จุดจบ “รัฐบาล ๓ อา” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

หนัง “สัปเหร่อ”
ของ “ต้องเต-จักรวาลไทบ้าน” ฉายกี่รอบๆ เนื้อหาคงเดิม
ผิดกับ “สัปเหร่อ” ซอฟต์ เพาเวอร์ของ “เศรษฐา-เพื่อไทย”
ตอนหาเสียง….
กลิ่นสาบสางรับประกัน “สัปเหร่อ” แท้ ครั้นเลือกตั้งเสร็จ ได้เป็นรัฐบาล เอามาฉายอีกที
อ้าว…จาก “สัปเหร่อ” กลายเป็น “สับปลับ” ไปซะงั้น!

“แจก ๑ หมื่น” ผ่าน “ดิจิทัล วอลเลต” นั่นน่ะ
เมื่อวาน (๑๐ พย.๖๖) เศรษฐาแถลง “ปิดกล้อง” หรือ “ปิดฉาก” ก็คงครือกัน

จาก “ลำไม้ไผ่” กลายเป็น “บ้องกัญชา” ไปหน้าตาเฉย!
ระดับบ้านๆ อย่างเรา ต่อให้ฟังแถลงร้อยครั้งก็ มึนตึ๊บ

จะไม่มึนไงไหว เพราะฟังดูแล้ว คนร่างข้อความให้นายกฯ อ่าน คงดำน้ำร่าง นายกฯ ก็ดำน้ำอ่าน

เนื้อหาจึงออกสไตล์ “ผีผ้าห่ม” ผลุบๆ โผล่ๆ คลุมๆ เครือๆ เจือด้วยลีลาอักษรเทวนาครีและภาษากระยาสารท มากกว่าเศรษฐศาสตร์การเงิน-การคลัง

ตอนหาเสียงละก็…แหม คิดใหญ่ ทำเป็น คิดมาดีแล้ว ทำได้ทันที แจกถ้วนหน้า ๑๖ ปีขึ้นไป ได้หมดคนละ ๑ หมื่น ๕๖ ล้านคน รวม ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท GDP โตพรวด ๕% ทันที”

ชาวบ้านก็..เฮเฮเฮเฮเฮ ….
เทวดาจากฟ้าชั้น ๑๔ ส่งเทวทูต “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” เป็นตัวแทนลงมาโปรดแล้ว!

แต่เมื่อวาน พอได้ยินเทวทูตเศรษฐา อินโทรว่า… “ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้จำเป็นต้องปรับเงื่อนไข…” เท่านั้นแหละ

หน้าที่กำลังบาน ๑ หมื่น ๑ หมื่น
จ๋อยเป็นดอกกระเจียวเหี่ยวแดดไปทันที มีอาการไม่ต่างกินขนมจีนไป ๗ จับ แล้วแจวเรือไปนอนจุกอยู่ข้างกอลำเจียก ยังไงก็ยังงั้้น!

ฟังแค่คำว่า “ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป”
“สัปเหร่อ” ยังไม่จบ แต่ “สับปลับ” จบเลย!

เหมือนสมัยจอมพลสฤษดิ์ วันไหน ดูโทรทัศน์ จู่ๆ มีเสียงแอ้นแอ๊นนนคั่น ตามด้วยประโยคว่า “….ด้วยเป็นที่ประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า…”

จบเลย!

เป็นอันรู้กัน “จอมพลสฤษดิ์” ใช้ ม.๑๗ สั่งยิ่งเป้า พวกเผาบ้าน-เผาเมือง

นี่ก็ทำนองนั้น เรื่อง แจก ๑ หมื่น “ได้หมดสดชื่น” ที่พูดตอนหาเสียง
แต่ตอนจะทำ ๑ หมื่น “มีได้-มีอด” ไม่สดชื่นซะแล้ว!

ผมขี้เกียจเป็นปลาฮุบเบ็ดให้เศรษฐาเย่อ

สรุปประเด็นหลักที่เพื่อไทยผูกเป็น “เงื่อนกระตุก” ไว้เพื่อพริ้วเอาตัวรอดในขั้นต่อไปเลยดีกว่า

ที่บอกไม่กู้นั้น สรุป เพื่อไทยหมดทางหาเงินตามโม้ จำเป็นต้องใช้สถานะรัฐบาล ออกพรบ.เงินกู้ ๖๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งจะได้-ไม่ได้ อยู่ที่รัฐสภาจะให้หรือไม่ให้!

และตามแผน รัฐบาลจะเฉือนงบประมาณแต่ละปี รวม ๔ ปี ไปจ่ายคืนให้ คือ “อัฐยายซื้อขนมยาย” ทำนองนั้น

แล้วที่โม้ไว้ จะทุ่มโครมทีเดียว ๕.๖ แสนล้าน “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ให้มันโตภายใน ๖ เดือน
เอาเข้าจริง กลายเป็น “จุดไฟใส่บ้องกัญชา” ไปเรียบร้อย!

แต่ข้อสำคัญคือว่า รัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” จะอยู่ได้ถึง ๔ ปีเรอะ?

จากคนที่จะได้รับแจก ๑ หมื่นบาท ๕๔ ล้านคน ตอนนี้เหลือ ๕๐ ล้านคน วงเงิน ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท

ส่วนอีก ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท จากยอดกู้ ๖ แสนล้าน อ้างว่าจะเอาไปใช้ต่อยอดอุตสาหกรรมใหม่ (อิหยังวะ?)

แถลง (ความจริงอ่าน) “วกไป-วนมา”
หลอกให้คนหน้าโง่หัวหมุน-ตาลาย แล้วเศรษฐาก็สรุปรายการ “กู้มาจาก ๖๐๐,๐๐๐ ล้านบาท” นั้น ด้วยประโยคว่า

“เรื่องที่ว่า จะได้ใช้เมื่อไหร่ Time line เป็นยังไง …..

โครงการ Digital wallet จะใช้ระยะเวลา “ตีความ” โดยกฤษฎีกาและกระบวนการกฎหมายช่วงปลายปีนี้ นำเข้าสู่สภาช่วงต้นปีหน้า

จัดเตรียมงบประมาณและเปิดให้ประชาชนได้ใช้ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปีหน้า….”

โธ่ เวร…
นี่มันเตรียมโจนหนี ไม่ใช่เตรียมแจกแล้วหละ!

“คีย์เวิร์ด” มันฟ้องตรงว่า….
“ทั้งหมดนี้” ต้องรอกฤษฎีกาตีความก่อนว่า “ทำได้หรือไม่ได้”?!

ก็ชัดว่า แผนแจกที่เอามาแถลงนี้ ยังเป็น “ขี้คาไส้” อยู่เลย
และยิ่งห่างไกลว่าจะได้รับแจกกัน เพราะการออกพรบ.กู้นั้น ต้องผ่านรัฐสภา
มันไม่ง่ายเหมือนหนีผ่าน “ช่องหมาลอด” หรอก!

ยิ่งเป็นพรบ.การเงินด้วย เผลอๆ รัฐบาลต้องออก”!

ดังนั้น ผมฟันครึ่งธงไว้เลยว่า…
โครงการนี้ “ตายทั้งกลม” ไม่ผ่านทั้งขั้นกฤษฎีกาและขั้นรัฐสภา!

สส.คือฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อเป็นฝ่ายรัฐบาล ไม่รู้ก็ต้องต้องรู้กฎหมาย ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๐ บอกโต้งๆ ไว้แล้ว ว่า

“การจ่ายเงินแผ่นดิน จะกระทำได้เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

หรือกฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง หรือกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ

เว้นแต่ในกรณีจำเป็นรีบด่วนจะจ่ายไปก่อนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ

ในกรณีเช่นว่านี้ ต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายชดใช้ในพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายหรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณถัดไป”

แล้วการกู้มาแจกตามสัญญาหาเสียงแบบนี้

“กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ” มีมาตราไหนบอกให้ทำได้…หือ?

ทั้ง “พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ” หมวดว่าด้วย “การก่อหนี้และการบริหารหนี้” มาตรา ๔๙,๕๒ และ ๕๓ ระบุว่า

มาตรา ๔๙ การก่อหนี้และการบริหารหนี้สาธารณะและหนี้ของหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามกฎหมายและอยู่ภายใต้ขอบวัตถุประสงค์และอํานาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐผู้กู้

ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของประเทศและของหน่วยงานของรัฐ โดยต้องกระทําด้วยความรอบคอบ และคํานึงถึงความคุ้มค่า ความสามารถในการชําระหนี้ การกระจายภาระการชําระหนี้ เสถียรภาพและความยั่งยืนทางการเงินการคลัง

ตลอดจนความน่าเชื่อถือของประเทศและของหน่วยงานของรัฐผู้กู้

มาตรา ๕๒ การกู้เงินของรัฐบาล และการค้ำประกันการชําระหนี้ของหน่วยงานของรัฐโดยรัฐบาล
ให้ปฏิบัติตามที่บัญญัติในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะโดยเคร่งครัด

การก่อหนี้ของหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรา ๔๙ รัฐบาลจะค้ำประกันการชําระหนี้นั้นไม่ได้

มาตรา ๕๓ การกู้เงินของรัฐบาลนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ
ให้กระทรวงการคลังกระทําได้ ก็แต่โดยอาศัยอํานาจตามกฎหมายที่ตราขึ้นเป็นการเฉพาะ

และเฉพาะกรณีที่มีความจําเป็นที่จะต้องดําเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจําปีได้ทัน

กฎหมายที่ตราขึ้นตามวรรคหนึ่ง
ต้องระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดําเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้นั้น

เงินที่ได้รับจากการกู้เงินตามวรรคหนึ่ง
ให้กระทรวงการคลังเก็บรักษาไว้เพื่อให้หน่วยงานของรัฐเบิกไปใช้จ่ายตามแผนงานหรือโครงการตามที่กฎหมายกําหนดได้โดยไม่ต้องนําส่งคลัง เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

เนี่ย….
เท่าเนี้ย รัฐบาลเพื่อไทย มันก็ “จบแล้วนาย”!

ถ้าดันไปมี ๒ ทาง
๑.ถูกคว่ำ
๒.ติดคุก

ฉะนั้น ใครที่แถกเหงือกรอแจก หุบเหงือก แล้วเถลือกไถลก้มหน้าทำมาหากินต่อไป

เพราะที่ “คิดใหญ่-ทำเป็น” กลายเป็น “คิดใหญ่-ตายโคม” แหงแก๋!

ตอนรัฐบาลประยุทธ์ กระแนะ-กระแหนกันจัง “รัฐบาล ๓ ป.” อย่างนั้น-อย่างนี้

แล้วตอนนี้เป็นไง?
“รัฐบาลเพื่อไทย” ๑ ทำเนียบ ๒ นายกฯ!

กรีดกรายออกว่าราชการคู่กัน ทั้งนายกฯ เศรษฐา ทั้งนายกฯ แพทองธาร
ยังไม่ต้องพูดถึง “พ่อของพ่อนายกฯ” ที่กั้นม่านบัญชาการอยู่บนสวรรค์ ชั้น ๑๔ อีกหนึ่ง!

เป็น “รัฐบาล ๓ อา. แทนที่ ๓ ป.ซะแล้วมั้ง?
คือ “อาเพศ, อาถรรพณ์, อา..วสาน” ประมาณนั้น!

สรุป….
ทั้งหมดนี้ “ทำได้-ไม่ได้” ต้องรอ “กฤษฎีกาตีความ” ก่อน

และจำได้มั้ย เมื่อ ๗ เมย.๖๖ นายแสวง บุญมี เลขา กกต.พูดถึงเรื่อง “แจกเงินดิจิทัล” ของเพื่อไทยไว้ว่าไง?

นายแสวงบอกว่า….
“ตามแผนที่เพื่อไทยแจ้งไว้ต่อกกต.เป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน หากได้ไปเป็นรัฐบาล นโยบายลักษณะนี้จะไม่ผิดกฎหมาย “สัญญาว่าจะให้”

นโยบายที่จะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ คือ “การใช้เงินที่ไม่ใช่เงินของแผ่นดิน”
แล้วการออกพรบ. “กู้เงินมาแจก “มันใช่เงินของแผ่นดินซะที่ไหนล่ะ”?

เปลว สีเงิน

๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

Written By
More from plew
ผู้พิพากษา “พิพากษา” รัฐบาล
“เป็นกำลังใจให้จีน สู้..สู้” สำหรับพวกเราคนไทย……. ยามนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าช่วยกันส่งแรงใจไปให้พี่น้องจีนที่กำลังเผชิญไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ค่อนข้างเดียวดายขณะนี้
Read More
0 replies on “จุดจบ “รัฐบาล ๓ อา” – เปลว สีเงิน”