สธ. ร่วมกับ กต. หารือกับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยและเครือข่ายนานาชาติเตรียมพร้อมรับมือโรคไวรัสโคโรนา 19 ระดับนานาชาติ

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) นำเสนอการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 19 พร้อมหารือร่วมกับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยและหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคไวรัสโคโรนา 19 และร่วมกันส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพของทุกประเทศทั่วโลก

วันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2563) ที่ กรมควบคุมโรค นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้ นายแพทย์สมบัติ แทนประเสริฐสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ร่วมกับ นายณัฐวัฒน์กฤษณามระ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในการประชุมหารือความร่วมมือและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 19 ที่แพร่ไปในหลายประเทศ

โดยมีผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยจาก 62 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศและหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวม 20 หน่วยงานเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

นายแพทย์สมบัติ กล่าวว่า การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 19 ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นมา และแพร่กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งประเทศไทยได้ดำเนินการมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอย่างเข้มข้นตั้งแต่ในช่วงต้น ๆ ของการระบาดในต่างประเทศ

โดยโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้ยังขาดความชัดเจนในหลายด้าน โดยเฉพาะองค์ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของโรค

ดังนั้น การบรรเทาผลกระทบของการระบาดจึงต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ประชาชน เอกชน ซึ่งรวมถึงเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งในและระหว่างประเทศ เพื่อรับมือและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขนี้อย่างใกล้ชิด

โดยสถานการณ์ล่าสุดของโรคไวรัสโคโรนา 19 ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยัน 33 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 11 ราย รักษาในโรงพยาบาล 22 ราย และมีผู้ป่วยที่มีอาการตามนิยามเฝ้าระวังโรคและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวนหนึ่ง

ผลทางห้องปฏิบัติการพบว่าผู้ป่วยตามนิยามฯ ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้การรักษาจนหายและอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกลไกป้องกันและควบคุมการระบาดของประเทศไทยครอบคลุมทั่วประเทศว่า มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย) เป็นประธาน และบังคับใช้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขในทุกระดับ (ระดับชาติ กระทรวง และจังหวัด) เพื่อ

(1) ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์และการตรวจคัดกรองผู้เดินทางในทุกช่องทางเข้า-ออกประเทศ รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคในโรงพยาบาลทุกแห่งและในชุมชน

(2) ให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลในห้องแยกโรค

(3) ติดตามค้นหาและสังเกตอาการผู้สัมผัสเสี่ยงเป็นเวลา 14 วัน

(4) สนับสนุนการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

(5) สนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์

(6) เพิ่มการศึกษา วิจัยพัฒนา

(7) พัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

และ (8) สื่อสารความเสี่ยงแก่บุคคล หน่วยงาน หรือพื้นที่ที่เสี่ยง

ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นจะสามารถทำให้ประเทศไทยลดความเสี่ยงจากการระบาดของโรคได้มากที่สุด

ด้าน สัตวแพทย์หญิงเสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า กรมควบคุมโรคได้จัดทำเว็บไซต์สำหรับประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง 3 ภาษา (ไทย อังกฤษ จีน) เพื่อให้ข้อมูลต่างๆ เช่น สถานการณ์ ความรู้เรื่องโรค วิธีการป้องกัน สื่อมัลติมีเดีย รวมถึงรายงานสถานการณ์หรือข่าวเพื่อสื่อมวลชนที่กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอต่อประชาชน

สำหรับในการประชุมครั้งนี้ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้นำเสนอมาตรการควบคุมป้องกันโรคนี้ ผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย และองค์กรระหว่างประเทศ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซักถาม ให้ข้อเสนอแนะ และร่วมพัฒนากลไกการประสานความร่วมมือเพื่อให้สามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 19 ให้เป็นผลสำเร็จ และร่วมกันส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพของทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงลดผลกระทบต่อประชาชน สังคม และเศรษฐกิจให้มากที่สุด

Written By
More from pp
‘เอส เทลลิเจนซ์’ ฉลองครบรอบ 10 ปี รับการลงทุนจาก ‘บัวหลวงเวนเจอร์ส’ เสริมความแข็งแกร่งด้านดิจิทัล ชี้เทรนด์ธุรกิจที่มีความต้องการสูง เล็งเสริมศักยภาพขยายโซลูชั่น และฐานลูกค้าให้รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
เอส เทลลิเจนซ์ (STelligence) ผู้ให้บริการ Digital Transformation และ Data Analysis (เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล) พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านไอทีโซลูชั่น ให้แก่ทุกองค์กรหลังจากได้รับการสนับสนุนจาก...
Read More
0 replies on “สธ. ร่วมกับ กต. หารือกับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยและเครือข่ายนานาชาติเตรียมพร้อมรับมือโรคไวรัสโคโรนา 19 ระดับนานาชาติ”