ผักกาดหอม
เอาไงแน่???
มีข่าวกระฉ่อน ดีลลับล่มเสียแล้ว “ทักษณ ชินวัตร ” ต้องเลื่อนกลับไทย จากวันที่ ๑๐ สิงหาคม เป็นเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้
ก็ต้องฟังหูไว้สามหู
อาจจะกลับหรือไม่กลับก็ได้
ถึงไม่กลับก็ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ เพราะ “ทักษิณ” พูดเรื่องกลับมาหลายรอบ
แต่ไม่ยอมกลับมาติดคุกสักที
ว่าแต่ “ดีลลับ” คืออะไร
ใช่ซูปเปอร์ดีลตั้งรัฐบาลหรือเปล่า
หรือช่องทางออกจากคุกก่อนกำหนด
หรือเกี่ยวพันกันทั้งหมด
การเมืองไทยมันยากเข้าใจจริงๆ ครับ
บรรดากูรูการเมืองฟันเฟิร์ม สมการตั้งรัฐบาลเวลานี้กลายเป็นว่า ทำเพื่อทักษิณคนเดียวซะงั้น
ก็ว่ากันไปครับ เรื่องดีลลับ พูดยาก เพราะมีคนรู้ไม่กี่คน บางคนไม่รู้แต่กลับรู้มากกว่าคนไปนั่งดีลด้วยตัวเอง ส่วนคนที่รู้จริงกลับไม่พูดสักแอะ ก็จะให้พูดได้ไงมันเป็นดีลลับ
แต่ที่ไม่ต้องนั่งเทียนคือ ปรากฎการณ์ที่มันเกิด
วันเสาร์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐที่น่าสนใจถึงขั้นชี้เป็นชี้ตายโฉมหน้ารัฐบาลกันเลยทีเดียว
“ลุงตู่” กับ “ลุงป๊อก” วางมือการเมืองแน่ๆ แล้ว แต่ “ลุงป้อม” ดูเหมือนยังมีลูกติดพัน
จะวางมือตามเมื่อไหร่ยังไม่รู้
แต่ประเด็นสำคัญ มันต้องมีขั้นตอน ๓ ป. ต้องไม่ถูกเสือกัด หลังลงจากกลังเสือ
ก็เข้าใจว่า “ลุงป้อม” อยู่รั้งท้ายคอยเคลียร์ ดูความเรียบร้อย ไม่ให้เสือย้อนมาไล่งับ
พรรคพลังประชารัฐรีเซตตัวเองเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไฮไลท์อยู่ที่ “ลุงป้อม” ลงนามคำสั่งพรรค แต่งตั้ง “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค
ตัวละครสำคัญมาโผล่ในช่วงสถานการณ์การเมืองกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม จะบอกว่า ตั้งเฉยๆ ไม่มีอะไร ยากที่ใครจะเชื่อ
แล้ว “พี่ป้อม” จะใช้งาน “น้องป๊อด” อย่างไร
ที่จริงคอการเมืองรับรู้ไปพอสมควรแล้วว่า “บิ๊กป๊อด” กับ “ทักษิณ” ไม่ใช่อื่นไกล
ในวันที่ “บิ๊กป๊อด” ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี ๒๕๕๑ เรียกเสียงฮือฮาด้วยการแบ่งงานสำคัญให้ นายตำรวจใกล้ชิดทักษิณดูแล
โดยเฉพาะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่หญิงอ้อ เมียทักษิณ
นี่เองคือสายสัมพันธุ์ระหว่าง ทักษิณ หญิงอ้อ เพรียวพันธ์ พัชรวาท และ “บิ๊กป้อม”
ไม่รู้จะเกี่ยวข้องกับดีลลับหรือไม่ประการใด แต่การเปิดตัว “พัชรวาท” ก็คือการเผยให้เห็นถึงสายสัมพันธ์นี้อีกครั้ง
และ “พัชรวาท” คงไม่มาเพื่อ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายค้าน
แต่มาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล
วันที่ ๔ สิงหาคมนี้ มีแนวโน้มว่าจะปิดฉากเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ เพราะท่าทีจากพรรคเพื่อไทยนั้น ชัดเจนกว่าที่ผ่านมามาก
ฟัง “เสี่ยอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย” พูดแล้ว ก้าวไกลเหนื่อย!
ยังไม่รู้ครับว่าเพื่อไทยจะนัดประชุม ๘ พรรค เพื่อชี้แจงการไปขอเสียงสนับสนุนจาก พรรคการเมืองอื่นๆ และสมาชิกวุฒิสภาในวันไหน
แต่คำพูด “เสี่ยอ้วน” มันแทงใจเหลือเกิน
“….เบื้องต้นจะนัดประชุม ๘ พรรคร่วมในช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาคม โดยจะได้ประสานแต่ละพรรคก่อนว่าว่างตรงกันวันไหน ช่วงเวลาใด จากนั้นจะได้ประสานเพื่อนัดประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ทางพรรคเพื่อไทยจะได้รายงานข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยได้ไปพูดคุย เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากทั้ง สว.และ ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ
ซึ่งทั้ง ส.ส.และ สว.ต่างมีปัญหาที่ตรงกัน คือห้ามแก้ไขมาตรา ๑๑๒ รวมถึงหากพรรคก้าวไกล ยังอยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล พวกเขาก็จะไม่ให้เสียงสนับสนุน
นี่คือสิ่งที่เราไปรับฟังมา และจะได้นำไปรายงานต่อที่ประชุม ๘ พรรคร่วม ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทางพรรคร่วมโดยเฉพาะพรรคก้าวไกลจะหาทางออกให้เราอย่างไร ซึ่งเราอยากให้พรรคก้าวไกลได้ตัดสินใจในส่วนนี้….”
จะบอกว่าเป็นการยื่นคำขาดก็ได้
บอกให้รู้ว่าก้าวไกลคือตัวปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล
ถ้าไม่มีก้าวไกล สว.และส.ส.นอกเหนือจาก ๘ พรรคพร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐
ก็ทำนองให้ก้าวไกลตัดสินใจเอง
ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน ตอนนี้ เพื่อไทย ออกปากไล่ ก้าวไกล ไปแล้ว
มันชัดขนาดนี้จนไม่รู้ว่าจะตีความอย่างไรได้อีก
แต่ ก้าวไกล ยังคงทำเป็นซื่อตาใส เกาะขาไว้ก่อน
ครับ…สังเกต ช่วงไม่กี่วันมานี้ แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่ค่อยพูดถึงพรรคก้าวไกลในมุมบวกนัก
บางคนถึงขนาดบอกว่า ก้าวไกล ทำตัวเป็นภาระ!
“สหายการะเกด-อดิศร เพียงเกษ” พูดแรงเอาเรื่อง
“…การแก้ปัญหาขณะนี้ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะไปแก้ปัญหาให้พรรคก้าวไกล ทั้งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงจะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคมให้ประชาชน ไม่ได้มาแก้ปัญหาให้พรรคก้าวไกล ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ละพรรคต้องไปแก้ไขปัญหาของตัวเอง
พรรคก้าวไกลต้องไปตัดสินใจแก้ปัญหาตัวเอง อย่าโยนปัญหาให้คนอื่น
เช่น กรณีมาตรา ๑๑๒ ต้องไปหาวิธีจะแก้ปัญหาของตัวเองอย่างไร อย่าเป็นปัญหาให้เพื่อน…”
ไม่รู้ว่าดีลลับคืออะไร ล่มหรือไม่ล่ม แต่ ณ วินาทีนี้ เพื่อไทย ไม่เอาก้าวไกลแล้ว
หากไม่มี ก้าวไกล สูตรจัดตั้งรัฐบาลจะมีกี่สูตร
ถ้าไม่มีพรรค ๒ ลุง ตั้งได้หรือเปล่า
เอาเพื่อไทย ๑๔๑ เสียงเป็นตัวตั้ง ถ้าไม่มีก้าวไกล และ ๒ ลุง ก็จะมีภูมิใจไทย ๗๑ เสียง ชาติไทยพัฒนา ๑๐ เสียง ประชาชาติ ๙ เสียง รวมอีกพรรคเล็กพรรคน้อยอีก ๑๗ เสียง
ขาดอีกนิดเดียวได้ ๒๕๐ เสียง
แล้วประชาธิปัตย์ ๒๕ เสียงหล่ะ ถ้ายอมร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลได้ทันที โดยมีพรรค ๒ ลุง กับก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน
แต่สมการนี้ยากพอควร หากประชาธิปัตย์ยอมไปร่วมรัฐบาลที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำ กองเชียร์คงต้องกลับไปล้างสมองใหม่หมด
ต้องทำสมองให้ว่างเข้าไว้ถึงจะยอมรับได้
ครับ…คงต้องจบที่ “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ”
“บิ๊กป๊อด” มาเพื่อเป็นรัฐมนตรี โควต้าพรรคพลังประชารัฐ
