เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยทและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าว “งานคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ในวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต โดยภายในงานจะมีการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 400 เขต และการเปิดตัวนโยบายครั้งใหญ่ของพรรคเพื่อไทย
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 10.00-12.00 น. ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อไทยจะจัดงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทย ทุกคน” โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือในงานนี้จะมีกิจกรรมที่สำคัญ คือ
1.การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบ 400 เขต เพื่อสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันความมุ่งมั่น ความมั่นใจ และความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทย และตัวผู้สมัคร ว่ามีความพร้อมที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้
รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ของประชาชนลงไปสู่พี่น้องประชาชนให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง การสื่อสารนโยบายที่ชัดแจ้ง สร้างความหวัง สร้างอนาคต สร้างความชัดเจน ไม่ว่ากลไกใดๆที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครของพรรคจะเดินหน้าสื่อสารนโยบาย เชื่อว่าจะสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคเหล่านั้นได้
2.การเปิดตัวนโยบาย ที่เป็นความหวังอนาคตและสามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ และเป็นการสร้างความมั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.จะเข้ามาทำหน้าที่ ด้วยเป้าหมาย 310 เสียงขึ้นไป
วันที่ 17 มีนาคมนี้ ถือเป็นวันหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่พรรคเพื่อไทยแสดงความพร้อม ทั้งบุคลากร นโยบาย และคณะทำงานของพรรค ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาค โดยจะยังไม่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในวันดังกล่าว พร้อมย้ำว่าจะประกาศรายชื่อหลังการยุบสภา
“ฝากพี่น้องประชาชนติดตามในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต และนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพื่อมาสร้างโอกาส สร้างความหวัง ให้กับพี่น้องประชาชนเองและประเทศชาติบ้านเมือง” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบความสำเร็จของการเลือกตั้ง คือ
1.ผู้นำหรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
2.กลไกพรรคในการนำเสนอนโยบาย 3.ประชาชนที่ให้การสนับสนุนและอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
4.ผู้สมัครที่เป็นแนวหน้ารับฟังปัญหาจากประชาชนและนำกลับมาปรับปรุงนโยบาย ซึ่งบางนโยบายได้เปิดตัวไปแล้ว และจะมีนโยบายสำคัญอื่นๆ เพิ่มเติม
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพรรคเพื่อไทยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากมวลชนในทุกมิติ เราออกไปพบกับบุคลากรทุกวิชาชีพ ทั้งชาวนา นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และเยาวชน ซึ่งล้วนอยากเปลี่ยนแปลงและต้องการความหวัง วันนี้พวกเขาเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยและเป็นพรรคหลักที่ต่อสู้กับระบอบประยุทธ์ได้
