สันต์ สะตอแมน
ดาราสมัยนี้หากันง่าย-เป็นกันง่าย!
ดูอย่าง “ลิลลี่ เหงียน” สิ เป็นใครไม่รู้ แต่โผล่หน้าออกรายการ “โหนกระแส” ของคุณหนุ่ม กรรชัย ปุ๊บ..
คุณพชร์ อานนท์ ผู้กำกับที่อดีตเป็น “แมวมอง” เบอร์ต้นๆ ของวงการ ที่กว่าจะคว้าเด็กหนุ่มหน้าตาดี หรือสาวหน้าตาสวย มีพรสวรรค์-มีความสามารถมาปั้นเป็นดาวแต่ละคนได้..
ต้องใช้ความอุตสาหะ พินิจพิจารณาอย่างถ้วนถี่ แต่ตอนนี้แค่เห็นหน้า-เห็นพฤติกรรม “ลิลลี่” ก็รีบประกาศจองตัวผ่านเฟซบุ๊กปั๊บ!
“งั้นพี่จองตัวเลยนะจะเอามาลงหนังเรื่องโคกะโหลก อยากได้ตัวละครที่ก๋ากั่นอยู่พอดี เดี๋ยวติดต่อผ่านพี่หนุ่มดีกว่า พี่หนุ่มเป็นคนปั้นหนูเลยนะเนี่ย..”
จากนี้..ลิลลี่ สาวสายเลือดลาว-เวียดนาม ก็จะได้ชื่อเป็น “ดารา” อีกคนของวงการบันเทิงไทย!
และต่อไปอาจมีหนุ่ม-สาวพม่า ที่ทะลักเข้ามาทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย ได้เข้ามาเป็นดาราบ้างก็ได้ หากใจกล้า ก๋ากั่น หรือทำตัวให้เป็นข่าวดังไม่ว่าจะในด้านบวกหรือลบ!
นี่..เห็นต้องขอขอบคุณจากใจ เปล่าไม่ได้ขอบคุณคุณพชร์ที่ปั้นดินให้เป็นดาว หากแต่ “ขอบคุณ” คุณครูมานิตย์ สังข์พุ่ม คนปักษ์ใต้ ที่ได้ไปเป็น “ผู้แทน” ของชาวเมืองสุรินทร์นู่น!
ที่ขอบคุณก็ด้วยในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 (2) เกี่ยวกับการลงโทษเด็ก
โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.พรรคก้าวไกล และคณะเป็นผู้เสนอ ซึ่งคุณครูมานิตย์ ได้อภิปราย (ขออนุญาตคัดจากผู้จัดการออนไลน์) ว่า..
“ตนอยากเล่าเรื่องจริง ที่ตนเหนือกว่าคนอื่นในห้องนี้ เพราะตนเป็นครูและพ่อ การศึกษาไทยที่ล้มเหลวในปัจจุบันมีองค์ประกอบหลายอย่าง
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ล้มเหลว ในวันที่ตนเป็นครูชนบท เพราะเราตีเด็กไม่ได้..ทำอะไรก็ไม่ได้ ผู้ปกครองตามไปด่า ตามไปว่าถึงโรงเรียน
ผมตีเด็กครั้งสุดท้าย เด็กเรียกผมว่าครูเสือ เพราะตอนนั้นไว้หนวดไว้เครา เด็กผู้ชายขึ้นไปบนห้องน้ำส่องนักเรียนหญิง เด็กนักเรียนหญิงก็ร้องออกมา ก็เลยลงโทษด้วยการเฆี่ยนตี
พ่อแม่มาโรงเรียนเลยครั้งนั้น เลยสาบานตัวเลยว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่ตีเด็ก มันเจ็บปวดมากครับ..เมื่อครูไม่ใส่ใจ ไม่ทำตัวเป็นพ่อ ไม่อบรมลงโทษ มันก็ล้มเหลวมาจนถึงทุกวันนี้..
ตอนตนเป็นคณะกรรมาธิการการศึกษา เคยเรียกร้องให้คืนไม้เรียวมาให้ครู เพราะที่นี่ประเทศไทย..เรื่องการด้อยค่านี้มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว ตนเห็นด้วย
และไม่ห้ามที่จะไม่ให้แก้กฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้ประเทศไทยดูอินเตอร์ มีกฎหมายที่ทันสมัย แต่ตนก็ดูแล้ว ไปผูกพันกับหลายกระทรวง ต้องดูความรอบคอบ
วันนี้ยังเร็วไปที่ไปแก้กฎหมาย ตนไม่อยากเห็นเด็กไทยขึ้นโรงพักแล้วไปแจ้งความพ่อแม่ เรื่องละเอียดอ่อนควรจะคิดและบูรณาการ
รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี คำโบราณไทยที่ทำให้เราได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้ เราถึงได้เป็นบัวพ้นน้ำขึ้นมา ไม่เช่นนั้นวันนี้ผมก็ยังจมน้ำอยู่ครับ เพราะเราก็ดื้อเอาการเหมือนกัน
ท่านประธานก็ไม่เบาถ้าไปสืบประวัติมา แต่เราโดนครูสั่งสอน เพราะครูก็รักนักเรียนเหมือนลูก”
ครับ..ก็อยากจะขอบคุณต่อหน้าตัวเป็นๆ เพราะพูดได้แรงอก-โดนใจ และไม่คิดว่าผู้แทนคนไหนจะกล้าอภิปรายหรือพูดในเรื่องที่เสียคะแนนนิยมจากเด็ก-เยาวชน..
“ไม้เรียวสร้างคน” ใครไม่เชื่อ..ผมเชื่อ!.
