บันทึก “จากใจลูกน้อง” – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…⬇️

เปลว สีเงิน

วันนี้ ๑ กันยายน ๒๕๖๖
TW@WassanaNanuam โพสต์ ดังนี้
ฤกษ์….อำลา บ้านนรสิงห์ บ่าย 2 กลางแดดเปรี้ยง
จบที่ 14.04 น. 31 สค.2566
ขามา 09.09 น.
“บิ๊กตู่” ยกมือไหว้ องค์นรสิงห์
ก่อน ออกจากทำเนียบฯ
น้ำตาคลอ
โดยมี ทีมงานตึกไทยคู่ฟ้าและข้าราชการ รวมทั้ง FC ยืนเรียงราย แถวส่ง จนออกประตู
นักข่าว วิ่งกรู ตามติด!!
…………………………..
ครับ….
“ลุงตู่” ไปแล้ว ทำเนียบไม่ร้าง แต่ใจคนอยู่คือ “ข้าราชการทำเนียบ” แล้งและแห้งโหย!

บอกตรงๆ ตั้งแต่นมแตกพาน จนวัยยานเหี่ยว เขียนคำว่า “ทำเนียบรัฐบาล” ผ่านนายกฯ ๒๐ กว่าคน ก็เป็นพันๆ ครั้ง
แต่ไม่เคยเหยียบเข้าไปทำเนียบรัฐบาลเลยซักครั้ง!

เลยบอกไม่ถูกว่า ที่ทำเนียบรัฐบาลมีคนทำงานอยู่มาก-น้อยเท่า-ไหร่?
เพิ่งรู้ ว่ามีค่อนพัน!

เพราะแต่ละนายกฯ ที่ผ่านมา ทั้งไปดี และไปไม่ดี
ไม่มีซักรายที่เกิดภาพ “น้ำตาท่วมทำเนียบ” ด้วยรักจากคนอยู่ ที่กรูออกมาส่ง และด้วยคนไปใจผูกพัน อย่างราย “นายกฯลุงตู่” เมื่อวาน

ผมเห็นภาพบรรยากาศแล้ว ไม่ตกใจ
แต่ตื่นใจ…….

ทั้งข้าราชการทำเนียบ ทั้งรัฐมนตรี ทั้งนักข่าวทำเนียบ มาส่งลุงกัน ชนิดไม่เคยเห็น-ไม่เคยปรากฎ กับนายกฯ คนไหนๆมาก่อน ว่าจะมากมายได้ขนาดนั้น!?

ยามอยู่ เหมือนชังหน้า ยามจากลา ถึงรู้ว่ารัก

ไม่ได้รักลุงตู่
ทุกคน “รัก” ความดี และ ๙ ปี ที่ลุงตู่ทำ

“ความดี” เหมือนดอกไม้ป่า เป็นปีๆ ถึงจะผลิดอก และเป็นปีๆ จะมีคนดั้นด้นไปพบ เด็ดแซมผม และนำมาบูชาพระบนหิ้ง

ไลน์ “แก๊งค์แม่หมอ”
เอา “บันทึกจากใจลูกน้อง สลน.” ที่มอบให้นายกฯ มาลงไว้ ยาว ๗-๘ หน้า ผมเอาลูกกะตาแคะ “บางตอน” ในแต่ละหน้ามาให้อ่านกัน ดังนี้

สำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง บันทึกจากใจลูกน้อง
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
จากใจลูกน้องกราบมอบท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
……………………….

หน้า ๒….
ตลอดระยะเวลา ๙ ปีที่ผานมานั้น เราได้ประจักษ์ชัดในแบบอย่างของผู้นำที่ทำหน้าที่ยืนหยัดด้วยความเสียสละ เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อราชบัลลังก์ ทุกลมหายใจโดยไม่คิดคำนึงเป็นห่วงตัวท่านเอง

หน้า ๓…..
เราได้เห็นทุกบทบาท หน้าที่ ของท่านนายกฯตลอดระยะเวลา ๙ ปีที่ผ่านมา
เรารู้ว่าท่านนายกฯ ทุ่มเท เสียสละกำลังกาย กำลังใจทุกอย่าง ที่ท่านจะสละได้

แม้แต่การเสียสละของภริยาและบุตรสาวทั้งสองของท่าน ที่สละสุขครอบครัว เพื่อให้ท่านนายกฯ ได้ไปทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองอย่างเต็มกำลัง

หน้า ๔….
ความเหนื่อยยากและความลำบากไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุดท่านนายกฯ จากภารกิจการดูแลประชาชน ไม่ต้องห่วงว่าท่านจะไม่ได้หยุดพักทานข้าว

เพราะท่านสามารถทานข้าวกล่องระหว่างนั่งฮ.หรือรถยนต์ อาหารก็แค่ข้าวผัดกะเพราหรือข้าวเหนียวเนื้อเค็มก็พอแล้ว

เวลาจังหวัดถามว่าต้องเตรียมอาหารอะไรให้ท่านนายกฯ สลน.เราก็จะบอกว่า
“ท่านนายกฯท่านง่าย ท่านสั่งไม่ให้สร้างภาระกับพื้นที่ จัดการต้อนรับท่านอย่างเรียบง่ายที่สุด ประหยัดที่สุด ไม่ให้กระทบการดำเนินวิถีชีวิตประชาชน ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน หรือต้องรอนาน”

ท่านนายกฯ ไม่กลัวแดด ไม่กลัวฝน แต่กลัวประชาชนรอ หลายครั้งที่ฝนตก ลมแรง ท่านก็เดินนำพวกเราฝ่าสายฝนขึ้นฮ. เพราะห่วงประชาชนมากกว่าห่วงตัวท่านเอง

หน้า ๕….
การต้อนรับแขกต่างประเทศที่เดินทางมาเยือนไทย เราได้เห็นสัมพันธภาพ-มิตรไมตรีอันใกล้ชิด แน่นแฟ้น จากผู้นำทุกท่าน ที่ได้มีโอกาสได้พบและได้พูดคุยกับท่านนายกฯ

โดยเฉพาะผู้นำประเทศอาเซียน ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับท่านนายกฯ ทุกประเทศ ส่งผลให้การเจรจาหารือข้อราชการ เป็นไปด้วยความราบรื่นและมีบรรยากาศดีทุกครั้ง

รวมถึงความสัมพันธ์ฝ่ายหญิง คือภริยาท่านนายกฯกับภริยาผู้นำ ก็มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นกันมาก

พวกเราเคยวิเคราะห์กันว่า เป็นเพราะความจริงใจที่ท่านนายกฯ มีต่อผู้นำทุกคน และ charisma ที่สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้ท่านนายกฯ ได้รับความยอมรับและเชื่อมั่นจากผู้นำทุกคนในเวทีระหว่างประเทศ

หน้า ๖….
ห้องทำงานนายกฯ ที่รัฐสภา ถูกใช้หลายครั้ง ในโอกาสแถลงงบประมาณ อภิปรายไม่ไว้วางใจ อภิปรายทั่วไป ฯลฯ

สิ่งที่เหมือนกันทุกครั้งคือ กระเป๋าเอกสารที่หนักอึ้งด้วยเอกสารที่ท่านนายกฯ เตรียมมาจากบ้านด้วยตนเอง พร้อม note กระดาษ A 4 หนาหลายหน้า เขียนด้วยลายมือท่านเอง

หน้า ๗….
ท่านนายกฯ ยึดความเป็นธรรม เท่าเทียม ไม่เลือกปฎิบัติ แม้เผชิญกับกลุ่มต่อต้าน แต่ท่านถือว่าทุกคนเป็นคนไทย ที่ท่านต้องดูแล

ท่านพูดเสมอว่ารักประชาชนเท่ากัน ท่านช่วยทุกคน โดยไม่ได้ช่วยเฉพาะคนรัก

ยามตรวจเยี่ยมน้ำท่วม ท่านไม่เคยสั่งทหารไม่ให้ไปช่วยคนที่ต่อต้านหรือคิดร้ายต่อท่าน
เพราะท่านถือว่า ทุกคนคือประชาชนที่ท่านต้องมีหน้าที่ดูแล

เคยมีผู้ว่าราชการจังหวัดท่านหนึ่งแอบเล่าด้วยความประทับใจว่า หลังจากท่านนายกฯ ผ่านกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนว่าท่านอย่างรุนแรง หยาบคาย

แต่ท่านนายกฯ กลับเรียกผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นมาสั่งการ
“ให้ดูแลพวกเขาดีๆ อย่าไปทำอะไรพวกเขา”

ผู้ว่าราชการจังหวัดท่านนั้น สรุปด้วยคำว่า “ท่านนายกฯ เป็นคนใจดี เปี่ยมเมตตาจริงๆ”

ตลอดเวลา ๙ ปี ที่ผ่านมา คนสลน.ทั้งข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ บุคลากรกว่า ๖๐๐ ชีวิต

ร่มเย็นเป็นสุข ด้วยเหตุการณ์บ้านเมืองอันเป็นปกติสุข และด้วยการทำงานภายใต้ผู้นำที่เรารู้ว่าเปี่ยมด้วยคุณธรรม ความทุ่มเท เสียสละ และความจงรักภักดี

ดังนั้น ไม่ว่างาน สลน.จะหนักเพียงใด คนจะรู้เห็นหรือไม่ แต่เราทุกคนรู้ด้วยใจว่า เรากำลังทำงานสนับสนุนให้กับผู้นำที่มีแต่ความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง

ภารกิจด่วน ภารกิจสำคัญ ไม่มีคนทำ สลน.จึงพร้อมเสียสละทำทุกภารกิจ เช่น การจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดเชื้อไวรัสโคโรนา ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย อยู่เบื้องหลังท่านนายกรัฐมนตรี

หน้า ๘….
พวกเราบางคนอาจมีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดท่านนายกฯ และจำนวนมาก ก็อยู่ในกองที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
เช่น สำนักงานเลขาธิการ หรือศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

อาจไม่มีโอกาสได้พบเจอพูดคุยใกล้ชิดกับท่านนายกฯ แต่คนสลน.ทุกชีวิต ก็ตั้งใจทำงานด้วยศรัทธาท่านผู้นำ ที่เราพร้อมจะทุ่มเททำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ

เพราะรู้ว่า ผู้นำของเรากำลังเสียสละ เพื่อวางรากฐานแห่งอนาคตไว้ให้ลูกหลานของเราในวันข้างหน้าได้มีแผ่นดินถิ่นอาศัยอย่างมั่นคง และร่มเย็นเป็นสุข เฉกเช่นที่บรรพบุรุษรักษาและส่งมอบให้กับเรา

นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๗ จนถึงบัดนี้ เป็นเวลา ๙ ปีเต็ม มีสิ่งเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ที่ทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างวัฒนาสถาพร

และเราก็เดินมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองอีกครั้ง…..การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลตามครรลองวิถีที่ต้องเป็นไป

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตา ความไว้วางใจ
และโดยเฉพาะ การเป็นผู้นำแห่งการทุ่มเท เสียสละที่ท่านมอบให้ประเทศชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชนอย่างสุดหัวใจ

พวกเราทุกคน มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
ที่ได้เป็นลมใต้ปีกในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้กับท่านนายกฯ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา….นายกรัฐมนตรีที่สง่างาม มีผลงานมากที่สุดท่านหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ขอกราบคารวะด้วยความเคารพรัก และศรัทธาใน “ความดีและความเสียสละ” อันเป็นแบบอย่างที่คนทำเนียบรัฐบาล จะจดจำในใจเราตลอดไป

จึงกราบเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ
จากลูกน้องของท่าน…

ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง
และบุคลากรของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
…………………..

ชนะคน ชนะที่ใจ
อาวุธทำให้คนแพ้-คนชนะ
แต่ความดี มีแต่ชนะ ไม่มีแพ้
บ้านเมืองไม่ชนะตอนไหน “ความดี-ไม่มีแพ้” จะกลับมาตอนนั้น!

เปลว สีเงิน

๑ กันยายน ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
“ประเทศในสถานการณ์จริง”
ดูนักการเมือง-ข้าราชการและประชาชนบางกลุ่ม-บางพวกขณะนี้แล้ว “น่าหนักใจ” เพราะความ “ตระหนักรู้” ใน “สถานการณ์รวม” ในเรื่องภัยจาก “โควิด-๑๙” ยังมีน้อยกว่าการ “ยึดประโยชนตัวเอง” เป็นที่ตั้ง
Read More
0 replies on “บันทึก “จากใจลูกน้อง” – เปลว สีเงิน”