ผักกาดหอม
๑๔ พฤษภาคมนี้ สโลแกนพรรคก้าวไกล เขียนว่า…
“กาก้าวไกล ๒ ใบ ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”
ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ก็ยิ่งเห็นทิศทาง
ที่บอกว่าประเทศไทยไม่เหมือนเดิมนั้น ไม่เหมือนเดิมแบบไหน อย่างไร
ดีขึ้น หรือ เลวลง
เป็นหน้าที่ของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งต้องค้นหาว่า หากประเทศไทยตกอยู่ในอุ้งมือของนักการเมืองจากพรรคก้าวไกล ประเทศไทยจะมีอะไรที่แตกต่างออกไปจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ประการแรกที่พบเจอได้มากขึ้นทุกวันคือ ความก้าวร้าวของคนรุ่นใหม่ กลุ่มที่เป็นมวลชนของพรรคก้าวไกล
ย้ำนะครับ คนรุ่นใหม่บางส่วนเท่านั้นที่บูชาพรรคก้าวไกล ไม่ต่างลัทธิการเมือง
ไม่ได้หมายความว่าคนรุ่นใหม่ทุกคนต้องเลือกพรรคก้าวไกล
เมื่อวันพุธตอนเย็นๆ มวลชน ๓ นิ้วกลุ่มหนึ่งไปใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยในแบบฉบับของตนเองกันอย่างสุดเหวี่ยง
พวกนี้เปลี่ยนชื่อกลุ่มไปเรื่อยๆ
อีเวนต์นี้ใช้ชื่อว่า กลุ่ม “เพื่อนหยก”
“หยก” คือใคร?
เรื่องราวมันสืบเนื่องมาจากกรณีการจับกุมคนมือบอน แต่ลัทธิล้มเจ้าเรียกว่า “ศิลปินอิสระ” ที่พ่นสีข้อความ ๑๑๒ พร้อมขีดทับ และสัญลักษณ์อนาคิสต์บนกำแพงวัดพระแก้วเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ที่ผ่านมา
ครั้งนั้นมีการจับ “หยก” เด็กหญิงวัย ๑๕ ปีไปด้วย
ย้อนกลับไปเดือนกุมภาพันธ์ “หยก” ถูก “อานนท์ กลิ่นแก้ว” ประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) แจ้งความฐานความผิดตาม ม.๑๑๒
“ธนลภย์” หรือ “หยก” เจ้าของนามแฝงบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า “สหายนอนน้อย” ร่วมเคลื่อนไหวให้ยกเลิก ม.๑๑๒ มาตั้งแต่ปี ๒๕๖๕
ถูกฟ้องเพราะพบว่าได้เขียนข้อความเข้าข่ายความผิดตาม ม.๑๑๒
ช่วงต้นปี ๒๕๖๖ ได้รับหมายเรียกคดี ม.๑๑๒ จาก สน.สำราญราษฎร์
ครั้งนั้น “หยก” ให้ทนายความทำหนังสือเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหา โดยระบุว่าเนื่องด้วยภารกิจทางการศึกษา
จึงขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวไปเป็นวันที่ ๙ เมษายนแทน
เดือนกุมภาพันธ์ พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องให้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางออกหมายจับ “หยก” ให้เหตุผลว่า มีหลักฐานสมควรว่าได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน ๓ ปี
๒๘ มีนาคม “หยก” ร่วมเคลื่อนไหวพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว และถูกจับกุม
๒๙ มีนาคม ศาลเยาวชนฯ มีคำสั่งอนุญาตออกหมายควบคุมตัว ซึ่งมีผลทำให้ “หยก” ถูกส่งตัวไปควบคุมไว้ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี อ.สามพราน จ.นครปฐม ทันที
๑๐ พฤษภาคม กลุ่มเพื่อนหยก บุก สน.สำราญราษฎร์ บอกว่าเรียกร้องให้ปล่อย “หยก” แต่กลับไปทำพิธีประหลาด เอาสีไปทาศาลพระภูมิ ศาลเจ้า และ สน.
มีการปะทะกันเล็กน้อยระหว่างตำรวจกับม็อบ ๓ นิ้ว
มีตำรวจถูกทำร้ายร่างกายเลือดสาด
“ตะวัน-แบม” เจ้าเก่าถูกคุมตัวไปขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง
ครั้งนี้ยังไม่มีนักการเมืองจากพรรคก้าวไกลไปประกันตัว เพราะ ส.ส.กลายเป็นอดีต ส.ส.ไปหมดแล้ว จึงใช้ตำแหน่งประกันตัวไม่ได้
คดี “หยก” มีความน่าประหลาดใจตรงที่ ไม่มีผู้ปกครองที่แท้จริง มาทำเรื่องขอประกันตัว
สวนทางกับการอ้างว่าเป็น “เยาวชน”
“โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา” หยิบประเด็นนี้ไปโพสต์ในโซเชียล จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันลั่นทุ่ง
…เรื่องหยก
…บอกให้พ่อแม่น้องแต่งทนายแล้วยื่นประกันสิคะ เขาอยากปล่อยอยู่แล้ว แต่จะปล่อยเด็กไปไหนในเมื่อแม้แต่ผู้ปกครองก็ไม่มาแสดงตัว และเจ้าตัวปฏิเสธกระบวนการ รัฐก็ต้องรับผิดชอบ
… บรรยากาศการเมืองที่รุนแรงและการให้ท้ายกับทุกการกระทำแบบที่เกิดเมื่อคืน บอกตรงๆ น้องอยู่บ้านปรานีในตอนนี้ยังปลอดภัยกว่าปล่อยออกมาเจอผู้ใหญ่แถวนี้อีก
ถ้ามีการยื่นประกันแล้วไม่ให้จริงๆ ค่อยว่ากัน….
ดูเหมือนว่าพล็อตเรื่องนี้ใครๆ ก็มองออกแล้ว
ผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลังยุเด็กไปติดคุก ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
อะไรดลใจให้ “หยก” ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ไม่ขอมีที่ปรึกษาทางกฎหมาย ไม่ขอเซ็นเอกสารใดๆ และไม่ยื่นขอประกันตัว
ราวกับว่าได้อิทธิพลมาจาก “ตะวัน-แบม” ที่ไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น
ขู่พลีชีพ อดอาหารในคุกจนตาย
ได้รับการปล่อยตัวไปนอนโรงพยาบาล ก็ยังออกข่าวว่าใกล้จะตายแล้ว มี ส.ส.พรรคก้าวไกล และอาจารย์ธรรมศาสตร์บางคน ยืนยุอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย
สุดท้ายติดกับดักตัวเองจนไปไม่เป็น หันมากินข้าว
กระทั่งมีแรงพาพวกบุกไปทำพิธีกรรมอัปรีย์ที่ สน.สำราญราษฎร์ และกลับเข้าห้องขังอีกครั้ง ก่อนจะมีการเลือกตั้งไม่กี่วัน
มาทำอะไรพิเรนทร์กันในช่วงนี้ทำไม?
หวังให้เกิดกระแสเชิงบวกกับพรรคการเมืองไหน
ทั้ง “แบม-ตะวัน-หยก” ล้วนเป็นผลิตผลทางความคิดและการปั่นของพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล
เป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่องจากบรรดาเซเลบแกนนำ ๓ นิ้ว ที่ติดเงื่อนไขประกันตัวของศาล ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ที่อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือด้อยค่าต่อสถาบันและสถาบันศาลในทุกด้าน
พรรคก้าวไกล มีนโยบายชัดเจน แก้ ม.๑๑๒ ที่มากกว่าแก้
เนื้อหาการแก้ ด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้รับการปกป้องน้อยว่าประชาชนธรรมดาเสียด้วยซ้ำ
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ก็ชัดเจนมานานแล้ว อ้างว่าเป็นการแก้ไขเพื่อเป็นทางสายกลางและเกิดฉันทามติจากสังคม หากไม่แก้ไขเมื่อไร สภาไม่ทำงาน เกรงว่าจะไปถึงยกเลิก
เป็นการขู่ว่า ถ้าไม่แก้ ก็จะถูกบังคับให้ยกเลิก
นี่แค่เรื่องเดียวตามสโลแกน ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ของพรรคก้าวไกล
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เป้าหมายแก้ ม.๑๑๒ ไม่ใช่เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามคำกล่าวอ้างที่ดูสวยหรูของคนอย่าง “ธนาธร-ปิยบุตร”
ในขณะที่ พรรคก้าวไกล เดินหน้าปลุกกระแสแก้ ม.๑๑๒ นักการเมืองจมูกยาวกลุ่มนี้กลับใช้กฎหมายปิดปากผู้อื่น ด้วยการฟ้องหมิ่นประมาท “หมอวรงค์” เรียกค่าหน้าบางถึง ๒๔ ล้านบาท
ย้อนแย้ง อย่างสิ้นเชิง
๑๔ พฤษภาคม กาก้าวไกล ประเทศไทยจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม
จะเป็นประเทศใหม่ที่ลุกโชนด้วยไฟสงคราม
เป็นสงครามทุกระดับ
ตั้งแต่ระดับครอบครัวยันระดับประเทศ
