประเทศไทยก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยใช้วีซ่า Re-entry แต่ไม่สามารถกลับไปทำงานที่อิสราเอลได้เนื่องจากกรมการจัดหางานชะลอการเดินทาง
สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ด้วยตนเองได้แล้วที่กระทรวงแรงงาน ดินแดง หรือ สำนักงานแรงงานจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 อนุมัติให้กระทรวงแรงงานดำเนินโครงการเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ของแรงงานไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานถูกต้องตามกฎหมายได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างจริงจัง
โดยมีแรงงานที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล และเดินทางกลับประเทศไทยหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2566
กลุ่มที่ 2 แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล กลุ่มที่ 3 แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลและเดินทางกลับประเทศไทย ก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566
โดยใช้ Re-Entry Visa แต่ไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้เนื่องจากกรมการจัดหางานชะลอการเดินทางด้วยเหตุภัยสงครามในประเทศอิสราเอล และกลุ่มที่ 4 ประมาณการแรงงานไทยที่คาดว่าจะประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย/เดินทางกลับไทยเพิ่มเติม รวมถึงแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน นั้น
ขณะนี้ แรงงานไทยที่มีสิทธิดังกล่าว สามารถยื่นเอกสารคำร้อง ได้แล้วที่กระทรวงแรงงาน เขตดินแดง หรือสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด โดยเงื่อนไขของผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยานั้นต้องยื่นคำร้องด้วยตนเองเท่านั้น ส่วนกรณีเสียชีวิตให้ทายาทผู้มีสิทธิเป็นผู้ยื่นคำร้อง
“แรงงานที่เดินทางกลับไทยหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ให้เตรียมเอกสาร ได้แก่
1) บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา
2) หนังสือเดินทางพร้อมสำเนา หน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้า – ออก ประเทศไทย หรือหนังสือเดินทางชั่วคราว (CI) พร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้าประเทศไทย
3) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอน ผ่านระบบ KTB Corporate Online
4) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของแรงงาน ส่วนแรงงานกลุ่มที่เดินทางกลับไทยก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยใช้ Re-Entry Visa ให้เตรียมเอกสาร
ได้แก่ 1) บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา 2) หนังสือเดินทางพร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้า – ออก ประเทศไทย (ไม่เกิน 90 วัน) 3) Re-entry Visa (อายุไม่เกิน 90 วัน) 4) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online 5) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของแรงงาน
และหากเป็นแรงงานไทยที่เสียชีวิตให้ทายาทผู้มีสิทธิเป็นผู้ยื่นคำร้อง โดยใช้เอกสารดังนี้
1) สำเนาใบมรณบัตร 2) สำเนาทะเบียนบ้านผู้เสียชีวิต 3) หนังสือรับรองความสัมพันธ์ทางครอบครัว 4) หนังสือให้ความยินยอมเป็น ทายาทโดยธรรม 5) บัตรประชาชนทายาท
6) สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีคู่สมรส) 7) สำเนาสูติบัตร (กรณีบุตร) 8) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online 9) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารทายาทผู้มีสิทธิรับเงินเยียวยา โดยสำเนาเอกสารทุกฉบับต้องรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลงลายมือชื่อเรียบร้อยแล้ว ”นายไพโรจน์ฯ กล่าว
นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงแรงงานจะมีคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วน โดยจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้มีสิทธิหรือทายาทผู้มีสิทธิ (กรณีเสียชีวิต) ภายใน 7 – 10 วัน โดยระหว่างนั้นผู้ยื่นคำร้องสามารถตรวจสอบสถานะคำร้องได้โดยการสแกน QR CODE ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ผู้รับคำร้อง ทั้งนี้ ประมาณการว่าจะมีแรงงานไทยจะได้รับสิทธิ จำนวน 15,000 คน ๆ ละ 50,000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 750 ล้านบาท