นายกรัฐมนตรีย้ำจังหวัดสระแก้วมีศักยภาพสูง มีความพร้อมที่จะพิจารณายกระดับให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 14.50 น. ณ นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงต่อสื่อมวลชนสรุปภาพรวมการเดินทางมาลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สระแก้ว สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางมาจังหวัดสระแก้วในวันนี้ มาดูแลเรื่องการค้าการลงทุน โดยจุดแรกได้ไปดูจุดผ่อนปรนที่เชื่อมต่อการค้าระหว่างฝั่งชายแดนไทยกับฝั่งชายแดนกัมพูชา ซึ่งมีความล่าช้าของการสร้างด่านศุลกากร ที่ล่าช้ามานานมากแล้ว

โดยจากการสอบถามรักษาการอธิบดีกรมศุลกากร พบว่าสัญญาการก่อสร้างสัญญาเก่าทำมาเนิ่นนานและได้ยกเลิกสัญญาไป ซึ่งเมื่อมีการทำผิดสัญญาก็ต้องแบล็คลิสต์และหาผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหม่ โดยระยะเวลาก่อสร้างจาก 600 วัน สามารถต่อรองลงมาได้เหลือ 400 วัน ซึ่งการก่อสร้างในปัจจุบันมีฐานรากเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นน่าจะแล้วเสร็จภายใน 400 วัน โดยจะเป็นสถานที่สำคัญที่ช่วยให้การค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาดีขึ้น

และนอกเหนือจากการก่อสร้างแล้วก็ได้ดูเรื่องขั้นตอนการนำสินค้าผ่านเข้า-ออก โดยให้ทางศุลกากรที่หนองคายเป็น Test Case ว่าจะต้องทำให้สำเร็จเป็น One Stop Service Single Window Single Form ให้ได้โดยเร็วที่สุด และจะนำมาใช้ที่จังหวัดสระแก้วด้วย

ทั้งนี้ หากสร้างสถานที่เสร็จแล้ว สร้างด่านศุลกากรเสร็จแล้ว สร้างถนนเสร็จแล้ว แต่ต้องมาเสียเวลาในแง่ของการพิธีการ ก็จะไม่ได้เอื้อประโยชน์ในทางการค้าเท่าที่จะสามารถทำได้ เพราะเรามีการค้าที่เยอะมาก มีปริมาณการค้าปีหนึ่งกว่าแสนล้านบาท มีประชากรทั้งสองประเทศเข้า-ออก ซึ่งกันและกัน รวมถึงชาวต่างชาติอื่น ๆ ด้วยประมาณ 10 ล้านคน

เพราะฉะนั้น การอำนวยความสะดวกทางด้านการเข้า-ออกเมืองมีความสำคัญ โดยฝั่งไทยมีการใช้การสแกนหน้าผ่านเข้า-ออกได้แล้ว แต่ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่มี ก็ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการพูดคุยต่อว่าจะทำอย่างไร เพื่อที่จะเอื้อให้การเข้า-ออกของทั้งสองฝั่งดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามีการสนับสนุนทางการค้ามากขึ้น มีคนเข้า-ออกมากขึ้น ตรงนี้อาจจะเป็นปัญหาถ้าไม่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจากที่ได้ไปตลาดโรงเกลือ มีคนเข้า-ออกมาก อยากให้มีด่านในการทำพาสปอร์ต และมี Day Pass ด้วย ซึ่งจะได้อำนวยความสะดวกให้กับคนที่เข้า-ออกได้มากขึ้น รวมถึงการจะขอร้องให้กระทรวงการต่างประเทศไปตั้งกงสุลพิเศษของประเทศไทยที่เสียมเรียบด้วย

ซึ่งทางกัมพูชามีอยู่แล้วที่อรัญประเทศ ฉะนั้นการเข้า-ออกจะได้สะดวกสบายขึ้น ถ้ามีธุรกรรมก็จะไม่ต้องเดินทางเข้าไปถึงกรุงพนมเปญ ทำให้การค้าของทั้งสองประเทศดีมากยิ่งขึ้นต่อไป

นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้มาพูดคุยเรื่องการค้าและการอุตสาหกรรม โดยในวงประชุมหนึ่งมีการนำโกโก้มาให้ชิม ซึ่งโกโก้ถือเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่ปัญหาอยู่ที่เรื่องโรงงานแปรรูป ถ้ามีโรงงานแปรรูปที่ดีที่เหมาะสม รสชาติของโกโก้ก็จะดี

อีกทั้งผลโกโก้สามารถนำมาทำได้หลายอย่าง ทั้งนำมาทำเครื่องดื่มโก้โก้ หรือทำเครื่องสำอาง ซึ่งได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมว่าน่าจะลองใช้จังหวัดสระแก้ว เป็นจังหวัดทดลองทำ ตั้งโรงงานขนาดเล็กขึ้นสำหรับแปรรูปโกโก้ สนับสนุนให้มีการปลูกโกโก้ให้มากขึ้น สามารถทำให้เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทยได้เช่นกัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนิคมอุตสาหกรรมสระแก้วซึ่งมีขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่หลายร้อยไร่ แต่สร้างมาแล้ว 4 ปี ก็ยังไม่มีคนเข้ามาเช่าอยู่จนถึงศักยภาพที่สามารถเป็นไปได้ ซึ่งหนึ่งในเหตุผลคือค่าเช่ามีราคาแพง เป็นการเช่าระยะยาว ไม่สามารถขายขาดได้เพราะเป็นที่ราชพัสดุ บริหารจัดการโดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง

ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะกลับไปพิจารณาเรื่องค่าเช่า เพื่อให้เหมาะสมกับการตลาด และสามารถทำการเช่าได้ นอกจากนี้ มีกฎหมายบางฉบับ เช่น ห้ามโรงงานปล่อยควันออกมา ซึ่งเป็นขีดจำกัดที่จะให้ผู้ประกอบการมาเช่า จึงจะไปพูดคุยและมีการทำ EIA ที่เหมาะสม ไม่เกิดความขัดแย้งกับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ทำให้ตรงนี้สามารถทำอุตสาหกรรมได้หลายประเภท

โดยมอบหมายให้เลขาธิการ BOI ไปพูดคุยว่าจะสามารถยกระดับจังหวัดสระแก้วซึ่งมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งระยะทางไปท่าเรือแหลมฉบังก็ไม่ไกล และมีสนามบินกองทัพอากาศ ซึ่งอาจจะสามารถพัฒนาให้เป็นกึ่งพาณิชย์ได้ สามารถมีการขนส่งสินค้าและประชาชนได้

นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี มีปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ เพราะฉะนั้น เรื่องการที่มีหลายภาคส่วนสนใจจะมาตั้งโรงงานอุตสาหกรรม เรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อดูจากองค์ประกอบโดยรวมแล้ว ศักยภาพของจังหวัดสระแก้วมีความพร้อมที่จะพิจารณายกระดับให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

เพราะปัจจุบันเรามีเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่ที่ 3 จังหวัดคือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง โดยจากที่ติดตามมาจะทราบว่า มีบริษัทข้ามชาติจำนวนมากที่อยากจะมาลงทุน มี Demand มาก แต่ Supply น้อย ซึ่ง 3 จังหวัดอาจจะไม่เพียงพอ ราคาที่ดินที่จะขายก็มีราคาสูงขึ้น

ดังนั้น จังหวัดสระแก้วมีความพร้อมที่จะเสนอตัวเข้ามาเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนและเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ โดยวันนี้รัฐบาลมาครบ มาพูดคุยกัน ดึงศักยภาพของจังหวัดสระแก้วออกมา ซึ่งเมื่อกลับไปแล้วมีการบ้านที่จะต้องทำอีกมาก

Written By
More from pp
“ศุภชัย” จี้ นายกรัฐมนตรี ยุบสภา อัดวิป รบ.ไร้ประสิทธิภาพคุมเสียงไม่ได้ ทำสภาล่ม จวก ส.ส. เล่นละครแหกตา ปชช. อภิปรายทุกมาตราแต่กลับไม่แสดงตน
“ศุภชัย” จี้ นายกรัฐมนตรี ยุบสภา อัดวิป รบ.ไร้ประสิทธิภาพคุมเสียงไม่ได้ ทำสภาล่ม จวก ส.ส. เล่นละครแหกตา ปชช. อภิปรายทุกมาตราแต่กลับไม่แสดงตน...
Read More
0 replies on “นายกรัฐมนตรีย้ำจังหวัดสระแก้วมีศักยภาพสูง มีความพร้อมที่จะพิจารณายกระดับให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ”