ผักกาดหอม
เป็นเล่นไป…
เรื่องยุบพรรค ระวัง! อาจเกิดขึ้นได้
แต่จะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง ยากที่จะคาดเดา
ที่ไม่ต้องเดาก็คือ รายงานจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการยื่นคำร้องยุบพรรค เยอะเสียจนน่าตกใจ
คำร้องขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคการเมืองต่างๆ เนื่องจากมีการกระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๙๒ ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ๒๕๖๐ พบว่าตั้งแต่ปลายปี ๒๕๖๓ จนถึงต้นปี ๒๕๖๖ มีพรรคการเมืองถูกร้องทั้งสิ้น ๒๕ พรรคการเมือง
รวม ๘๓ เรื่องร้องเรียน
ในจำนวนนี้มี ๖๑ เรื่องที่นายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่าไม่มีมูลจึงให้ยุติเรื่อง และอีก ๑๙ เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณา
ใน ๒๕ พรรคการเมืองที่ถูกยื่นเรื่องร้องยุบพรรคมากที่สุดคือพรรคเพื่อไทย ๓๓ เรื่อง ยุติเรื่องแล้ว ๒๗ เรื่อง
อยู่ระหว่างพิจารณาอีก ๖ เรื่อง
พรรคพลังประชารัฐถูกร้อง ๑๕ เรื่อง ยุติเรื่องแล้ว ๑๑ เรื่อง
อยู่ระหว่างพิจารณา ๓ เรื่อง
พรรคประชาธิปัตย์ถูกร้อง ๓ เรื่อง ยุติเรื่องแล้ว ๒ เรื่อง
พรรคพลังธรรมใหม่ถูกร้อง ๓ เรื่อง ยุติเรื่องแล้ว ๒ เรื่อง
สำหรับ พรรคเสรีรวมไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคประชาธรรมไทย พรรคพลังชาติไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคพลเมืองไทย ถูกร้องพรรคละ ๑ เรื่อง
กลุ่มนี้เรื่องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
ที่นายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นยุติเรื่องแล้วทั้งหมด มีดังนี้
พรรคก้าวไกลถูกร้อง ๕ เรื่อง
พรรคภูมิใจไทยถูกร้อง ๒ เรื่อง
พรรคคลองไทยถูกร้อง ๒ เรื่อง
พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรครักษ์ประเทศไทย พรรคพลังชล พรรครักษ์สันติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคมาตุภูมิ และพรรคมหาชน ซึ่งถูกร้องพรรคละ ๑ เรื่อง
ที่หนักหนาสาหัสคือ พรรคไทรักธรรมซึ่งถูกร้อง ๓ เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคจากเหตุที่ถูกร้องไปแล้ว ๒ เรื่อง
เหลืออยู่ในระหว่างการพิจารณา ๑ เรื่อง
มาดูพรรคเพื่อไทย คำร้องที่อยู่ในความสนใจ แต่ กกต.มีมติยุติเรื่องไปแล้ว อาทิ ร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการยอมให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ชี้นำ ครอบงำ การดำเนินกิจการพรรค
คลิปลับพูดคุยชี้นำสมาชิกพรรคในงานเลี้ยงวันเกิดของ “เกรียง กัลป์ตินันท์”
การเสนอแก้ ป. อาญา มาตรา ๑๑๒
กรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อ้างถูกนายทักษิณปลดออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
คลิปงานเลี้ยงพรรคเพื่อไทยที่ชูคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เป็นหัวหน้าพรรค และแนวทางการทำให้พรรคชนะแบบแลนด์สไลด์
การปรากฏข้อความบนเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทย ชวนประชาชนรวมพลไล่ประยุทธ์
ทั้งหมดนี้ถูกตีตกไปแล้ว
แต่คำร้องยุบพรรคเพื่อไทยที่ยังเหลือ อาทิ
พรรคเพื่อไทย แต่งตั้ง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ซึ่งเป็นผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
การที่ “แพทองธาร ชินวัตร” บินไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง
หลายกรณีที่พรรคเพื่อไทยถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องการครอบงำโดย “ทักษิณ ชินวัตร” ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องไร้หลักฐานเชิงประจักษ์
การตีความคำว่า “ครอบงำ” ดูจะยังมีปัญหาอยู่ไม่น้อย แค่ไหนถึงจะเรียกว่าครอบงำ
ส่งลูกสาวเข้ามาคุมพรรค ถือว่าครอบงำแล้วหรือยัง
ดูอากัปกิริยาหัวหน้าพรรค ที่ต้อนรับ “ลูกสาวทักษิณ” หรือตอนที่ยืมกุมเป้าคุยกับคุณหญิงเจ้าของพรรค คือการแสดงมารยาทอันดีงาม หรือการแสดงถึงลำดับชั้นในพรรคเพื่อไทยกันแน่
ของแบบนี้มันเห็นได้ด้วยตาเปล่า
มันครอบงำตั้งแต่ที่ทำการพรรคแล้ว
อาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ของ “O-Oke, A-Aim, I-Ing” เป็นมรดกจาก “ทักษิณ ชินวัตร”
ครอบงำหรือเปล่ามิทราบ แต่ที่นี่คือกองบัญชาการทางการเมืองของตระกูลชินวัตร
ฟัง “จตุพร พรหมพันธุ์” พูดถึงการยุบพรรคเพื่อไทยมาหลายรอบ เตือนให้ระวังตายน้ำตื้น ก็พอมีเค้า แต่จะยุบหรือไม่ อยู่ที่ศาล
ก่อนหรือหลังเลือกตั้งก็ตอบไม่ได้ เพราะ ไทยรักษาชาติ ถูกยุบก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน
ฉะนั้นไม่ขอฟันธง
แต่การยุบพรรคก่อนหรือหลังเลือกตั้งให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ยุบก่อนเลือกตั้งก็จบแบบไทยรักษาชาติ ผู้สมัคร ส.ส.หายไปทั้งพรรค
ยุบหลังเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.แล้ว ยังย้ายพรรคได้ เหมือน อนาคตใหม่ ย้ายไป ก้าวไกล
ยุบหรือไม่ยุบยังไม่รู้ แต่วันนี้ “ชลน่าน ศรีแก้ว” เมาหมัดอย่างแรง พูดถึงเป้าหมายพรรคฟังดูแล้วเหมือนจะกินยาผิด
“เป้าหมายเราคือต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งการจะจัดตั้งรัฐบาลได้ต้องใช้เสียง ๓๗๖ เสียง และการที่เราจะไปพึ่ง ส.ว. โอกาสเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่เขามีจิตสำนึกว่าเราได้เสียงข้างมากมา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เลือนราง ซึ่งสิ่งที่เป็นไปได้ที่สุดคือจะทำอย่างไรเมื่อเราได้ ๓๑๐ เสียงแล้ว เราจะหาแนวร่วมจากเฉพาะ ส.ส.มาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องไปอาศัยเสียงของ ส.ว. ฉะนั้น การที่เราจะจับมือกับพรรคแนวร่วมเดียวกันจึงเป็นไปได้สูง
แนวทางที่เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยร่วมกัน อุดมการณ์ก็น่าจะไปด้วยกันได้ดีกว่า หากเราได้ ๓๑๐ เสียง เราก็จะเชิญพรรคที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเรามาร่วมโหวตนายกฯ แต่เขาจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ก็เป็นเงื่อนไขเขา หากเขาบอกว่าไม่ร่วมรัฐบาลกับเรา แต่จะโหวตนายกฯ ให้ก็เป็นเงื่อนไขต่อไป และหากเขาบอกว่าจะขอร่วมรัฐบาลก็เป็นเงื่อนไขที่ต้องมาคุยกัน”
ฟังดูทะแม่งๆ!
ไม่เห็นหัวพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมเลย
พูดแบบนี้ไม่ต่างเสร็จนาฆ่าโคถึก
ได้ ๓๑๐ เสียงเป็นรัฐบาลพรรคเดียวสบาย
แต่โหวตเลือกนายกฯ ต้องหาเพิ่้มอีก ๖๖ เสียง
โดยสปิริต ขอเสียงจากพรรคพันธมิตรเพิ่ม ๖๖ เสียง อย่างไรเสียต้องให้เขาร่วมรัฐบาลด้วย เพราะล่มหัวจมท้ายกันแล้ว
แต่ ชลน่าน ทำราวกับว่าตอนนี้มี ส.ส. ๓๑๐ คนอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว จะให้ใครร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมก็ได้
ฝันเฟื่องมาตั้งแต่แรก จบที่ฝันเปียกก็ไม่แปลกครับ
แต่ดูน้ำเสียงแล้วเหมือนตีกันพรรคก้าวไกล ไม่ให้ร่วมรัฐบาลเสียมากกว่า
เพราะเงื่อนไขของก้าวไกลเสี่ยงทำให้อายุรัฐบาลสั้นจู๋ได้ง่ายๆ
ครับ…นี่คืออาการหลอนตัวเอง ไปสร้างชุดความเชื่อกันเองว่าจะได้ส.ส. ๓๑๐ ที่นั่ง แล้วเชื่อเป็นตุเป็นตะ หลอนไปไกลถึงขั้นตั้งรัฐบาลพรรคเดียวไม่ง้อใคร
เชื่อหรือไม่ หลังเลือกตั้ง เพื่อไทยจะยังคงเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม
คอยดู