น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์เหตุไฟป่าในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช พร้อมขอให้กองทัพสนับสนุนการปฏิบัติการเพื่อดำเนินการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนและทรัพยากรธรรมชาติ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ล่าสุดนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน องค์กรภาคประชาชนและประชาชนจิตอาสา ได้สรุปสถานการณ์กรณีไฟไหม้ป่าพื้นที่ตำบลพรหมณี และตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ว่า
สถานการณ์ปัจจุบันไฟป่าได้ดับลงแล้วทั้งหมดจากการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นในระยะเวลา 5 วัน สามารถควบคุมและดับไฟป่าลงได้ทั้งหมดแล้ว จึงได้ลดระดับศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับจังหวัดเป็นศูนย์อำนวยการฯ ระดับท้องถิ่น เพื่อติดตามเฝ้าระวังต่อไปในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ร่วมกับการปฏิบัติการทางอากาศของอากาศยานในการทิ้งน้ำดับไฟป่า ซึ่งสามารถควบคุมและดับไฟป่าลงได้แล้ว
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ได้ขอบคุณที่ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ที่สำคัญคือได้รับความใส่ใจและกำกับดูแลจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้สั่งการทุกภาคส่วนทุกหน่วยงานระดมความช่วยเหลือนครนายก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ลงพื้นที่ให้กำลังตั้งแต่วันแรกที่เปิดศูนย์อำนวยการฯ พร้อมส่งเฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันบรรเทาภสาธารณภัยมาช่วยโดยตรง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเครื่องบินและสรรพกำลังของกระทรวงมาช่วย เป็นต้น
“พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ระดมสรรพกำลังช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในครั้งนี้ พร้อมกับเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ และติดตามการฟื้นฟูสภาพป่า ที่สำคัญคือความร่วมมือของประชาชน และทุกภาคส่วนในการป้องกันและลดการเผาทำลายป่า พื้นที่การเกษตรในทุกพื้นที่
ทั้งนี้ นอกจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ได้มุ่งขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนในทุกมิติ ตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี2050 (พ.ศ.2593) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ได้ในปี 2065 (พ.ศ.2608) ได้จัดตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มาตรการส่งเสริมพลังงานสะอาด สนับสนุนรถEV และสนับสนุนแนวทางเศรษฐกิจBCGโมเดล เป็นสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงมือทำแล้ว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และวางรากฐานให้คนรุ่นหลังในมิติของสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่ดี” น.ส.ทิพานัน กล่าว
