กว่าจะมาเป็นวันนี้ของ “มาร์ค พิทบูล” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย หมายเลข 49 นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ผ่านเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์สารพัด แต่ยังคงรักษาฐานแฟนคลับไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เพราะ “มาร์ค พิทบูล” คือนักสู้เพื่อความยุติธรรมของปวงชน อย่างแท้จริง
เปิดประวัติ “มาร์ค พิทบูล” หรือ นายณัชพล สุพัฒนะ ปัจจุบันอายุ 56 ปี เกิดและเติบโตที่ จังหวัดจันทบุรี มีพี่น้อง 4 คน
โดย มาร์ค เป็นคนสุดท้อง ครอบครัวประกอบธุรกิจเหมืองพลอย หลังจากเรียนจบวิทยาลัยเทคนิค ต้องการเรียนต่อในสาขาช่างแต่ไม่มีสถานศึกษารับ เนื่องจากรูปร่างที่เล็กเกินไป จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อเรียนในสาขาบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เมื่อเรียนจบได้ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง จนเกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ ทางบริษัทได้ทำการปลดพนักงานออก “มาร์ค พิทบูล” คือหนึ่งในนั้น
ด้วยความรู้สึกเสียใจ จึงแจ้งขอลาออกเองเพื่อขอไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่ตัวเองไม่มีความพร้อม ทั้งทุนทรัพย์ และภาษา การเดินทางไปเรียนต่อจึงมีอุปสรรคอย่างมาก ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อหาเลี้ยงตนเอง และเรียนไปด้วย ต่อสู้ชีวิตจนเรียนจบ ในช่วงเวลาประมาณ 4 ปี 9 เดือน จึงกลับมาที่ประเทศไทย
ชีวิตการทำงานที่ผ่านมาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำงานเริ่มจากเงินเดือนหลักหมื่น เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นหลักแสน เจอการดูถูกเอาเปรียบสารพัด จนตั้งเป้าเกษียณตัวเองตอนอายุ 43 ปี เพื่อใช้เวลากับครอบครัวและท่องเที่ยว แต่แล้วด้วยความมีอุดมการณ์ และความตั้งใจในการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ไม่หยุด วันนี้ชื่อมาร์ค พิทบูล จึงกลับมาอีกครั้งในฐานะ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนสำคัญในการเลือกตั้ง 2566 จากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย
และชื่อที่หลายคนสงสัยที่มา “มาร์ค พิทบูล” มาจากการเปลี่ยนชื่อเมื่อตอนอยู่ต่างประเทศ ให้เพื่อนต่างชาติเรียกง่ายขึ้น และฉายา “พิทบูล” มาจากการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ พิทบูล เทอร์เรีย ซึ่งก็ได้นำสุนัขที่เลี้ยงจากอเมริกากลับมาเลี้ยงต่อที่ไทยด้วย
พร้อมเปิดเพจให้ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงพิทบูล และสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ ตั้งแต่การดูแล การให้ความรัก จนทำให้เป็นประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล ที่มีผู้ติดตาม เกือบ 1 ล้านคน และมีฐานแฟนคลับมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากไลฟ์สไตล์ส่วนตัวเรื่องสุนัขแล้ว “มาร์ค พิทบูล” ยังเป็นนักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม อย่างตรงไปตรงมา ด้วยนิสัย กล้าพูด กล้าวิจารณ์ กล้าท้าชน ด้วยความจริง มักจะแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาต่าง ๆ นโยบายทางการเมือง หรือการทำงานของรัฐบาล ผ่านสื่อออนไลน์ ให้เป็นประเด็นถกเถียงที่ตรงใจแฟนคลับได้อยู่เสมอ
จนมีแฟนคลับเข้ามาร้องเรียนขอให้ช่วยเป็นปากเสียง คลายความเดือดร้อนให้อยู่เป็นประจำ แต่ที่ผ่านมาตนก็เลือกที่จะนำเสนอข้อมูลในรูปแบบการสอน อาชีพ ให้ความรู้มากกว่า
จนมาวันนี้ชื่อ “มาร์ค พิทบูล” กลับมาอีกครั้งอย่างสง่างาม ด้วยการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หมายเลข 49 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนสำคัญในการเลือกตั้ง 2566 จากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ด้วยการชูนโยบายพรรค 5 ข้อ ได้แก่
1. การปราบโกง, 2. การปฏิรูปหน่วยงานราชการ, 3. สร้างอาชีพที่มั่นคง, 4. ปฏิรูปการศึกษาให้มีคุณภาพ และ 5. คืนความเป็นธรรมให้สังคม พร้อมเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่จะพูดความจริง เป็นตัวแทนของประชาชน เพื่อปกป้องทุกสิทธิ กระตุ้นให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมผลักดันให้เศรษฐกิจประเทศไทยมีความก้าวหน้า พร้อมคืนผืนป่าให้เป็นที่ทำกินของทุกคน