บรรจบที่ “รัฐธรรมนูญใหม่” – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ..⬇️

เปลว สีเงิน

วันนี้ ๑๒ สิงหาคม
เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
และ “วันแม่แห่งชาติ”
กราบแทบเบื้องพระยุคลบาท ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
มีพระพลานามัยแข็งแรงเป็นแก่นรากร่มโพธิ์-ร่มไทรของมวลพสกนิกรไทยยั่งยืนยาวนาน
ด้วยเกล้ากระหม่อม ขอเดชะ
……………………………………
ครับ วันนี้ เป็นวันมิ่งมหามงคลของปวงชนชาวไทย ขอนำเรื่องเบาสบาย ว่าด้วย “ตั๋วปารีส” ไปดู “โรม” กันให้ทะลุซักวัน

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องโรม
ให้ “แมวของ Headache” เป็นไกด์ดีกว่า เพราะเขาได้สัมผัส “โรม” ด้วยตัวเองมาแล้ว อ่านนะ
…………………………….

แมวของ Headache ?
@headachestencil

เป็นเวลาสักพักและน่าจะเพียงพอแล้วที่ให้คนได้ตกผลึกกับชื่อที่ถูกเรียกว่า “ตั๋วปารีส” ที่โผล่ขึ้นมาในสังคม

ผมยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ได้มีขบวนการวางแผนมาให้ผมเปิดเผยเรื่องราวเพื่อด้อยค่าคนที่ดูเหมือนจะสะอาดที่สุด

แต่มันคือ “การตอบแทน” กับสิ่งที่ผมต้องใช้ตัวผมเองไป “ถือขี้ให้แทนขบวนการ” มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

ตั้งแต่วันที่ผม “เสือก” ไปพยายามชี้ให้เห็นการแบ่งเงินและแดกเงินของม็อบ จนผมต้องได้รับข้อความให้ “เงียบและอดทนเพื่อขบวนการเดินหน้าไปได้”

และวันนึง มันก็ถึงจุด “หมดความอดทน” จากการที่โดน “โฆษกพรรค” ของกลุ่มคนที่ควรจะปฏิบัติกับคนที่ต้องช่วย “เก็บความลับ” มากวนประสาทโชว์เก๋าเรียกเรทติ้ง แค่นั้นเอง

ผมยอมรับว่า จนถึงตอนนี้ ผมได้แต่ขำความโลกสวยของคนที่ยังเชื่อว่าคนเหล่านั้น ไปรวมกันเพื่อ “สัมมนาแลกกับเงิน” ที่ทำมาพูดออกข่าว ราวกับว่ามันเกิดขึ้นจริง

จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีการบอกว่าสัมมนาอะไร ทำไมผมโดนปฏิเสธวีซ่า แล้วถึงยังต้องดึงดันทำถึงขั้นออก “จดหมายปลอม” เพื่อให้ผมยังต้องไปอยู่ดี

แล้วขอโทษนะครับ ถามคุณนิคเจ้าของบ้านที่ชวนผมไปดินเนอร์แยกก่อนผมจะขอไปเที่ยวต่อที่อัมสเตอดัม

ดูด้วยนะครับว่า คุยอะไรกันไปบ้าง ก่อนจะออกมาตอแหล เถียงอะไรชุ่ยๆ แบบนั้น

อย่าไปอ้างอะไรเยอะเลยครับ อ่ะมา ผมจะเล่าให้ฟังแบบละเอียด เพื่อจะได้ไม่ต้องมาแถว่า ผมเล่าไม่รู้เรื่องอีก

ผมได้เงินมาจากคุณประมาณ 2-3แสนบาท ในวันที่ผมมีแสงส่องเต็มที่จากการทำงาน “นาฬิกาประวิตร” ในวันนั้น เพื่อไว้ไปจัดแสดงงานนิทรรศการครั้งแรกในชีวิต

ผมขอสปอนเซอร์ไปครับ ผ่าน “อาจารย์ปวิน”

โดยมีอีเมลยืนยันการขอเงินครั้งนี้อยู่ครบนะครับ แล้วคุณก็สนับสนุนผมมา

ระหว่างที่จัดงาน ได้มีสื่อจำนวนมากที่มาถ่ายและสัมภาษณ์ผมในวันนั้น ข่าวได้ออกไปทั่วโลก

แล้วระหว่างจัดงานอยู่ใกล้จะจบแล้ว ผมก็ได้รับคำเชิญจากอาจารย์ปวิน ให้เดินทางไปพบกับ “ผู้สนับสนุนเงินมาให้จัดงานจนเป็นบุญคุณ”

ในวันนั้น ไม่เคยรับรู้ว่า ต้องไปเพื่อสัมมนาอะไรทั้งสิ้น แถมไม่สามารถบอกได้ด้วยว่า จะให้ไปเจอใคร

เอาจริงๆ ไม่ได้คิดอะไรมากเลยครับ รู้สึกสนุกเสียด้วยซ้ำ อย่างกับหนังสายลับ โดยในตอนแรกผมได้รับจดหมายเชิญมาเพื่อให้ไปขอวีซ่าไปฝรั่งเศส

แต่ผมถูกปฏิเสธวีซ่าไปครับ ด้วยเหตุผลว่า “ที่อยู่ขององค์กรที่อยู่ในจดหมายไม่มีอยู่จริง”

(อีเมลพร้อบไฟล์แนบจดหมายก็ยังอยู่นะครับ และเรื่องนี้น่าจะไม่มีวันหายไปจากประวัติจนผมตายไปนั้นแหละ)

ซึ่งผมโกรธมาก เพราะมันจะถูกบันทึกไว้ในประวัติของผม และผมก็ตัดสินใจจะไม่บอกเรื่องนี้กับอาจารย์ปวินและไม่บินไปฝรั่งเศส

เพราะตอนนั้น ผมเริ่มขายงานได้และก็สนุกกับการ “กวนประสาทรัฐ” ผ่านงานศิลปะของตนเองแล้วด้วยซ้ำ

แต่เมื่อใกล้จะถึงกำหนดการที่จะต้องไปร่วมงาน เมื่ออาจารย์ปวิน รู้ว่าผมวีซ่าไม่ผ่าน และขอที่จะไม่ไปแล้ว
กลับถูกยืนยันว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมา”

แล้วก็ส่ง “จดหมายเชิญด้วยเหตุผลปลอม” ที่ออกมาจากศาสตราจารย์ใน “มหาวิทยาลัยบอนน์” ในเยอรมัน ให้ไปร่วมเกี่ยวกับศิลปะแทน ตามที่เห็นที่ผมเคยลงไปก่อนหน้านี้ นั่นแหละ

โดยให้ผมไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นกับทางเยอรมันแทน

ผมทราบดีครับ ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้น ว่าวีซ่าเชงเก้นใช้กับประเทศอะไรก็ได้ในยุโรปตามที่ถากถางกัน เหมือนผมไม่รู้

แต่คุณก็ยังเลี่ยงไม่ตอบสังคมกันอยู่ดีครับ ว่าสัมมนาแบบไหน ที่ศิลปินคนนึง ถูกปฏิเสธวีซ่าไปแล้วรอบนึง ถึงยังต้องดึงดันทำ “จดหมายปลอม” เพื่อให้ไปร่วมให้ได้

สัมมนาวิชาการแบบไหนกันหรอครับ ถึงเอาชีวิตและอาชีพของศาสตราจารย์คนนึงในเยอรมันมาเสี่ยงไปด้วยได้ง่ายขนาดนั้น

นอกเสียไปจาก “ศาสตราจารย์คนนั้น” จะเกี่ยวข้องด้วย

(ผมมาเห็นข่าวที่มีคนไปหาข้อมูลว่าศาสตราจารย์คนนี้เป็นใครก็ตกใจอยู่นะ)

เอาเป็นว่า สุดท้ายผมก็ได้วีซ่าเชงเก้นจากทางเยอรมัน ไม่ใช่ฝรั่งเศส และหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้รับตั๋วเครื่องบินผ่านทางคนขับรถคนเดียวกันกับที่เคยเอาเงินมาให้ถึงบ้านตอนสนับสนุนผลงาน

และก็ต้องรีบบินไปทันที เพื่อให้ไปถึงทันงานในปารีส แล้วอาจารย์ลืมไปแล้วหรอครับ ว่ามีสคริปท์ที่เตรียมไว้ให้ผมอธิบาย “ตม.ฝรั่งเศส” มากมาย

ถ้าถูกถามว่าทำไมถึงมาลงที่ปารีสแทน ทั้งๆ ที่ขอจะไปทำงานที่เยอรมัน สัมมนาธรรมดาแบบไหนหรอครับอาจารย์ ถึงต้องทำขนาดนั้น

ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยโกรธอาจารย์เลยนะครับ แต่พอเห็นออกมาพูดราวกะว่าทุกคนจะเชื่อ แถมมาแซะว่า ผมดีด ผมหลอน อะไรนั่นอีก

อาจารย์จะเป็นกะเทยรุ่นใหญ่มาจากไหนไม่ทราบนะครับ แต่การที่ลอยดอกออกสัมภาษณ์ตอแหลใส่คนอื่นได้แบบนั้น เพียงเพื่อให้ตัวเองและพวกรอด มันน่าสมเพชครับ

อยากให้อาจารย์ “ได้กลับบ้านไวๆนะครับ อยากจะได้เจอหน้าคนตอแหลในประเทศบ้านเกิดครับ
……………………………………………

แมวของ Headache
@headachestencil

สำหรับผม การไปพบสปอนเซอร์มันเป็นเรื่องปกติครับ อย่างที่ผมบอกเลยครับ ผมเป็นศิลปิน ผมจะไปขอเงินสนับสนุนใครมาทำงานศิลปะ ยังไงๆผมก็ไม่น่าจะผิด

แต่พอดีผมไปเจอคนที่จะ “ลงสมัครส.ส.” ที่ไปขอเงินทุนมาเตรียมตัวลงสมัครเลือกตั้งไงครับ แล้วเราก็ได้ก็ได้รู้จักกันครั้งแรกที่นั่น

หลังจากที่กลับมาจากปารีส ผมก็ได้ป่วนเมืองผ่านงานศิลปะ โดยมีสื่อคอยตามข่าวแทบจะทุกผลงานตลอด

(ตอนนี้ก็ตาสว่างเหมือนกันนะ ว่ามันมีสื่อที่แค่คลิกให้เลิกทำข่าวก็เลิกได้เลยเหมือนกัน)

ซึ่งต้องยอมรับว่าการทำงาน “ศิลปะการเมือง” มันทำให้เราอยู่ในจุดที่แทบจะไม่มีงานคอมมิชชั่นได้เลย เพราะไม่มีแบรนด์

ไหนๆ กล้าที่จะเอาตัวเองไปเสี่ยงในวันนั้น

ถ้ายังจำกันได้ ในวันที่ยังมี “ม.44” คนที่ลุกขึ้นมาสู้กะเผด็จการมันมีอยู่น้อยมากในวันนั้น แล้วผมจะมีรายได้จากไหน

นอกจากจัดงานแสดงขายผลงานศิลปะ ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ต้องขอสปอนเซอร์มาจัดอยู่ดีนั่นแหละ

โดยในช่วงนั้น นอกจาก “เงินจากทางปารีส” ก็มีอีกทางที่คอยสนับสนุน คือ คนที่ชื่อ “ปุ๊ก ฟ้าเดียวกัน”

ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่าทำงานให้ใคร?

ซึ่งกับทางนี้ คสพ.จบลงตั้งแต่มาหลอกให้ทำสติกเกอร์แจกฟรี ให้เหมือนกับสังคมสนใจการต่อต้านมากมาย

แต่จริงๆ แจกคนละ 100 อัน เพื่อให้ไปแจกต่อ ให้ดูเหมือนเยอะต่างหาก

สติกเกอร์เป็นแสนๆ ดวงนี่ผมทำเองได้หรอครับ? แจกฟรีผ่านเพจของศิลปินที่แทบไม่มีงานจ้างอ่ะนะ?ใครยังโง่เชื่อว่า “พรรคทำงานการเมืองแบบใหม่” ก็ตามใจครับ

เพราะสำหรับผม ก็แค่ให้คนอื่นทำแทนให้มือตัวเองสะอาดแค่นั้นเอง
ซึ่งเหตุการณ์นั้น ได้ทำให้ผมต้องพยายามขอเงิน
—————————–

ใครอ่านแล้วงง อ่าน “ทวนไป-ทวนมา” เดี๋ยวก็หายงง
หายแล้ว อยากถือตั๋วปารีสไปเข้าคอร์ส “ล้างสมอง” ที่เดนมาร์ก ก็อ่านนี่เลย
……………………………….
Dusit Sattasuwan อยู่กับ Hataichanok Unphon

ปิดรับผู้ที่จะมาร่วมในงานนี้แล้วนะครับ ทีมงานบอกว่า หาสถานที่รับรองคนจำนวนมากไม่ไหวครับ ด่วน!!ด่วน!!
มีใครสนใจจะไปคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ “คณะก้าวหน้า” บ้างไหมครับ

จะมีทีมงานมากัน 10 คน และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มาด้วยครับ

งานนี้จะจัดขึ้นในโคเปนเฮเกน วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคมนี้ครับ เวลาและสถานที่ยังไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่จะเข้าร่วมฟัง

ใครสนใจมาร่วมฟัง ช่วยยืนยันคำตอบภายในวันพรุ่งนี้ได้ไหมครับ วันที่ 10/8 นะครับ เพราะงานนี้ด่วนมาก ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ FB: Hataichanok Unphon

ใครมีคำถามอยากจะถามอะไร ให้จดเอาใว้แล้วค่อยไปถามที่งานนะครับ และถ้าใครไม่ชอบพวกเค้า ก็อย่ามาดราม่าใส่ผมนะครับ เดี๋ยวเจอผมสวนกลับไม่รู้นะ

เนื่องจากมีคนสนใจไปเยอะมากๆ แค่ผมโพสต์คนเดียวก็มีมาไม่ต่ำกว่า 50 คนแล้ว ตอนนี้เค้าได้จดชื่อทุกๆไว้แล้ว และกำลังคุยกับทีมงาน แล้วเดี๋ยวเค้าจะติดต่อกลับนะครับ…….
……………………………..

เร่งมือเข้านะ..ทอน
ทางนี้ก็จะเร่ง “เขียนรัฐธรรมนูญใหม่” เพื่อไปบรรจบกัน!

เปลว สีเงิน

๑๒ สิงหาคม

Written By
More from plew
แล้วก็ถึงวันที่ต้องถึง – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน สส.เท่ากับ “ลูกจ้าง” กินเงินเดือนประชาชน ทำงานแค่มานั่งด่ากันสัปดาห์ละ ๒ วัน ข้าวปลาอาหาร น้ำท่า เหล้ายา ปลาปิ้ง...
Read More
0 replies on “บรรจบที่ “รัฐธรรมนูญใหม่” – เปลว สีเงิน”