15 กันยายน 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลว่า
เป็นเรื่องภายในของพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความเห็นไปแล้วว่าผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคที่มี สส. มากที่สุดในฝั่งของฝ่ายค้าน และเมื่อมีการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนายพิธา คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปก็จะต้องเป็น สส. เพราะจะได้ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านได้
ในส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 เชื่อว่าจะมีการลาออกในอีกไม่นานนี้ เพื่อให้พรรคก้าวไกลมีหัวหน้าพรรคที่มีหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ คือจะต้องไม่มี สมาชิกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฏร หรือรองประธาน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 ที่ได้กำหนดไว้ว่า ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด และสมาชิกมิได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ส่วนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ก็ยังมีเรื่องของคดีที่ได้กระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ฐานโฆษณา ม.43 ก็จะไปผูกโยงที่จะต้องถูกตรวจสอบในเรื่องจริยธรรมต่อไป แม้มีการลาออกจากตำแหน่งรองประธาน แต่คดีจริยธรรมก็ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ก็เป็นเรื่องของเสียงข้างมากฝ่ายรัฐบาลที่จะเลือกใครมาดำรงตำแหน่งในส่วนนี้