สันต์ สะตอแมน
“9 ปี 4 เดือนของประยุทธ คือวิบัติความเจริญมั่งคั่งของชาติไทย คสช คือสิ่งโสโครกโรคร้ายของขาติไทย”
นี่..รองศาสตราจารย์ ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์
ซึ่งก็แน่นอนว่า จากสายตา-ความรู้สึกนี้ ย่อมต้องถูกถ่ายทอดไปสู่นิสิต-นักศึกษาที่เรียน “คณะรัฐศาสตร์” ของม.รังสิตด้วย ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
แต่ผมก็มีความเชื่อลึกๆ อยู่ว่า นิสิต-นักศึกษา อาจจะไม่ได้มองอย่างที่อาจารย์ท่านนี้เห็นและอาจไม่ได้รู้สึกว่า..
9 ปี 4 เดือนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือวิบัติความเจริญมั่งคั่งของชาติไทย และคสช. คือสิ่งโสโครกโรคร้ายของขาติไทย ไปเสียทั้งคณะ!
เพราะถ้ามีใจเป็นธรรม-เป็นกลาง ไม่ได้หลงรักพิธา-พรรคก้าวไกลแบบหัวปักหัวปำ และ “หัวเกียง” แล้ว..
ก็..เห็นอยู่ตำตา 9 ปี 4 เดือนของนายกฯ ลุงตู่นั้น ได้ทำอะไรที่บ่งบอกถึงความเจริญมั่งคั่งของชาติไทยบ้าง?
ผมไม่ขอให้อาจารย์ท่านนี้ “ล้างแว่น” หรอกนะ เพราะต่อให้สะอาด-ใสแค่ไหน-อย่างไร แต่หากใจยังมืดบอด ก็ป่วยการ!
อย่างไรก็ตาม หากขอได้ ก็อยากขอ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ให้ช่วยปรามๆ เหล่าอาจารย์ด้อมส้ม ผู้ฝักใฝ่-สนับสนุนพรรคก้าวไกล..เบาได้ เบาลงหน่อย เถอะ!
เอ้า..ส่วนนั่นดูจะหนักหนาสาหัส ไม่งั้นน้องบอย-ธิติพร จุติมานนท์ กูรูข่าวบันเทิงช่อง ONE ไม่โพสต์รัวๆ..
“ทีวีไทยเข้าขั้นวิกฤต ละครรีรันเกือบทุกช่องเพื่อลดต้นทุน ช่องใหญ่ลดเวลาละครครั้งแรกตั้งแต่เมืองไทยมีโทรทัศน์ ตอนนี้คนทีวีหนีตายเพราะอะไร?”
“ดาราไทยกำลังตกงาน ล่าสุดละครลดการผลิต รายการทีวีขอลดค่าตัวดาราหันไปหาอาชีพใหม่หนีตายแล้ว ไม่ดังอยู่ยาก เรื่องเยอะก็ไม่จ้าง”
“ดาราไทยมูลค่าการตลาดสูงลิ่ว ค่าตัวแพงสวนทางคุณภาพ พัฒนาแค่เรื่องหล่อสวย แต่ขาดความยั่งยืนเรื่องฝีมือ หรือจะเรียกว่ามีตัวจริงไม่กี่คนก็ได้”
ครับ..2 โพสต์ 2 ข้อความแรกนั้น เชื่อมโยงกัน และคำตอบก็น่าอยู่ที่ “โฆษณา” ที่เห็นๆ กันอยู่แทบทุกช่อง-สถานีต่างขาดแคลนอย่างหนัก
เมื่อหาสปอนเซอร์ได้ยาก สถานีจึงจำเป็นต้องลดต้นทุน และการลดต้นทุนที่ดีที่สุดก็คือ การนำละครเก่ามารีรันใหม่ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของผู้กำกับ ดารา-นักแสดงแต่อย่างใด
ประเด็นนี้ อดีตดาราระดับพระเอก-นางเอกเคยออกมาต่อสู้-เรียกร้องสิทธิ์ พร้อมขอความเป็นธรรมกับสถานี แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความเห็นใจอย่างใดไม่..
หนำซ้ำ นักแสดงที่ร่วมออกมาเรียกร้องนั้น ได้ถูกกาหัว-หมายตาจากช่อง..ขืนทำตัวมีปัญหา ก็จะถูกตัดหาง ไม่ป้อนละครให้เล่นอีกต่อไป แต่ละคนก็เลยเงียบ!
การลดเวลาละคร ก็เป็นอีกทางรอดหนึ่งของการลดต้นทุน ซึ่งค่ายใหญ่ที่ว่านี้ (น่าจะหมายถึงช่อง 7) คงเล็งเห็นว่ารายการที่ผลิตใหม่ ไม่ว่าจะ “มวย ONE ลุมพินี” ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมสูง..
สินค้า-โฆษณาให้การสนับสนุน ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเวลาให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจมากที่สุด ซึ่งก็พอดีกับความนิยมคนดูละครเริ่มแผ่ว จึงได้ลดเวลาละครลง!
ผลกระทบจึงตกไปถึงผู้ผลิตที่ต้องปรับลดค่าตัวนักแสดงลงตาม ตอนนี้ดาราเลยพากันตกงาน ยิ่งประเภทเรื่องเยอะยิ่งเข้าทางผู้ผลิต-ผู้กำกับฯ ที่จะปฏิเสธ-ไม่จ้างให้ต้องรำคาญใจ!
ส่วนที่น้องบอยว่า.. “ดาราไทยมูลค่าการตลาดสูงลิ่ว ค่าตัวแพงสวนทางคุณภาพ พัฒนาแค่เรื่องหล่อสวย แต่ขาดความยั่งยืนเรื่องฝีมือ หรือจะเรียกว่ามีตัวจริงไม่กี่คนก็ได้”
นับว่า..รู้ถึงไส้-ถึงพุง ผมเองก็มองเห็นเป็นเช่นนี้ และเหตุที่ต้องหันไปดูหนัง ดูซีรี่ส์ในเน็ตฟลิกซ์ ก็เพราะเบื่อ-รำคาญตา..
ดาราสวย-หล่อค่าตัวแพง แต่ฝีมือการแสดงห่วยนี่แหละ!