เครือข่ายลดบริโภคเค็ม โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เตรียมจัดงาน “นิทรรศการครบรอบ 10 ปีเครือข่ายลดบริโภคเค็ม” ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องภายใต้คำขวัญ “เค็มน้อย อร่อยได้” จะจัดในวันที่ 4-6 ธันวาคม 2566 เวลา 10.30-16.30 น. ณ Zone Eden ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็มเปิดเผยว่า “การจัดงานนิทรรศการครบรอบ 10 ปีเครือข่ายลดบริโภคเค็ม” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4-6 ธันวาคม 2566 นั้นถือเป็นการแสดงผลงานการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 1 ทศวรรษและความร่วมมือในการดำเนินงานลดการบริโภคเกลือและโซเดียมที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นเตือนและรณรงค์เรื่องการลดบริโภคเค็มให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเข้าถึงประโยชน์ของการลดบริโภคเค็ม (โซเดียม) ส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบจากการได้รับเกลือและโซเดียมปริมาณสูง รวมทั้งสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของเครือข่ายให้มาก ยิ่งขึ้นและร่วมกันสนับสนุนการลดความเค็มในอาหารทั้งจากฝ่ายภาครัฐและเอกชนเพื่อเพิ่มการรับรู้การตื่นตัวของผู้ประกอบอาหาร ประชาสัมพันธ์ และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ลดโซเดียม
โดยการขับเคลื่อนเพื่อรณรงค์ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย นั้นเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ก่อนการมียุทธศาสตร์ชาติ โดยได้จัดตั้ง “เครือข่ายลดบริโภคเค็ม” ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานในสังกัด องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และภาคีเครือข่ายที่สำคัญ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ภายใต้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โดยมีที่ตั้งสำนักงานที่สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานจากภาคส่วนต่าง ๆ การพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม การวิจัย และการรณรงค์สื่อสารเตือนภัยผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งพัฒนาความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายร่วมดำเนินงาน
รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย นั้น สืบเนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงของโรคไม่ติดต่อ (NCDs) เพิ่มขึ้นจากการได้รับเกลือและโซเดียมในปริมาณสูง สมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 6 พ.ศ. 2557 ได้มีมติให้นำเป้าหมายการควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับนานาชาติ 9 เป้าหมาย ที่จะลดการตายก่อนวัยอันควร ปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมเสี่ยง และโรคไม่ติดต่อลง ภายใน พ.ศ. 2568 ให้เป็นเป้าหมายในการดำเนินงานของประเทศ และในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 8 พ.ศ. 2558 โดยการเสนอร่างของทางเครือข่ายลดเค็ม คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลและกระทรวงสาธารณสุข สมัชชาสุขภาพแห่งชาติมีมติรับรองนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) เป็นเป้าหมายสำคัญอีกครั้ง ซึ่งนำไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมกันภายใต้ความร่วมมือจากภาคีต่าง ๆ และแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้เริ่มประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2559 มีเป้าหมายการลดเกลือในระดับประเทศ ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2568 เป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับ WHO
ด้านนางสาวนิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ (สำนัก 5) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัญหาการบริโภคเกลือและโซเดียมนับเป็นประเด็นสำคัญในระดับนานาชาติ องค์การอนามัยโลกจึงได้กำหนดให้การลดเกลือโซเดียม เป็น 1 ใน 9 เป้าหมายระดับโลกในการควบคุมปัญหาโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ภายใน พ.ศ.2568 โดยกำหนดให้ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมลงร้อยละ 30 ภายใน พ.ศ. 2568 ซึ่งประเทศไทยโดยการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ใน พ.ศ.2557 ได้ทำการรับรองทั้ง 9 เป้าหมายดังกล่าวให้เป็นเป้าหมายในการดำเนินงานของประเทศไทยซึ่งถือเป็นความท้าทายของสังคมไทยในการจัดการปัญหา NCDs อย่างยิ่ง จากข้อมูลปี 2562 พบว่าคนไทยบริโภคโซเดียมเฉลี่ยอยู่ที่ 3,636 มิลลิกรัม/วัน สูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ที่แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน และยังไม่บรรลุค่าเป้าหมายระดับโลกดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการลดภาระโรค จากอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรค NCDs สสส. เครือข่ายลดการบริโภคเค็ม และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จึงได้สานเสริมพลังความร่วมมือขับเคลื่อนรณรงค์เพื่อการลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในในประชากรไทยอย่างจริงจังมาอย่างต่อเนื่อง
นางสาวนิรมล กล่าวว่า ประเทศไทยโดยการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 8 พ.ศ.2558 รับรองมติเรื่องนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ทำให้เกิดการจัดทำ “ยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย ปี พ.ศ.2559-2568” โดยเสนอกลไกการดำเนินงานระดับชาติในการประสานงานและบูรณาการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ สนับสนุนการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานตามนโยบายลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย เพื่อลดภาระโรคจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อ (NCDs) และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และประเทศชาติ
นอกจากนี้ สสส. เครือข่ายลดการบริโภคเค็ม ร่วมมือกับ WHO Country Cooperation Strategy (CCS) กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ยกระดับกลไกผลักดันการป้องกันโรค NCDs ผ่านการขับเคลื่อนเชิงนโยบายสาธารณะที่สำคัญ ได้แก่ การขอความร่วมมือภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจอาหาร ในการลดปริมาณเกลือในอาหาร หรือกำหนดมาตรฐานและออกกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับปริมาณเกลือและโซเดียมในอาหาร เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐส่งเสริมผลิตภัณฑ์ลดเกลือ ผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับการรับรองสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ ผลักดันมาตรการภาษีโซเดียม และนโยบายโรงเรียน/โรงพยาบาลอาหารเพื่อสุขภาวะ ลดหวานมันเค็ม การรณรงค์ขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อลดการบริโภคโซเดียมของสังคมไทย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมาของเครือข่ายลดการบริโภคเค็ม โดยสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย เกิดผลสำเร็จที่สำคัญ ได้แก่
ด้านการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม ได้แก่ การผลิตเครื่องตรวจสอบความเค็มในอาหาร (หรือ CHEM Meter) การพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์เกลือลดโซเดียมเพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์และการถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ รวมทั้งการศึกษาปริมาณโซเดียมและโซเดียมคลอไรด์ในอาหารบาทวิถี (Street foods) ที่จำหน่ายในเขตกรุงเทพมหานคร
การรณรงค์สื่อสารสาธารณะ “ลดเค็ม ลดโรค” นับเป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากประชาชนสูงที่สุดแคมเปญหนึ่งของ สสส. รวมทั้งการสื่อสารสร้างกระแสเพื่อทำให้ประชาชนเกิดความตระหนักต่อโทษของการบริโภคเค็มเกินความจำเป็นของร่างกาย โดยการรณรงค์มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักการบริโภคเค็มในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดการรับรู้และยอมรับคำว่า “ลดเค็มครึ่งหนึ่ง” ในกลุ่มผู้บริโภคคนไทย
การผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ เพื่อให้เกิดมาตรการหรือกลไกที่ช่วยลดการบริโภคเค็ม โดยร่วมกับคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ และคณะกรรมการอาหารและยา ในการออกฉลาก “สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ”เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปค่อย ๆ ปรับลดปริมาณโซเดียมที่ใส่ลงไปในอาหาร ส่งผลให้ผู้ผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไปและอาหารกึ่งสำเร็จรูปประเภทข้าวต้ม โจ๊ก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย ที่จำหน่ายในไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2561-2565 ปรับสูตรอาหารลดปริมาณโซเดียมลงร้อยละ 11.6 และมีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.5 เป็นร้อยละ 21.1 ใน พ.ศ. 2565 รวมทั้งขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมอาหาร โดยการปรับลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแบบภาคสมัครใจ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีจากการบริโภคเกลือและโซเดียมลดลงร้อยละ 30 ภายในปี 2568
การสนับสนุนให้ยุทธศาสตร์การลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ โครงการชุมชนลดเค็ม , โครงการโรงพยาบาลเค็มน้อยอร่อย 3 ดี , การขยายผลนำใช้ CHEM Meter เพื่อใช้ในการรณรงค์และป้องกันโรค NCDs ในระดับชุมชนและ NCDs Clinic
จากมาตรการ/นโยบายต่างๆ ที่ สสส. ร่วมกับ เครือข่ายลดการบริโภคเค็ม รณรงค์ขับเคลื่อนมาตลอดระยะเวลา 10 ปี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการบริโภคโซเดียมของคนไทยเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น จากปี 2552 ซึ่งคนไทยบริโภคโซเดียมมากถึง 4,351.69 มิลลิกรัมต่อวัน ลดลงอยู่ที่ 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน ในปี 2562
ด้าน น.อ.หญิง พญ.วรวรรณ ชัยลิมปมนตรี เลขาธิการเครือข่ายลดบริโภคเค็ม กล่าวถึง“การจัดงานนิทรรศการครบรอบ 10 ปีเครือข่ายลดบริโภคเค็ม” ว่าในส่วนของการจัดงานนิทรรศการครบรอบ 10 ปี เครือข่ายลดบริโภคเค็ม ภายใต้
คำขวัญ “เค็มน้อย อร่อยได้” จะจัดในวันที่ 4-6 ธันวาคม 2566 เวลา 10.30-16.30 น. ณ Zone Eden ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยไฮไลน์ในงานนี้ ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, รศ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส., Dr. Jos Vandelaer ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทยและผู้มีเกียรติ ผู้ทรงคุณวุฒิ อีกหลายท่าน มาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ โดยกิจกรรมหลัก ๆ จะมีการจัดนิทรรศการ การจัดกิจกรรมบนเวทีประกวดเมนู “ส้มตำเค็มน้อย อร่อยได้” โดยดาราและ Influencer ที่มีชื่อเสียง , การเสวนาในหัวข้อที่มีสาระสำคัญ ในแต่ละช่วงแต่ละวัน อาทิ เช่น เรื่อง “โซเดียมเกินไป โรคภัยใกล้ตัว”, โซเดียมเพชฌฆาตร้าย ทำลายสุขภาพ, Healthy Family โดย คุณพีท ทองเจือและลูกสาว, หรือกิจกรรม Exercise Workshop :ออกกำลังถูกวิธี กินดีปลอดโรค โดย คุณแอน ทองประสมและโค้ช เชอรี่ ,ชมการสาธิตการปรุงอาหารเมนู เค็มน้อย อร่อยได้ และการแสดงดนตรีสด ในแต่ละช่วง อื่น ๆ อีกมากมาย
การจัดงานในครั้งนี้ ขอเชิญประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในงานมีการเปิดบูธอาหารลดเค็มและอาหารเพื่อสุขภาพหลากหลายเมนู และเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงาน ได้ชิมและชม พร้อมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพในหลากหลายเมนูพร้อมกับนักโภชนาการและพันธมิตรผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังมาร่วมงานกันมากมาย